การนำชื่อจริง  และรูปถ่ายของบุคคลเหล่านั้นมาลงในเน็ต และกล่าวหาว่าถูกฉ้อโกง  ย่อมสุ่มเสี่ยงต่อการถูกดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาท  และความผิดตาม  พรบ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์  พ.ศ.2550  ได้..ติงด้วยความปรารถนาดีครับ.........   การมีที่ดินมือเปล่า (ภบท.5)  ต้องแสดงสิทธิ์ในที่ดิน  โดยการครอบครอง หรือทำประโยชน์ในที่ดิน   แต่ถ้าปล่อยให้ผู้อื่นครอบครอง   โดยไม่มีสัญญาเช่า    เขาย่อมอ้างสิทธิครอบครองที่ดีกว่า   เพื่อให้ได้สิทธิในที่ดินได้   ในเมื่อมีทรัพย์สิน  โดยเฉพาะที่ดิน   แต่ไม่ดูแลป้องกันให้ถูกต้อง  กลับปล่อยให้ผู้อื่นถือครอง โดยไม่มีหลักฐานการเช่า   ย่อมต้องสูญเสียที่ดินไปอย่างง่ายดาย  แม้เป็นการโกง   แต่เป็นการโกงตามที่กฎหมายเปิดช่องให้สามารถทำได้     คุณจึงเสียเปรียบครับ

ขอบคุณในความหวังดีครับ

แต่ไม่อยากให้นายคนนี้ได้โกงใครอีก

 ผู่เล่าไม่มีสิทธิ์ครับ  เพราะผู่เล่าไม่ได้บอกความจริงครับ  ความจริงภรรยาของผู่เล่าหรือพี่สาวของผู้ถูกโกงตัวจริง และถูกผู้เล่ากับภรรยาของผู้เล่าใส่ความครับ ผู้เล่ากับภรรยาได้เอาเงินของ นายปรินทร เรืองรัตนวาณิช โดยโอนเขาบัญชีบัตรเครดิตของผู้เล่า จำนวนสี่ธนาคาร ดังนี้ครับ บัตรเครดิตUOB 55,000บาท ซิตี้แบงค์ 30,000บาท  กรุงศรีอยุธยา 35,000 ธนาคารไทยพาณิชย์ 35,000บาท และโอนเขาบัญชีธนาคารไทยน์พาณิชย์ของ นางสุพารัก แก้วรักษา จำนวน 60,000 บาท รวมเป็นเงิน ที่ซื้อที่ดินและต้นยางพารา ประมาณ สองแสนกว่าครับ ผู้เล่าและภรรยาได้ตกลงกับนายปรินทรเรืองรัตนวาณิช ก่อนหน้าว่า  ที่ดินดังกล่าวให้ตกเป็นของบิดาหนึ่งส่วนคือนายริ่นเรืองรัตน์และนายปรินทรเรือง รัตนวาณิช หนึ่งส่วน ส่วนผู่เล่าไม่มีสิทธิ์ครับแต่ให้เป็นของภรรยาของผู่เล่าเองหนึ่งส่วน ต่อมาที่ดินแปลงดังกล่าวตาบอดไม่มีทางเข้าครับ นายปรินทร เรืองรัตนวาณิช ไปขอความช่วยเหลือผู้ใหญ่บ้านมาแก้ปัญหา ผลสรุปนายปรินทร เรืองรัตนวาณิช จ่ายเงินค่าทำทางเข้ากว้างสี่เมตรยาวแปดร้อยเมตรตลอดสาย เข้ามาในที่ดินเป็นเงินไม่น้อยกว่าสองแสนบาท และนายปรินทรยังดูแลซ่อมแซมถนนมาตลอดสี่ปี โดยจ่ายเงินคนเดียวครับ ส่วนนายริ่นเรืองรัตน์ได้สับสร้างอยู่อาศัยมาตั้งแต่ต้นครับ ถึงวันนี้ มีไฟฟ้า น้ำ ถนน ผลอาสิน มีรั้วรอบและประตูเปิดปิดในที่ดิก็เป็นเงินของนายปรินทร เรืองรัตนวาณิช เป็นผู้สร้างครับ ปัญหาที่เกิดขึ้นคือผู่เล่าและภรรยา พยายามจะโกงนายริ่น เรืองรัตน์และปรินทร เรืองรัตนวาณิช

ตัวผู่เล่าและภรรยาร่วมมือกับคนบางกลุ่มเพื่อขับไล่นายริ่นเรืองรัตน์ให้ออกจากที่ดิน หวังแค่เงินที่ได้จากการขายที1,100,000บาทครับแล้วจะลอยแพผู้เป็นบิดาและพ่อตาให้ไปตามเวรตามกรรม เรื่องทั้งหมดถึงหูนายปรินทรเรืองรัตนวาณิชครับ ผู่เล่าและภรรยาคิดว่าเวลาผ่านมาหลายปีนายปรินทรเรืองรัตนวาณิช คงไม่เก็บหล้กฐานทางการเงินไว้ จึงคิดจะโกงครับ แต่ผิดครับ ผมเก็บไว้ทุกอย่างครับ ที่สำคัญเป็นที่ดินมือเปล่า ผู้อยู่อาศัยทำประโยชน์ครอบครองมากกว่าหนึ่งปี หรือครอบครองในที่แจ้ง ปลูกผลอาสินทำประโยชน์ ก่อสร้างบ้านเรือนมีบ้านเลขที่  โดยมีผู้ใหญ่บ้านรับรองได้ครับ  บ้านเลขที่ นายริ่นเรืองรัตน์เป็นเจ้าบ้านครับ สิ่งปลูกสร้างในที่ดินที่นายปรินทร เรืองรัตนวาณิช ปลูกสร้างราคาไม่น้อยกว่าล้านครับ

ที่สำคัญตัวผู่เล่าได้นำรูปภาพ ชื่อสกุล ของนายปรินทร เรืองรัตนวาณิชกับนายริ่น เรืองรัตน์ เขียนข้อความให้ร้าย ดูหมิ่น ดูถูก เหยียดหยาม หมิ่นประมาท และกล่าวหาว่าฉ้อโกง  ผลสรุป ผมแจ้งความดำเนินคดีครับ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่รับแจ้งผู้เล่าตอนแรก  เขามีหลักฐานจากผมครับ เขามีความเป็นธรรมครับ ด้วยความเคารพครับ ท่านทนายคิดว่าแบบนี้ใครโกงใคร  ขอแสดงความนับถือ ปรินทร เรืองรัตนวาณิช  หมายเหตุ ผู้เล่าและภรรยา ยังมีที่ชั่วกว่านี้อีกครับ มีต่อภาคสอง  ผมจะรอครับ 

ผู้แสดงความคิดเห็น นายปรินทร เรืองรัตนวาณิช 

ผมไม่ใชคนดีทั้งหมดแต่ก็ไม่คิดโกงใคร และไม่เคยเอาเรื่องกับคนที่โกงผมเลยสั๊กครั้งที่ผ่านมา ต่อไปผมจะไม่ละเลย ว่ากันตามกฎหมาย ปรินทร เรืองรัตนวาณิช