เรียน  คุณ ผู้เฒ่า  ที่นับถือ

  ขอเรียนสอบถามว่า

  ภรรยานำเช็คที่ตัวเองเป็นคนเขียนและเซ็นต์ นำมาแลกเงินสดจากข้าฯ  โดยหักดอกเบี้ยให้ร้อยละ 5 ต่อเดือนจากหน้าเช็ค  เมื่อเช็คถึงกำหนดข้าฯได้นำเช็คไปเรียกเก็บ จากธนาคาร  ธนาคารปฎิเสธเงินในบัญชีไม่พอจ่าย

ข้าฯจึงทวงถาม  ทางภรรยาก็ขอผลัดผ่อนว่าจะนำเงินสดมาชดใช้ให้  แต่ขอเวลาเพราะกำลังกู้เงินจากธนาคารอยู่  ระหว่างที่ผลัดผ่อนภรรยายอมให้คิดดอกเบี้ยผิดนัดชำระ ร้อยละ.1 ต่อวัน(ร้อยละ 3 ต่อเดือน)

ต่อมาภรรยากู้ธนาคารไม่ผ่าน จึงไม่มีเงินมาจ่ายหนี้  ทางสามีจึงมาทำหนังสือรับสภาพหนี้ให้  อีก 2 วันก็นำเช็คซึ่งตัวสามีเป็นคนเขียนและเซ็นต์มาให้(เช็คที่เขียนมีการตกลงคิดดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อเดือน)  พอเช็คถึงกำหนดข้าฯก็นำไปเรียกเก็บ  ธนาคารปฎิเสธเงินในบัญชีไม่พอจ่าย(เช็คฉบับแรก)  เช็คฉบับที่ 2 เรียกเก็บอีกธนาคารปฎิเสธ  บัญชีปิดแล้ว

ข้าฯจึงนำเช็ค 2 ฉบับเข้าแจ้งความ  ตำรวจสั่งฟ้อง  ตอนนี้เรื่องอยู่ระหว่างชั้นอัยการ

ขอเรียนถามคุณ ผู้เฒ่า ว่า ข้าฯควรแก้ไขหรือต่อสู้อย่างไร  เพราะผู้ถูกกล่าวหา(สามี)  เป็นคนมีสี  รู้ข้อกฎหมายอย่างดี ได้ต่อสู้ว่า ข้าฯคิดดอกเบี้ยเกินกำหนด และคิดหลายครั้ง(3 ครั้ง) มูลหนี้ไม่ชอบด้วยกฏหมาย

ข้าฯเคยอ่านเจอในเว็บว่า  เช็คแลกเงินสดมีความเสี่ยงสูงดอกเบี้ยเกินไม่ผิด  และการคิดดอกเบี้ยจากหนังสือรับสภาพหนี้ไม่เหมือนกับการคิดดอกเบี้ยจากสัญญากู้ยืมเงิน(คิดเกิน 15ต่อปีไม่ได้)