ReadyPlanet.com


ที่ดินสินสมรสค่ะ


 เรียนถามค่ะขอความกรุณาท่านช่วยแนะนำด้วยค่ะ 

ดิฉันมีที่ดินอยู่แปลงหนึ่งเป็นสินสมรสขนาดสองไร่เศษหลังโฉนดมีชื่อทั้งสองคนค่ะ
ดิฉันและฝ่ายชายได้แยกกันอยู่และไม่นานมานี้ได้พบว่า
ฝ่ายชายได้นำที่ดินไปให้คนมาเช่าไปส่วนหนึ่งทำร้านอาหาร (ดิฉันไม่ทราบมาก่อนเลยจริงๆและก็ไม่รู้จักผู้เช่า)
และส่วนที่เหลือเขาได้ทำ หจก. เพื่อเปิดร้านขายเครื่องใช้เครื่องไฟฟ้า และพักอาศัยอยู่ที่นั่น
พอดิฉันจะเข้าไปในที่ดินเขาก็มาข่มขู่และกีดกันไม่ให้เข้าไป 
เขาขู่ว่าจะแจ้งตำรวจมาจับว่าดิฉันบุกรุกเข้าไปในร้านของเขา
เขาได้ใช้ประโยชน์ในที่ดินแต่เพียงผู้เดียวและไม่เคยแบ่งรายได้หรือส่งเสียดิฉันเลย
ทุกวันนี้ดิฉันต้องทำงานเพื่อหารายได้มาใช้จ่ายด้วยตนเองค่ะ(ดิฉันปลูกผักปลอดสารค่ะ)
เรียนถามค่ะ
1.ดิฉันควรจะทำอย่างไรกับ หจก.ที่เขาเปิดเป็นร้าน 
(ดิฉันควรแจ้งความ/ลงบันทึกประจำวัน/หรือมีคำแนะนำอะไรอย่างอื่นบ้างคะที่ดิฉันควรจะทำ)
2.ดิฉันควรจะทำอย่างไรกับ ผู้เช่า
3.ถ้าดิฉันจะเข้าไปใช้ประโยชน์ในที่ดิน(ปลูกผักปลอดสาร) สามารถเข้าไปเลยได้ไหมคะ
(ดิฉันควรแจ้งความ/ลงบันทึกประจำวัน/หรือมีคำแนะนำอะไรอย่างอื่นบ้างคะที่ดิฉันควรจะทำ)
กราบขอบพระคุณในคำตอบและคำแนะนำล่วงหน้าค่ะ


ผู้ตั้งกระทู้ บี ค่ะ :: วันที่ลงประกาศ 2022-04-21 10:26:52 IP : 27.55.92.91


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (4457541)

 กรรมสิทธิ์รวม

  ตามข้อเท็จจริง ในเมื่อที่ดินมีชื่อสามีภรรรยาถือกรรมสิทธิ์ร่วมกัน ในที่ดินประมาณสองไร่เศษ   ก็ถือว่าทั้งสองคนมีกรรมสิทธิ์ร่วมกัน  ถ้าไม่มีการบรรยายส่วนไว้ในเอกสาร  ก็ถือว่าทั้งสามีภรรยา ต่างมีกรรมสิทธิ์ร่วมกันในที่ดินทุกๆตารางนิ้ว....

1.ดิฉันควรจะทำอย่างไรกับ หจก.ที่เขาเปิดเป็นร้าน 

(ดิฉันควรแจ้งความ/ลงบันทึกประจำวัน/หรือมีคำแนะนำอะไรอย่างอื่นบ้างคะที่ดิฉันควรจะทำ)

