ดิฉันถูกใส่ร้ายให้เป็นแพะ ในความผิดปลอมลายมือชื่อ   โดยไม่รู้เนื้อรุ้ตัว

ตั้งแต่ประมาณเดือนกรกฏาคม54 วันหนึ่งก็มีหมายเรียกจากตำรวจให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา  โดยมีคนไปแจ้งความกล่าวหาลอยๆ โดยไม่มีหลักฐานอะไรเลย    ดิฉันก็ไป และชี้แจงทุกสิ่งทุกอย่าง  ให้เอาลายมือไปส่งตรวจ เพื่อพิสูจน์ความจริง  ซึ่งดิฉันให้ความร่วมมืออย่างดีทุกอย่าง   และได้ทราบข้อมูลจากตำรวจว่าเรื่องนี้เป็นอาญาแผ่นดิน  ถึงพิสูจน์ลายมือแล้วออกมาว่าไม่ใช่ยังไงก็ต้องฟ้อง ต้องส่งเรื่องให้อัยการ    ให้ดิฉันรอฟังผลก่อน

ที่แปลกก็คือ ดิฉันติดต่อตำรวจเจ้าของคดีไม่ค่อยจะได้ เดือนสิงหา ติดตามเรื่องได้คุยครั้งสองครั้ง  แต่ยังไม่มีความคืบหน้า

เดือนกันยา มือถือตำรวจโทรไม่ติดเลย  โทรไปที่ สน.บอกว่าไม่อยู่ไปราชการต่างจังหวัด  ไม่มีทางติดต่ออื่นได้ท่านเป็นระดับผู้บริหารต้องมือถืออย่างเดียว 

เดือนตุลา บ้านดิฉันน้ำท่วม อพยพไปอยู่ต่างจังหวัด  ลองโทรหาตำรวจ ก็ยังไม่รับโทรศัพท์

เดือนพฤศจิกายน  ทันทีที่กลับมาอยู่บ้าน  ลองโทรหาตำรวจอีกที คราวนี้โทรติดสัญญาณดังสองสามที แล้วก็ตัดสายทิ้ง     ดิฉันงงมาก  แล้วดิฉันจะตามคดีได้ยังไง    จึงโทรไปที่สน.ขอติดต่อห้องเสมียนคดี เพื่อขอทราบความคืบหน้าของคดี ทางตำรวจในห้องเสมียนก็ตอบว่าไม่ทราบ คดีนี้ต้องถามท่าน..เจ้าของคดีคนเดียว ยืนยันให้ติดต่อมือถืออย่างเดียว เบอร์เดิม      งงมากๆ ค่ะ   ไม่เข้าใจระบบการทำงานของตำรวจเลย

จนป่านนี้เดือนกุมภาแล้ว ผ่านมาเจ็ดเดือน  โทรหาตำรวจทุกๆอาทิตย์ ติดบ้างไม่ติดบ้าง แต่ตำรวจไม่เคยรับโทรศัพท์ ดิฉันยังไม่ทราบความคืบหน้าใดๆเลย ติดต่อใครก็ไม่ได้   ทั้งๆที่ ดิฉันถูกกล่าวหาเป็นผู้ต้องหา โดยไม่ได้กระทำความผิด     ตอนนี้เลยระแวง และไม่สบายใจมากๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น  เรื่องนี้มันไปอยู่ไหนแล้ว  แล้วต่อไปอะไรมันจะเกิดขึ้นกับเราอีก 

เลยอยากทราบขั้นตอนการทำงานของตำรวจ   การส่งอัยการ   การส่งฟ้องศาล

ว่าขั้นตอนเหล่านี้เป้นอย่างไร   ถ้าเรื่องไปถึงอัยการเค้าจะเปิดโอกาสให้ดิฉันไปชี้แจงอีกทีใช่หรือไม่??

อีกใจหนึ่ง...ก็แอบคิดเข้าข้างตัวเองว่า ไอ้คนแจ้งความมันคงสำนึกผิด ก็เลยหยุด...ให้เรื่องเงียบไปเฉยๆ  ก็ดีเหมือนกัน  ..ก็จะกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้มันไป