เมื่อเดือน พย ดิฉันจะลาออก เพราะเงินเดือนที่น้อย แต่เจ้านายดิฉันซึ่งมีตำแหน่งเป็ฯกรรมการ ผจก  บอกให้อยู่ต่อ และจะขึ้นเงินเดือนให้ 40% ดิฉันจึงตกลงทำงานต่อ
แต่พอเงินเดือนของเดือน ธค ออกมา กลับกลายเป็นอัตราเงินเดือนเดิม เจ้านายดิฉันชี้แจงว่าจะขอขึ้นให้ตั้งแต่เดือน มค ได้ไหม เพราะจะได้เป็นขึ้นเงินประจำปีพอดี ดิฉันก้อยอมรับ       แต่พอเดือน มค การประเมินผลเงินเดือนบ. ยังไม่เสร็จ  จึงรอถึงเดือน กพ. แต่การขึ้นเงินเดือนนี้ ทาง บ. บอกว่าแม้ทำการประเมินล่าช้า แต่อัตราเงินเดือนใหม่ที่ขึ้นของ พนง ทุกคนจะให้ย้อนหลัง โดยมีผลตั้งแต่ มค เป็นต้นมา
แล้วพอเดือน กพ  เจ้านายดิฉัน  ก็เอาเงินเดือนของ พนง ไปเสนอให้เจ้าของบ. ดู  แต่เจ้าของบ. ไม่อนุมัติการขึ้นเงินเดือนของดิฉัน โดยอนุมัติให้ขึ้นเงินให้แค่ 20% เท่านั้น
เจ้านายดิฉันจึงมาบอกดิฉัน  และบอกว่าคงขึ้นให้ได้แค่ 20% แต่ มค-กพ ที่นมาจะถือว่าพูดแล้ว ก้อจะจ่าย 40% ให้ตามที่พูด  โดยจะหาทางชดเชยให้
แล้วสิ่งที่ดิฉันได้คำตอบมา ก้อคือ แกจะชดใช้ให้โดยเงินส่วนตัวของแก เพราะทาง บ ไม่อนุมัติ   ดิฉันไม่สามารถที่จะรับเงินเดือนที่ขาดหายไป 20% ของดิฉันได้ โดยเงินส่วนตัวของเจ้านาย  เพราะดิฉันคิดว่า ในขณะที่ทำการตกลงเจ้านายดิฉัน ก้อพูดตกลงกับดิฉันในฐานะตัวแทนของบ. และขณะที่ตกลงกันนั้น ผจกฝ่ายการเงินก็นั่งรับทราบอยู่ด้วย แต่เป็นเพียงการตกลงกันโดยปากเปล่า  ดิฉันจึงคิดว่าเงินที่จะจ่ายดิฉันจึงต้องควรเป็นเงินบริษัท ไม่ใช่เงินส่วนตัวของเจ้านาย  และดิฉันคิดว่าดิฉันถูกเอาเปรียบ  เนื่องจากตอนตกลง หากดิฉันไม่ได้เงินขึ้น 40% ดิฉันก้อไม่อยู๋ทำงานต่อที่นี่เป็นแน่  และดิฉันก้อพิจารณาข้อตกลงเปรียบเที่ยบกับอีกบ. นึงที่เสนอการจ้างมาให้ดิฉันในอัตราเงินที่เท่ากันกับที่บ นี้จะขึ้นให้ แต่ดิฉันก้อปฏิเสธไป เพราะคิดว่าทำที่นี่ที่เดิมต่อดีกว่า  แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่า ดิฉันต้องพลาดข้อเสนอนั้นไป  แล้วต้องมารับสภาพรับเงินเดือนที่น้อยกว่าจากบ. เดิมนี้
ในกรณีนี้ ดิฉันจะสามารถเรียกร้องใดๆ ได้ไหมคะ

(ขอโทษนะคะ ที่เขียนยาวมาก  แต่ตอนนี้กลุ้มใจและเสียความรุ้สึกมากๆ  ช่วยหน่อยนะคะ ไม่รุ้จะพึ่งใครดี)