ตอบ...หจก.  เป็นเรื่องที่สามีไปจดทะเบียนเพื่อก่อตั้งขึ้นมาตามขั้นตอนของกฎหมาย  ก็ควรหาทางตรวจสอบว่า หจก.นี้ มีวัตถุประสงค์ อะไรบ้าง เพื่อมาใช้การพิจารณาว่า การก่อตั้ง หจก.นั้น มีผลกระทบถึงเรื่องกรรมสิทธิ์ ในที่ดินหรือไม่ อย่างไร  เพื่อหาทาง ป้องกัน แก้ไขในขั้นตอนต่อไป คือจะไปแจ้งความไว้ก็ได้   แต่ตำรวจก็คงทำอะไรไม่ได้ (ไม่ใช่ตำรวจไม่ทำหน้าที่)  แต่เรื่องแบบนี้ เป็นเรื่องทางแพ่ง  ตำรวจก็คงแนะนให้ไปฟ้องร้องกันเอาเอง   ดังนั้นควรตรวจข้อเท็จจริงดังกล่าวข้างต้นก่อน   ก่อนที่จะดำเนินการอย่างไรต่อไป

2.ดิฉันควรจะทำอย่างไรกับ ผู้เช่า

ตอบ...ผู้เช่า ก็คงมีสัญญาเช่ากับสามี  การจะยกเลิกสัญญาหรือขับไล่ผู้เช่า  คงทำไม่ได้ง่ายๆ  ถ้าเขายังไม่ผิดสัญญาเช่า  ถ้าจะฟ้องก็ต้องฟ้องสามี เพราะ  เอาที่ดินไปให้เช่า โดยที่คุณไม่ทราบ....ดังนั้นผู้เช่าปล่อยเขาไปก่อน  ต้องหาทางเคลียร์กับสามีให้จบก่อน

3.ถ้าดิฉันจะเข้าไปใช้ประโยชน์ในที่ดิน(ปลูกผักปลอดสาร) สามารถเข้าไปเลยได้ไหมคะ

ตอบ...คุณในฐานะผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วม   สามารถเข้าไปในที่ดินแปลงนี้ได้เสมอ  คงไม่มีความผิดฐานบุกรุก   แต่...แม้ไม่มีความผิด  แต่ถ้าสามีไปแจ้งความ   คุณก็ต้องมีภาระไปชี้แจ้งข้อเท็จจริงกับตำรวจ  ให้ต้องยุ่งยากในชีวิต

(ดิฉันควรแจ้งความ/ลงบันทึกประจำวัน/หรือมีคำแนะนำอะไรอย่างอื่นบ้างคะที่ดิฉันควรจะทำ)

คำแนะนำ

    กรณีแบบนี้ เป็นเรื่องของสามีภรรยา  ถ้าเจรจากันตกลงกันไม่ได้  ก็ต้องใช้สิทธิทางศาลฟ้องร้องกัน  ซึ่งย่อมมีปัญหาอื่นๆตามมามากมาย...ขอแนะนำให้คุณไปที่ศาล  ที่เป็นภูมิลำเนาของคุณ  ไปพบเจ้าหน้าที่ศูนย์ไกล่เกลี่ย  เล่าข้อเท็จจริงให้เขาฟัง   ขอให้แจ้งศาล ช่วยเหลือในการไกล่เกลี่ยก่อนฟ้อง  เมื่อมีการเชิญสามีภรรยามาเจรจาตกลงกัน น่าจะมีทางออกที่เหมาะสม  โดยไม่ต้องฟ้องร้อง  การไกล่เกลี่ยก่อนฟ้องมีกฎหมายรองรับ ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ  การไกล่เกลี่ยฯ อยู่ภายในการกำกับดูแลของศาล(ผู้พิพากษา) ดังนั้นเรื่องความถูกต้องและความเป็นธรรม  สามารถไว้วางใจได้.....แต่ถ้า   การไกล่เกลี่ยฯไม่เป็นผล   จะไปใช้สิทธิฟ้องกันในภายหลังก็ยังไม่สาย  แต่คงมีค่าใช้จ่ายมากมายพอสมควร  และคงต้องบาดเจ็บกันทั้งสองฝ่าย เพราะการต่อสู้คดี ก็ไม่ต่างจากการทำสงคราม   ย่อมมีความสูญเสียเกิดขึ้นแน่นอน   แต่ถ้ายอม ถอยกันคนละก้าว  ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน ในฐานะสามีภรรยา เรื่องน่าจะจบลงด้วยสันติ  ด้วยความปรารถนาดี ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น มโนธรรม วันที่ตอบ 2022-04-22 09:42:40 IP : 223.205.248.133



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.