ReadyPlanet.com


ฟ้องหย่า


ชายหญิงที่ตกลงปลงใจแต่งงานกัน ต่อมามีเหตุที่อาจทำร้ายจิตใจ ร่างกายกัน จนอีกฝ่ายไม่อาจทนอยู่ด้วยได้ จะฟ้องหย่าได้หรือไม่


ผู้ตั้งกระทู้ aon :: วันที่ลงประกาศ 2005-06-07 11:19:57 IP :


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (123666)
มีการขอหย่าขาดจากกันได้ แต่ถ้าอีกฝ่ายไม่ยอมหย่าด้วย ก็ต้องอาศัยบารมีศาลในการฟ้องหย่า แต่การฟ้องหย่า ต้องมีเหตุที่จะฟ้องหย่า เหตุฟ้องหย่าตามกฎหมาย มาตรา 1516 เหตุฟ้องหย่ามีดังต่อไปนี้ (1) สามีอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องหญิงอื่นฉันภริยาหรือภริยามีชู้อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้ (2) สามีหรือภริยาประพฤติชั่ว ไม่ว่าความประพฤติชั่วนั้นจะเป็นความผิดอาญาหรือไม่ ถ้าเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่ง (ก) ได้รับความอับอายขายหน้าอย่างร้ายแรง (ข) ได้รับความดูถูกเกลียดชังเพราะเหตุที่คงเป็นสามีหรือภริยาของฝ่ายที่ประพฤติชั่วอยู่ต่อไป หรือ (ค) ได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนเกินควร ในเมื่อเอาสภาพ ฐานะและความเป็นอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยา มาคำนึงประกอบอีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้ (3) สามีหรือภริยาทำร้าย หรือทรมานร่างกายหรือจิตใจ หรือหมิ่นประมาทหรือเหยียดหยามอีกฝ่ายหนึ่งหรือบุพการีของอีกฝ่ายหนึ่ง ทั้งนี้ถ้าเป็นการร้ายแรงอีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้ (4) สามีหรือภริยาจงใจละทิ้งร้างอีกฝ่ายหนึ่งไปเกินหนึ่งปีอีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้ (4/1) สามีหรือภริยาต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก และได้ถูกจำคุกเกินหนึ่งปีในความผิดที่อีกฝ่ายหนึ่งมิได้มีส่วนก่อให้เกิดการกระทำความผิดหรือยินยอม หรือรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดนั้นด้วยและการเป็นสามีภริยากันต่อไปจะเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่งได้รับความเสียหายหรือเดือนร้อนเกินควรอีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้ (4/2) สามีและภริยาสมัครใจแยกกันอยู่เพราะเหตุที่ไม่อาจอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาได้โดยปกติสุขตลอดมาเกินสามปีหรือแยกกันอยู่ตามคำสั่งของศาลเป็นเวลาเกินสามปี ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้ (5) สามีหรือภริยาถูกศาลสั่งให้เป็นคนสาบสูญ หรือไปจากภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่เป็นเวลาเกินสามปีโดยไม่มีใครทราบแน่ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้ (6) สามีหรือภริยาไม่ให้ความช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูอีกฝ่ายหนึ่งตามสมควรหรือทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการที่เป็นสามีหรือภริยากันอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ ถ้าการกระทำนั้นถึงขนาดที่อีกฝ่ายหนึ่งเดือดร้อนเกินควรในเมื่อเอาสภาพ ฐานะและความเป็นอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยามาคำนึงประกอบ อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้ (7) สามีหรือภริยาวิกลจริตตลอดมาเกินสามปี และความวิกลจริตนั้นมีลักษณะยากจะหายได้ กับทั้งความวิกลจริตถึงขนาดที่จะทนอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาต่อไปไม่ได้ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้ (8) สามีหรือภริยาผิดทัณฑ์บนที่ทำให้ไว้เป็นหนังสือในเรื่องความประพฤติอีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้ (9) สามีหรือภริยาเป็นโรคติดต่ออย่างร้ายแรงอันอาจเป็นภัยแก่อีกฝ่ายหนึ่งและโรคมีลักษณะเรื้อรังไม่มีทางที่จะหายได้ อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้ (10) สามีหรือภริยามีสภาพแห่งกาย ทำให้สามีหรือภริยานั้นไม่อาจร่วมประเวณีได้ตลอดกาล อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
ผู้แสดงความคิดเห็น Lows วันที่ตอบ 2005-06-07 11:24:55 IP :


ความคิดเห็นที่ 2 (124127)

ตามเหตุที่คุณว่ามา ก็ถือว่าเป็นเหตุแห่งการฟ้องหย่าได้ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ปมุข 018202236 วันที่ตอบ 2005-06-07 23:14:19 IP :


ความคิดเห็นที่ 3 (3245784)

 

