ReadyPlanet.com


มรดกของผู้ตาย



คุณตาเสียชีวิตไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2554 และไม่ได้ทำพินัยกรรมแบ่งสมบัติไว้ คุณตามีลูก 5 คน 1. เพศ ญ. (มีชีวิตและแต่งงาน)  2. เพศ ญ. (เสียชีวิตและไม่ไ้ด้แต่งงาน) 3. เพศ ญ. (มีชีวิตและแต่งงาน) 4. เพศ ญ. (มีชีวิตและแต่งงาน) 5. เพศ ช. (มีชีวิตและแต่่งงาน)  

ขอถามว่าขณะนี้ลูกชายคนที่ 5 เก็บสมบัติไว้จัดการแต่ผู้เดียว ลูกคนอื่น ๆ ที่เหลือไม่สามารถเ้ข้าไปยุ่งได้เลย อยากถามว่าจะต้องดำเนินการทางกฎหมายอย่างไร 


ขณะนี้คุณยายเป็นอัลไซเมอร์ และลูกสาวคนที่ 4 เคยให้เงินเดือนใช้เป็นประจำทุกเดือนในขณะที่ความจำยังดีอยู่ รวมทั้งให้เครื่องประดับ เช่น กำไลหยก สร้อยทอง แหวนเพชร

อยากถามว่าเงินและเครื่องประดับต่าง ๆ ที่เคยให้คุณยายไว้ก่อนเป็นอัลไซเมอร์สามารถเรียกคืนได้หรือไม่ เพราะขณะนี้เงินและเครื่องประดับทั้งหมดถูกลูกชายคนที่ 5 เก็บไว้ไม่ยอมคืนให้ลูกสาวคนที่ 4 

อยากถามว่าหากคุณยายเสียชีวิตลงเช่นเดียวกับคุณตาซึ่งไม่ได้ทำพินัยกรรมแบ่งสมบัติไว้เหมือนกัน จะต้องดำเนินการทางกฎหมายอย่างไร


ขอบคุณล่วงหน้ามา ณ โอกาสนี้



ผู้ตั้งกระทู้ apple :: วันที่ลงประกาศ 2011-08-13 22:10:04 IP : 124.121.129.147


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3253092)

มรดกของตาแบ่งดังนี้คือ   (สมมุติว่าตามีมรดก  1,200,000 บาท)  ยายในฐานะคู่สมรส  จะได้รับส่วนแบ่งไปก่อน  6  แสนบาท   อีก  6 แสนแบ่งปันกัน 6 ส่วนเท่าๆกัน  คือยาย และลูกๆ  5 คน  ได้คนละ  1 แสนบาท   คือยายได้รับส่วนแบ่ง  7 แสนบาท    ลูกๆได้รับคนละ  1 แสนบาท    ตามข้อเท็จจริงที่บอกมาบุตรคนที่สองเสียชีวิตและไม่ได้แต่งงาน ดังนั้นมรดกของบุครคนที่สอง  ตกทอดแก่แม่(ยาย) รับมรดกแทนที่ สรุปยายได้รับมรดก   8 แสนบาท ลูกๆ 4 คนที่ยังมีชีวิตอยู่  รับมรดกคนละ  1 แสนบาท......การแบ่งปันมรดกต้องให้บุตรคนใดคนหนึ่งหรือทุกคน ร้องศาลขอเป็นผู้จัดการมรดก   และแบ่งปันทรัพย์สินแก่ทายาทตามสิทธิ  ดังกล่าวข้างต้น......การมอบเครื่องประดับแก่ยาย    ตามกฎหมายแล้ว เรียกคืนไม่ได้....เว้นแต่ยายจะมอบให้คืน...ควรใช้วิธีขอท่านคืน....ถ้ายายเสียชีวิต  มรดกของยาย   ก็ตกทอดแก่บุตรทั้ง 5  คน คนละเท่าๆกัน  สำหรับส่วนแบ่งของคนที่สองที่เสียชีวิตและไม่มีบุตร  มรดกส่วนนี้ พี่น้องที่เหลือ  4  คน จะได้รับมรดกแทนที่คนละเท่าๆกันครับ เช่น ยายมีมรดก  8 แสนบาท  ลูกๆทั้ง 5  คนได้คนละเท่าๆกัน คือ  คนละ  160,000  บาท ในเมื่อ  บุตรคนที่สองเสียชีวิต  พี่น้อง4  คนจะได้รับมรดกแทนที่ คนละเท่าๆกัน คนละ 40,000  บาท  สรุปคือ  ลูกๆที่ยังมีชีวิตอยู่ 4 คนจะไดรับมรดก คนละ  2  แสนบาทครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น คงคา วันที่ตอบ 2011-08-14 09:52:35 IP : 180.180.25.126


ความคิดเห็นที่ 2 (3253098)

เรียน คุณคงคา

ขอบคุณมาก ๆ คะที่ตอบคำถาม และให้คำอธิบายที่ชัดเจน แต่มีข้อสงสัยว่าขณะที่คุณตาและคุณยายมีชีวิตอยู่ท่านพักอยู่กับลูกชายคนที่ 5 ซึ่งขณะนี้เป็นคนที่ยึดสมบัติไว้คนเดียว และอ้างสิทธิในการจัดการดูแลทุกอย่าง ในแง่กฎหมายนอกจากการดำเนินการร้องศาลขอเป็นผู้จัดการมรดกแล้ว เราจะมีวิธีอื่นในการจัดการกับการยักยอกสมบัติของลูกชายคนที่ 5 ได้หรือไม่

 


คุณตาซึ่งเสียชีวิตอยู่เขตพระโขนง หากบุตร 1 ใน 4 ต้องการร้องเป็นผู้จัดการมรดกต้องไปแจ้งที่ศาลใด เขตใด


ขอบคุณล่วงหน้ามา ณ โอกาสนี้

 

ผู้แสดงความคิดเห็น apple วันที่ตอบ 2011-08-14 12:26:48 IP : 115.87.0.101


ความคิดเห็นที่ 3 (3253100)

คุณตา  เจ้ามรดก   จะอาศัยอยู่กับบุตรคนใด  ไม่ใช่สาระสำคัญ   ประเด็นมีอยู่ว่า  เมื่อท่านเสียชีวิตลง  ท่านมีทรัพย์สินอะไรบ้างที่ตกทอดเป็นมรดกแก่ลูกๆ  ลูกที่ท่านอาศัยอยู่ด้วย  ไม่ก่อให้เกิดสิทธิได้รับมรดกมากกว่าลูกคนอื่นๆแต่อย่างใด   ตามกฎหมายลูกๆย่อมได้รับมรดกเท่าๆกัน.....คำร้องขอแต่งตั้งผู้จัดการมรดกให้เสนอต่อศาลที่เจ้ามรดกมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาล  ในขณะถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง   มาตรา 4 จัตวา.... เมื่อได้คำสั้งศาลให้เป็นผู้จัดการมรดก   ให้เรียกประชุมทายาท คือลูกๆทั้งหมด   เพื่อจัดทำบัญชีทรัพย์มรดก  ว่ามีทรับ์สิน อะไรบ้าง  เพื่อจะได้แบ่งปันแก่ทายาทต่อไป  ถ้าน้องชายปิดปังซ่อนเร้น ทรัพย์มรดก หรือไม่ยอมแจ้งเรื่องทรัพย์สินตามความเป็นจริง ย่อมมีความผิดฐนยักยอกทรัพย์ มีโทษจำคุก สามปี   ถ้าน้องชายเป็นผู้จัดการมรดกเสียเอง แต่ยักยอดทรัพย์มรดก จะมีโทษจำคุก ห้าปี.....ต้องแจ้งความภายในสามเดือนที่ทราบว่าเขากระทำความผิด...ถ้ายังไม่ทราบว่าเขายักยอก  อายุก็ยังไม่เริ่มนับครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น คงคา...มโนธรรม วันที่ตอบ 2011-08-14 13:49:31 IP : 180.180.20.48



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.