[ หน้าแรก ] | [ เกี่ยวกับปมุขกฎหมาย ] | [ บริการของปมุขกฎหมาย ] | [ กระดานปรึกษากฎหมาย ] | [รวม Link ที่น่าสนใจ ] |
่ถูกฉ้อโกงจ่ายเงินมัดจำซื้อรถแล้วถึงวันนัดนำรถไปขายต่อและไม่คืนเงินมัดจำ | |
เรียนท่านทนายที่ปรึกษาครับ ข้อมูลมีดังนี้ครับ 1.เจ้าของรถต้องการขายรถจึงฝากรูปถ่ายและเอกสารรถมาให้ทางอีเมล์ของคนกลางเพื่อพิจารณา(มีรูปถ่ายรถและเอกสารแสดง) 2.ผมจืงได้เดินทางไปดูสภาพรถที่บ้านของเจ้าของรถพร้อมคนกลางเพื่อตกลงราคาจึงต่อรองราคาตามสภาพรถและเจ้าของรถตกลงขายจึงนัดทำสัญญาวางมัดจำ(อยู่แถบปริมณฑลเดินทางไปกลับ160กม.) 3.เนื่องจากเจ้าของรถไม่นำเอกสารสมุดรถฉบับจริงมาให้เพราะนำไปจำนำใว้ผมจึงขอบอกยกเลิกการวางมัดจำดังกล่าว 4.แต่คนกลางกับเจ้าของรถตกลงรับปากจะนำเงินมัดจำนี้ไปถ่ายถอนจำนำสมุดรถออกมาแล้วจะนำรถและสมุดรถมาให้ในสัปดาห์ถัดไปพร้อมตกลงนัดจ่ายเงินส่วนที่เหลือพร้อมรับรถจึงตกลงวางเงินมัดจำแต่เนื่องจากเจ้าของรถไม่นำบัตรประชาชนมาด้วยคนกลางจึงรับเป็นผู้กู้ยืมแทนโดยทำสัญญากู้ยืมเงินไว้1ฉบับ(มีเอกสารแสดงคนกลางเป็นผู้กู้เจ้าของรถเป็นพยานและถึงวันนี้เอกสารครบ1ปีแล้ว)และทำสัญญาจะซื้อจะขายรถให้ใว้เป็นประกันโดยเข้าใจกันทั้ง3ฝ่ายอีก1ฉบับโดยฝากส่งไปกับคนกลางในภายหลัง(แต่เจ้าของรถยังไม่เซ็นต์กลับมา) 5.เจ้าของรถและคนกลางแจ้งมาว่าได้ขายรถให้คนอื่นไปแล้วและจะคืนเงินให้ซึ่งผิดข้อตกลงและสัญญาที่ทำใว้ 6.หลังจากที่เจ้าของรถขายรถแล้วก็ไม่นำเงินมาคืนตามตกลงและพยายามทวงถามทั้งคนกลางและเจ้าของรถแต่บ่ายเบี่ยงมาตลอดและครบ1ปีแล้ว ขอเรียนถามดังนี้ครับ. 1.แจ้งความข้อหาฉ้อโกงได้หรือไม่ครับ 2.มีโอกาสที่จะได้เงินคืนพร้อมดอกเบี้ยหรือไม่ครับ 3.ถ้าไม่สะดวกไปแจ้งความเองหรือให้ทนายไปแทนได้หรือไม่ครับ 4.ไม่ต้องการให้คนอื่นตกเป็นเยื่อของคนกลุ่มนี้อีก
| |
ผู้ตั้งกระทู้ หัวอกของคนอยากได้รถมือสอง :: วันที่ลงประกาศ 2012-07-21 17:27:13 IP : 124.122.184.154 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (3293389) | |
1.แจ้งความข้อหาฉ้อโกงได้หรือไม่ครับ
ตอบ....ได้... ต้องแจ้งความภายในสามเดือน นับแต่ทราบว่าโกงแน่นอนแล้ว คือหลังจากครบ 1 ปี ตามสัญญา และนับอายุความไปอีกไม่เกินสามเดือนครับ 2.มีโอกาสที่จะได้เงินคืนพร้อมดอกเบี้ยหรือไม่ครับ
ตอบ...ถ้าพยานหลักฐานชัดเจนว่า เป็นการฉ้อโกง เมื่ออัยการสั่งต่อฟ้องศาล ก็สามารถยื่นคำร้องให้ศาลพิจารณาขอให้บังคับจำเลยให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่คุณได้....การเรียกร้อง ก็สามารถบวกดอกเบี้ยตามกฎหมาย (ร้อpละ 15 ต่อปี) และดอกเบี้ย ร้อยละ 7.5 ระหว่างผิดนัดได้...โอกาสจะได้เงินคืนหรือไม่ ก็ต้องอยู่ที่พยานหลักฐานมีมูลพอว่าเป็นการฉ้อโกงหรือไม่ แม้ศาลให้เขาชดใช้ค่าเสียหาย ถ้าเขาไม่มีทรัพย์สินอะไรเลย (เพราะวางแผนไว้ล่วงหน้า) คุณก็อาจไม่รับเงินคืน หรือเรียกร้องค่อนข้างลำบากครับ
3.ถ้าไม่สะดวกไปแจ้งความเองหรือให้ทนายไปแทนได้หรือไม่ครับ
ตอบ...ได้ครับ
4.ไม่ต้องการให้คนอื่นตกเป็นเยื่อของคนกลุ่มนี้อีก
ตอบ....การไม่ให้ถูกหลอก ผู้เสียหายก็ต้องใช้ความระมัดระวังตัวเองด้วย คุณก็รู้ว่าไม่มีสมุดคู่มือการจดทะเบียนรถ ก็ยังไม่ตกลงรับซื้อไว้ แม้จะทำสัญญาไว้ แต่สัญญาก็ไม่ต่างจากระดาษแผ่นหนึ่ง คงช่วยเหลืออะไรเราไม่ได้.....ธนาคาร และสถาบันการเงิน ก่อนปล่อยสินเชื่อหรืออนุมัติเงินกู้แต่ละครั้ง มีการจดทะ้บียนจำนองทรัพย์สิน เช่นบ้านพร้อมดิน และมีบุคคลค้ำประกัน เพื่อค้ำประกันการกู้ยืมเงิน อย่างแน่นหนาถาวร ก็ยังมีการเบี่ยวหนี้กันเป็นประจำ ต้องไปฟ้องร้องที่ศาล มีคดีค้างศาลเป็นพันเป็นหมื่นคดี...กว่าจะได้เงินคืน ก็ต้องลงทุนลงแรงไปไม่ใช่น้อย...แต่คุณไปจับเสือมือเปล่า โอกาสจะได้เงินคืนแทบไม่มีครับ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น มโนธรรม วันที่ตอบ 2012-07-22 11:35:10 IP : 101.51.178.84 |
ความคิดเห็นที่ 2 (3294041) | |
ขอบคุณครับ ผมลืมให้ข้อมูลเพิ่มเติมครับ (คนกลางที่อ้างถึงคือเพื่อนบ้านเก่าที่สนิทกันแต่ได้ย้ายบ้านไปอยู่ที่ปริมณทลเกือบ10ปีแล้วจึงไว้ใจกันครับ) ขอให้ท่านที่ตอบ ความเห็นที่.1 จงประสบแต่ความสุขความเจริญ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น เจ้าของกระทู้ วันที่ตอบ 2012-07-29 16:09:06 IP : 124.122.98.208 |
[1] |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 1087539 |