ผมแต่งงานอยู่กินกับภรรยามา  20 กว่าปี ตั้งแต่ปี 2529 ต่อมาเมื่อปี 2537 ภรรยาขอหย่าครั้งแรกเนื่องจากผมกลับมาจากงานเลี้ยงสังสรรค์ดึก ผมน้อยใจแต่ไปไปหย่าเพราะลูกยังเล็กเรียนหนังสือ ต่อมาเมื่อปี 52 ผมแจ้งเรื่องจะขอลาออกจากราชการกับภรรยาแต่ภรรยาบอกว่าเบื่อผม อยากออกก็ออก แล้วก็หย่ากัน บ้านขายแบ่งกัน ไปอยู่ที่อื่น ไปหาเอาภรรยาใหม่ ผมเสียใจแต่ช่วงนี้ลูกก็กำลังเรียนระดับสูง ในช่วงนี้ผมกับภรรยาไม่ค่อยได้มีเพศสัมพันธ์กันเนื่องจากเธอป่วยแต่ผมดูแลมาตลอด พอหลังจากที่เธอพูดเรื่องอหย่าอีก ผมเลยไม่มีใจอยากดูแลและผมได้รู้จักผู้หญิงคนหนึ่ง เคยได้คุยกัน และพูดเรื่องเพศทางโทรศัพท์ บรรยายเหมือนลักษณะมีอะไรทางร่างกายกันจริงๆ แต่ความจริงไม่เคยล่วงเกินกันเลยแต่ดูคลิปทางคอมฯต่างคนต่างดูคนละที่แล้วโทรศัพท์คุยกัน ต่อมาภรรยาเริ่มพูดคำว่าหย่าบ่อยๆ และบอกให้ไปอยู่ที่อื่นบ่อยๆหลังจากลาออก ผมเลยแยกบ้านนอนเพราะมีบ้าน 2 หลังบริเวณใกล้เคียงกัน  ผมจะไปหาแม่ที่อยู่อีกตำบลหนึ่งบ่อยๆ กลับมาก็คุยกับผู้หญิงคนนั้นทางโทรศัพท์และเล่นเอ็มทางอินเตอร์เน็ตกันบ่อย ภรรยาแอบสืบหาเบอร์ผู้หญิงคนนั้นและบันทึกการสนทนาและไปหาผู้หญิงคนนั้นที่บ้าน ผมไปเคลียร์ว่าไม่มีอะไรกันและบอกภรรยาว่าที่แยกอยู่เพราะตัวภรรยา หากมาว่าคนอื่นผมขอหย่า เธอบอกไม่ยอมหย่า ถ้าจะหย่าให้เธอตายก่อนและยังไปเที่ยวโทรศัพท์หาคนอื่นๆที่เป็นเพื่อนร่วมงานหรือคนรู้จักว่าผมมีภรรยาน้อยและบอกใครๆว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นภรรยาน้อยผม กล่าวหากับญาติผมว่าผมโดนทำคุณไสยจนญาติวุ่นพาไปแก้ซึ่งจริงๆก็ไม่มีอะไร ผู้หญิงอีกคนเธอก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับผมและเลิกติดต่อกันตั้งแต่วันที่ภรรยาผมไปกล่าวหาเธอที่บ้าน ส่วนภรรยายังกล่าวหาด้วยข้อความเท็จว่าผมกับผู้หญิงคนั้นไปไหนมาไหนด้วยกันซึ่งในวันที่กล่าวหาผมก็มีพยานรู้เห็นว่าอยู่ที่ไหน  ทำอะไร และยังไปว่าโดนผู้หญิงคนนั้นขับรถตามไปด่าที่บ้าน ใส่ร้ายว่าผมจะฟ้องเอาสมบัติทั้งหมด ข้อความมาว่าผมเสียๆหายๆ ผมแยกตัวมาอยู่ที่บ้านแม่ ก็ขับรถมาดูแล้วก็มีข้อความประมาณเย้ยหยันผม  จนขณะนี้ก็ยังบอกใครๆว่าผมหนีมาอยู่กับเมียน้อย  ผมต้องการความสงบ หนีจากคนที่ทำร้ายจิตใจด้วยคำพูด การกระทำ อยากกินข้าวไปหากินเองนะไม่มีเวลา ดูแลร้านไม่ต้องเอาเงินเดือนนะ เพราะมีเงินเดือนกิน ถ้าหยิบอะไรกินให้ลงบัญชีไว้ด้วย สิ้นเดือนมาจ่าย ทุกการกระทำคือความทุกข์ของผมที่ผมมาอยู่บ้านแม่ก็ตามมาบอกญาติพี่น้องว่าผมไม่ดี หนีมามีเมียใหม่ จะฟ้องทั้งผมทั้งผู้หญิงคนนั้น เธอเคยพูดกับน้องสาวผม ผมจะทำอย่างไรดีกับความทุกข์นี้ ผมอยากหย่าให้จบๆ สงสารผู้หญิงคนนั้นที่ต้องมาพลอยเสียชื่อเสียงจากการรู้จักพูดคุยกับผม สงสารแม่ผมที่อายุมากต้องมาฟังภรรยาผมโทรมาเล่าแต่ความดีของตัวเอง และสรุปเองว่าเพราะผมไม่ดี เคยไล่ผมหนี เคยขออหย่าแต่มาวันนี้ไม่ยอมหย่า  ผมแยกออกมาได้ครึ่งปีแล้วครับ  ช่วยตอบผมด้วย 

ผู้แสดงความคิดเห็น rw วันที่ตอบ 2011-05-22 23:10:43 IP : 125.26.254.108



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.