1.รถยนต์คันนี้ถือเป็นสินสมรสไหมคับ ถ้าจดทะเบียนหย่ากัน ผมจะมีสิทธิ์ใดๆในรถคันนี้

ตอบ.....เป็นสินสมรส    ถ้าหย่าก็แบ่งเท่าๆกันครับ

2.หนี้สินค่าส่งผ่อนรถกับทางไฟแนนซ์ ถ้าจดทะเบียนหย่ากัน ใครจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ

ตอบ....ควรใช้การเจรจาตกลงกันว่า ใครจะเอารถไป เมื่อหย่า   ก็็ให้คนเอารถไป  รับผิดชอบส่งงวดกับไฟแนนซ์   ถ้าตกลงกันไม่ได้   ก็ต้องแบ่งหนี้คนละเท่าๆกัน   คือร่วมกันส่งงวดคนละครึ่งครับ

3.ค่าเลี้ยงดูลูก จะต้องทำอย่างไรครับ

ตอบ....ก็อยู่ที่กำลังความสามารถของคุณ ว่า จะสามารถส่งค่าเลี้ยงดูบุตรเดือนละ 3,000  บาท/เดือน ไหวหรือไม่  ถ้ามองดูแล้วไม่ไหว ก็ต้องเจรจาขอลดลงตามกำลังความสามารถของคุณ  กฎหมายไม่บังคับให้ต้องส่งค่าเลี้ยงดูบุตร จนตนเอง ไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้แน่นอนครับ

ดิฉันอยู่บสามีเก่ามาสิบกว่าปีโดยที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส แต่พอปี2000 ฮิตตามกระแสพากันไปจดทะเบียนสมรส หลังจากนั้นไม่กี่ปีก็ไปจดทะเบียนหย่ากัน แต่ก็ยังอยู่ด้วยกัน และผ่อนรถด้วยกัน พอผ่อนเสร็จก็โอนเป็นชื่อสามี แล้วก็ไปรีแนนท์ใหม่ เพื่อเอาเงินไปปิดหนี้บัตรเครดิต และอิออน  และก็ช่วยกันส่ง  แต่หลังจากนั้นไม่กี่เดือนเกิดน้ำท่วม เขามีผู้หญิงและก็เอาเงินจากที่บัตรเครดิต และอิออน ซึ่งวงเงินเต็ม ไปให้ผู้หญิงหมดเลย  ดิฉันเลยให้เขาส่งรถคนเดียว แต่รถเจอน้ำท่วมเขาไม่ส่งและให้แนนท์มายึด ดิฉันไปเอารถกลับและจ่ายค่าค้างจ่าย และซ่อมรถ เขาก็กลับมาส่งรถอีกครั้ง อย่างนี้รถควรเป็นของใคร ในใบหย่าระบุไว้ว่า สินสมรสตกลงกันเอง และลูกอยู่ในความดูแลของเขา แต่ความเป็นจริงลูกอยู่กับเรา และเขาไม่ส่งเสีย ตอนนี้โชคร้ายลูกสาวเป็นมะเร็ง ดิฉันต้องการเงินสองแสนเดือนธันวาคมเพื่อผ่าตัด บอกให้เขาเอาไปแนนท์ใหม่หรือขาย เพื่อช่วยลูก เราต่างมีแต่งงานใหม่ รถก็ใช้สองบ้านแล้วแต่ความจำเป็นใครใช้ และช่วยกันซ่อม แต่ตอนนี้เขาจะโอนรถให้เป็นของภรรยาใหม่

1 ดิฉันมีสิทธิ์ในรถไหมซึ่งเป็นชื่อเขา ?

2 ฟ้องค่าเลี้ยงดูย้อนหลังได้ไหม?

3 ดิฉันจะชนะไหมถ้าได้ฟ้องและมีข้อมูลคร่าวๆๆ ตามข้างต้นที่กล่าวมา  ถ้าเขาช่วยเรื่องผ่าตัดลูกดิฉันก็จะไม่ยุ่ง

ดิฉันรู้ว่าถ้าฟ้องตอนนี้กว่าจะจบก็คงไม่ทันการผ่าตัดของลูก แต่ดิฉันคิดว่าถ้าฟ้องและมีโอกาศชนะ จะให้ธนายความทั้งหมด ก็หมายความว่าดิฉันจะยกข้อมูลทั้งหมดให้ทนายดำเนินการเอาเป็นของตัวเอง ดิฉันจะไม่เอาสักบาท สมควรไหม