คดีทำร้ายร่างกาย

คดีทำร้ายร่างกาย
ช่วยหนูหน่อยนะคะ เรื่องของเรื่องคือ หนูทำอาชีพค้ลูกาขาย วึ่งสถานที่เนี่ยเป็นตลาด ร้านเราจะต้องตั้งเต้นส์ทุกวัน เวลาทำงานเราอาจมีเปิดเพลง แล้ว คนที่ทำร้ายขอเรียนว่านาย เอ นายเอร้านจะอยู่ติดข้างกันเลย เวลาลูกน้องหนูเปิดเพลงที่เค้าชอบเค้าก็จะบอกให้เปิดดังๆ ไม่ชอบบอกให้เบาๆ วันที่เกิดเรื่อง คือลูกน้องหนูกำลังหาคลื่น ซึ่งวันนั้นมีแต่ลูกทุ่ง ก็เปลี่ยนคลื่นไปมา มันก็บอกลูกน้องเบา ลูกน้องก็เบาไปแต่ก็ยังคงเปลี่ยนคลื่น สักแปบ นายเอวิ่งมาจากหลังร้านมาต่อยลูกน้องไปหนึ่งมัดจากด้านหลังขนาดลูกน้องไม่รู้จัก เมื่อโดนต่อยไป ลูกน้องก็วิ่งหนี นายเอยังไม่วางมือ เอาเก้าเหล็กที่ใช้ปีนไปซ้อมไฟร้าน ไล่จะตีลูกน้อง ดีที่ลูกน้องหนูหนีทัน สุดท้ายหนูไปแจ้งความคดีทำร้ายร่างกาย ตำรวจเรียกมาไกล่เกลี่ย แต่นายเอบอกว่าจะไม่ชดเชยค่าสินไหมให้สักบาท ให้ไปฟ้องเอาเอง หนูต้องบอกก่อนว่า ลุกน้องไปเอาใบรับรองแพทย์แล้ว หมอบอกให้เอ็กซ์เรย์แต่ไม่มีเงิน เลยไม่ได้ทำ แต่ไม่มีบาดแผลใดๆ อีกอย่างหนูมีหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิดขณะเค้าต่อยและยกเก้าอี้ไล่ลูกน้อง สิ่งที่หนูอยากปรึกษา คือ 1. ถ้าหนูฟ้องจะมีโอกาสชนะมั้ย กี่เปอร์เซ็นต์คะ 2. ถ้าฝ่ายหนูอ้างว่า ลูกน้องเปิดเพลงดังรกวน เค้ามีสิทธิรอดมั้ย ถ้าหนูฟ้อง 3. หนูมีสิทธิเรียกร้อง ที่เค้าทำให้ลูกน้องอีกคนกลัว แล้วลาออก ทำให้หนูต้องเหนื่อยเพิ่มจากเดิมมาก และเสียผลประโยชน์มั้ย 4. ตอนนี้แม่ของนายเอ ไปพูดคนในตลาดอ้างว่า เราเปิดเพลงดัง จนคนในตลาดไม่มีให้คุย และมีสายตาที่แปลกๆกับหนู ทำให้อึดอัดมาก หนูจะทำไงดีคะ ช่วยหนูด้วยนะคะ หนูอยากให้เค้ารู้ว่าคนไม่ว่าสูงต่ำ มีคุณค่าเท่ากัน จะมาทำร้ายโดยไม่โดนไรเลยไม่ได้... เค้าทำกะลุกน้องหลายคนแล้ว ออกไปหลายคนแล้วด้วย มีคนนี้ที่หนูเพิ่งติดกล้องแล้วเลยเห็น ว่าเป็นยังไง
ผู้ตั้งกระทู้ pee (num_pang_peak-at-windowslive-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2011-07-13 09:28:41 IP : 118.172.109.167

[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3250776)

1. ถ้าฟ้องโอกาสชนะก็มีสูงเพียงแต่ต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้แน่นครับ เช่น ใบรับรองแพทย์หรือการได้รับการตรวจรักษาจากแพทย์ก็เป็นสิ่งที่ช่วยยืนยันได้อย่างดีว่าถูกทำร้ายมาจริง อีกทั้งกล้องที่ถ่ายไว้ได้รวมไปถึงพยานที่เห็นก็จะยิ่งมัดแน่นเข้าไปอีกครับ

2. ต้นเหตุมันจะมาจากอะไรไม่สำคัญ สิ่งสำคัญมันอยู่ที่ว่าเขาได้ทำร้ายร่างกายลูกน้องคุณจริงหรือไม่ ถ้าทำจริงไม่ว่าเขาจะเป็นฝ่ายผิดหรือถูกก็ถือเป็นการกระทำความผิดทั้งนั้น เพราะความผิดมันได้สำเร็จไปเรียบร้อยแล้วครับ พูดง่าย ๆ ก็คือสิ่งที่เขาทำได้ทำไปโดยไม่มีสิทธินั่นเองครับ เพราะกฏหมายไม่ได้ให้อำนาจใครจะทำอะไรได้ตามอำเภอใจมิเช่นนั้นบ้านเมืองก็จะวุ่นวายถ้าคนทำผิดมาอ้างได้ว่าทำไปเพราะอีกฝ่ายเป็นผู้ผิดก่อนแล้วเขาไม่ผิด เช่นนี้ก็จะปกครองกันไม่ได้นั่นเองครับ (บ้านเมืองมีขื่อมีแปรการทำอะไรต้องทำภายใต้กฏหมาย)

3. ถ้าจะฟ้องทางแพ่งก็อาจฟ้องได้ในมูลละเมิดครับ แต่ถ้าจะฟ้องในฐานที่ทำให้บุคคลอื่นเกิดความกลัวโดยการข่มขู่ก็ฟ้องได้อีกเช่นกันแต่เป็นเพียงความผิดลหุโทษเท่านั้น สรุป กรณีนี้ฟ้องได้ทั้งแพ่งและอาญา ส่วนจะคุ้มหรือไม่ตอบไม่ได้ครับ

4. ก็เข้าไปอธิบายความจริงดังที่คุณอธิบายในที่นี้ ผมว่าคนอื่นน่าะเข้าใจได้ไม่ยาก เพราะอย่างไรเสียความจริงมันก็คือความจริงอยู่วันยังค่ำครับ และเท่าที่ดพูน่าจะเกิดจากความใจร้อนของอีกฝ่ายมากกว่า จึงกลายเป็นเรื่องใหญ่โตขึ้นมา

ผู้แสดงความคิดเห็น pup วันที่ตอบ 2011-07-13 13:39:49 IP : 58.9.251.65

[1]

แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *

ผู้แสดงความคิดเห็น *
อีเมล
	ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล