สิทธิ์ในพื้นที่ปรปักษ์

สิทธิ์ในพื้นที่ปรปักษ์
ผมซื้อบ้านพร้อมที่ดินกับธนาคาร ซึ่งสินทรัพย์นี้ตกเป็นของธนาคารมา 5 ปีแล้ว พอผมโอนและย้ายมาเป็นเจ้าบ้านเรียบร้อยแล้ว ตอนที่ผมโอนเจ้าหน้าที่ที่ดินเขาก็วาดรูปให้ผมดูว่าในพื้นที่ของผมมีที่ดินเกินเข้ามาและรั้วบ้านผมล้อมรอบไว้ ซึ่งสิทธิ์ในพื้นที่นั้นจะตกเป็นของผม และผมก็สามารถร้องขอออกโฉนดนั้นได้ เมื่อผมทำภารกิจในสำนักงานที่ดินเสร็จแล้วผมก็ขับรถไปดูบ้าน และก็ได้ไปพบกับเจ้าของบ้านเก่าซึ่งยังอาศัยอยู่ในบ้าน บ้านหลังนี้เป็นบ้านอยู่ในหมู่บ้านจัดสรร พบผมได้คุยกับเขา เขาบอกผมว่ามีจะมีสิทธิ์ในตัวบ้านไม่เต็มนะครับ เพราะจะมีส่วนที่เกินเขาไปในพื้นที่ของเขา ก็คือพื้นที่ที่ทางที่ดินได้บอกไว้ เขาบอกว่าเราจะกั้นบ้านกันอยู่ หรือคุณจะซื้อที่ของเขาที่เขาอ้าง ผมเครียดมากจึงกลับไปยังสำนักงานที่ดิน เพื่อให้เขามารังวัดไปเลยว่าเขตในใบของผมมันอยู่ตรงในกันแน่ แต่ทางที่ดินก็ไม่อยากให้เราไปวัด เพราะเราจะไม่ได้สิทธิ์ในพื้นที่ที่เกินเข้ามา เขาก็ยังยำ้ว่าเป็นสิทธิ์ของเรา และผมก็กกลับมายังบ้านที่มีปัญหาอีกครั้งและก็บอกเขาว่ายังวัดไม่ได้ เรื่องก็ยังค้างคาอยู่ผมจะทำอย่างไรดีครับ
ผู้ตั้งกระทู้ เบน :: วันที่ลงประกาศ 2012-07-20 10:50:39 IP : 223.207.22.245

[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3293210)

..เรื่องนี้ดูเหมือนได้เคยได้ตอบมาแล้ว....จากข้อเท็จจริง เป็นการรุกล้ำที่ดินผู้โดยสุจริต ตาม ปพพ. ม.1312 วรรคแรก เพราะคุณไม่ได้ปลูกบ้านเอง แต่ซื้อมาอีกต่อหนึ่ง คุณจึงเป็นเจ้าบ้านทั้งหลัง ไม่ต้องรื้อส่วนที่รุกล้ำ แต่ต้องชดใช้ราคาที่ดินตามสมควร และจดทะเบียนเป็นภาระจำยอม... กฎหมายที่เกี่ยวข้อง....ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และแนวคำพิพากษาศาลฎีกาเทียบเคียง....

มาตรา 1312 บุคคลใดสร้างโรงเรือนรุกล้ำเข้าไปในที่ดินของผู้อื่นโดย สุจริตไซร้ ท่านว่าบุคคลนั้นเป็นเจ้าของโรงเรือนที่สร้างขึ้น แต่ต้องเสียเงินให้แก่เจ้าของที่ดินเป็นค่าใช้ที่ดินนั้น และจดทะเบียนสิทธิเป็นภารจำยอม ต่อภายหลังถ้าโรงเรือนนั้นสลายไปทั้งหมด เจ้าของที่ดินจะเรียกให้เพิกถอน การจดทะเบียนเสียก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4799/2552

กันสาดด้านหน้าและด้านหลังตึกแถวของจำเลยรุกล้ำที่ดินของโจทก์ โดยบริษัท ท. ซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์เดิมได้ก่อสร้างและแบ่งขายพร้อมที่ดิน จำเลยกับพวกซื้อตึกแถวที่มีกันสาดที่สร้างขึ้นพร้อมอาคารดังกล่าวอยู่แล้ว ต่อมาโจทก์ซื้อที่ดินในสภาพที่มีกันสาดด้านหน้าและด้านหลังตึกแถวของจำเลยรุกล้ำที่ดินของโจทก์จากบริษัท ท. อีก เมื่อจำเลยมิได้เป็นผู้สร้างตึกแถวพร้อมกันสาด หากแต่เจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินเดิมเป็นผู้สร้างในที่ดินของตนเองโดยชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งไม่มีกฎหมายที่จะยกมาปรับคดีได้ จึงต้องนำประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 4 มาใช้บังคับโดยอาศัยเทียบบทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่งได้แก่มาตรา 1312 วรรคแรก จำเลยจึงมีสิทธิใช้ส่วนแห่งแดนกรรมสิทธิ์ที่ดินของโจทก์ที่อยู่ใต้แนวกันสาดที่รุดล้ำเข้าไปนั้นได้ โดยถือว่ากันสาดที่รุกล้ำนั้นเป็นมาโดยสุจริต แต่จำเลยต้องเสียค่าใช้ที่ดินนั้นแก่โจทก์ โดยโจทก์ต้องจดทะเบียนสิทธิภาระจำยอมให้จำเลย โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยรื้อกันสาดอันเป็นสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่ดินของโจทก์จนกว่าจำเลยจะไม่ใช้ค่าใช้ที่ดินนั้น เมื่อโจทก์มิได้ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินเป็นค่าใช้ที่ดินนั้น คงฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระค่าเสียหายซึ่งไม่ใช่ค่าใช้ที่ดิน ศาลจึงบังคับให้ไม่ได้ และเมื่อฟังว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ฟ้องแย้งของจำเลยที่ขอให้บังคับโจทก์จดทะเบียนภาระจำยอมย่อมตกไปด้วยเพราะฟ้องแย้งต้องมีฟ้องเดิมและตัวโจทก์เดิมเป็นจำเลยต่อไป

ผู้แสดงความคิดเห็น มโนธรรม วันที่ตอบ 2012-07-20 18:46:33 IP : 101.51.189.10

ความคิดเห็นที่ 2 (3293414)

อ่านแล้วได้ประโยชน์

แต่สงสัยว่ากฏหมายเช่นนี้สมควรยกเลิกหรือแก้ไขหรือไม่

เรื่องครอบครองโดยปรปักษ์ โดยเฉพาะโฉนด

ทำไมไม่ยกเลิกซะที

เหมือนมีไว้เพื่อสอนคนให้เบียดเบียนคนอื่น

เพราะยุคนี้คนโลภมีมากมาย

กฏหมายกลับเปิดช่องว่างให้คนได้กระทำหรือพยายามกระทำ

เพราะถ้ากฏหมายไม่เปิดช่องว่างไว้

คนที่มีที่ดินข้างเคียงจะได้ไม่คิดสิ่งชั่วร้ายในการกั้นรั้วล้ำเข้าไปในที่คนอื่น

เผื่อฟลุ๊ค ผ่านไป 10 ปีจะได้เป็นเจ้าของ

นี่แหละเป็นที่มาของการทะเลาะ กินใจกัน

.....ถ้าจะบอกว่าเพื่อคนที่มีที่ดินจะได้ดูแลที่ดินตนเอง

แล้วทำไมไม่ร่างกฏหมายใหม่ออกมาในทำนองว่า

คนที่ครอบครองโดยปรปักษ์ 10 ปี

ถ้าหากเจ้าของที่ดินมาพบเข้าหรือทราบทีหลัง

และยื่นแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่บ้านเมือง

ผู้ครอบครองปรปักษ์ไม่มีสิทธิ์ได้ที่ดินผืนนั่นๆโดยเด็ดขาด

แต่ 1.มีสิทธิ์ใช้ที่ดินผืนนั่นๆฟรีต่อไปได้อีกไม่เกิน 2 ปีหรือ 5 ปี

และ 2.เจ้าของที่ดินจะต้องไปเสียค่าภาษีที่ดิน 1-5 เท่าเพิ่มจากปกติที่เคยเสีย

ในฐานะที่ปล่อยให้ที่ดินรกร้างว่างเปล่า

(แค่ 2 ข้อนี้ เจ้าของที่ดินก็กลัวแล้ว)

//อยากให้ผู้ที่อยู่ในแวดวงกฏหมาย ช่วยนำความคิดเห็นนี้ไปต่อยอด

จะเป็นคุณต่อสังคมไทยอย่างยิ่ง//

ขอบคุณครับ

(จริงๆผมก็ไม่รู้เรื่องกฏหมาย แค่เป็นความคิดเท่านั้น)

ผู้แสดงความคิดเห็น ศรีศักดิ์ วันที่ตอบ 2012-07-23 05:26:56 IP : 101.109.177.56

ความคิดเห็นที่ 3 (3293415)

กรณีที่บอกว่าลุกล้ำโดยสุจริต(ไม่มีเจตนา)

แต่เมื่อรู้แล้ว.....ทำไมไม่รื้อถอนออกไป

ส่วนจะให้โจทก์หรือเจ้าของที่ดินที่ถูกรุกล้ำ

ต้องชดใช้โดยสร้างรั้วหรือกันสาดใหม่ให้หรือออกให้กึ่งหนึ่ง

น่าจะดีกว่าไหม ?

ผมว่าตัวบทกฏหมายสามารถแก้ไขให้ดีขึ้นได้ครับ

เพราะสังคมไทยปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปมากๆแล้ว

ผู้แสดงความคิดเห็น ศรีศักดิ์ วันที่ตอบ 2012-07-23 05:47:57 IP : 101.109.177.56

ความคิดเห็นที่ 4 (3293416)

จริงๆคำว่า "โดยสุจริต หรือไม่เจตนา"

คำนี้ตีความยากมากๆ

อย่างกรณีเรื่องที่ดิน

การกั้นรั้วหรือกันสาดเข้าไปที่ดินคนอื่น

คำว่าไม่เจตนาจะต้องหมายถึง "หลักมุดที่แสดงเขตหายไปทั้งหัวท้าย"

แต่ถ้าหลักมุดยังมีอยู่

ผู้ลุกล้ำที่ดินคนอื่นจะยังสุจริตและไม่มีเจตนา....ได้หรือ ?

มันขัดๆกันอยู่...ชอบกลดี

ขอบคุณครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ศรีศักดิ์ วันที่ตอบ 2012-07-23 06:16:30 IP : 101.109.177.56

ความคิดเห็นที่ 5 (3293417)
ผม เป็นคนที่ตั้งกระทู้นะครับผมไม่รู้จะทำอย่างไรครับ ไม่รู้จะเชื่อใคร ระหว่าง เจ้าของบ้านเก่าที่อ้างสิทธิ์ หรือ สำนักงานที่ดินในพื้นที่ ผมงงมากแต่ละคนก็พูดไม่เหมือนกัน ช่วยแนะนำผมหน่อยนะครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น เบน วันที่ตอบ 2012-07-23 07:38:58 IP : 223.204.37.151

ความคิดเห็นที่ 6 (3293462)

เรียนเจ้าของกระทู้ ท่านก็ต้องปฏิบัติตาม ปพพ. ม.1312 วรรคแรก เพราะเป็นทางเลือกที่มีกฎหมายรองรับ และมีแนวคำพิพากษาศาลฎีการับรองไว้....เรื่องความเห็น การครอบครองปรปักษ์ ก็มีเหตุผล ท่านคงต้องเสนอแนวคิดของท่าน แก่ สส. ในเขตพื้นที่ของท่าน ให้เสนอร่างแก้ไข ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ที่ท่านเห็นว่าไม่เหมาะสมได้ ในเมื่อในขณะนี้ยังไม่มีการแก้ไข ก็ต้องใช้บทบัญญัติตามาตราเหล่านี้่ในการแก้ไขปัญหา แม้จะแก้ไขใหม่ ก็ใช่ว่าจะถูกใจคนทั้งหมด ก็ย่อมมีข้อโต้แย้งอยู่ดี เพราะ..."กฎหมายไม่ใช่ความยุติธรรม แต่เป็นบทบัญญัติที่ตราไว้ เพื่อรักษาความยุติธรรมเท่านั้น"

ผู้แสดงความคิดเห็น มโนธรรม วันที่ตอบ 2012-07-23 16:56:10 IP : 101.51.191.188

ความคิดเห็นที่ 7 (3293497)
แต่ที่ผมงง ก็คือ ทางสำนักงานที่ดินบอกว่าที่ ข้างหลังที่เกิน เป็นที่ว่างปล่าว จะเป็นสิทธิ์ของเรานะสิครับ และผมสามารถออกโฉนดนั้นได้ ผมก็เลยไม่แน่ใจว่า จริงแล้วที่ที่เกินเข้ามา งานกว่า จะเป็นของผมโดยชอบธรรมตามที่ สำนักงานที่ดินได้บอกผมหรือไม่
ผู้แสดงความคิดเห็น เบน วันที่ตอบ 2012-07-23 18:32:46 IP : 223.204.157.193

ความคิดเห็นที่ 8 (3293526)

ถ้าเจ้าของเดิมรุกล้ำที่ดินผู้อื่น เกิน 10 ปี และต่อมาคุณได้รับโอนมา คุณก็อ้างการครอบครองปรปักษ์ เพื่อให้ได้ที่ดินส่วนที่เกินนี้ได้ แต่ถ้าเจ้าของที่ดินมีโต้แย้ง ฟ้องร้อง ก็ต้องนำพยานหลักฐานมาหักล้างกันว่า เกิดสิทธิโดยการครบครองปรปักษ์ หรือไม่ สุดท้าย ก็มักจบลงด้วยการประนีประนอมกันครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น มโนธรรม วันที่ตอบ 2012-07-24 10:45:02 IP : 101.51.182.91

[1]

แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *

ผู้แสดงความคิดเห็น *
อีเมล
	ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล