ถ้ามีสัญญากู้ยืมถูกต้องก็ฟ้องร้องบังคับคดีได้    แต่เป็นเรื่องทางแพ่ง  การจะได้เงินคืน บางที ก็คงไม่ง่ายนัก  เพราะมีเหตุปัจจัยประกอบมากมาย  คนทั่วไปจึงเรียกว่า  คดีแพง  คือไม้เอกหายไป   ด้วยความปรารถนาดี ครับ

ขอบคุณค่ะ  แบบนี้แสดงว่าไม่ควรฟ้องใช่มั๊ยคะ อยากได้รายละเอียดเหตุปัจจัยจังค่ะ

ได้แก่  ขอไกล่เกลี่ยเจรจา   ผ่อนเป็นงวด   เมื่อถึงเวลาก็ผ่อนบ้างไม่ผ่อนบ้าง  หรือต่อสู้ว่าสัญญากู้ไม่สมบูรณ์  ซึ่งอ้างได้หลายสาเหตุ    หรือใช้เทคนิคเลื่อนคดีไปเรื่อยๆ  โดยอ้างเหตุคิดขัดนานัปการ เพื่อทำลายขวัญกำลังใจของเจ้าหนี้ ให้ถดถอย.....หรือแม้ศาลจะให้ชำระหนี้ตามฟ้อง   กฎหมายก็ห้ามอายัดเงินเดือนข้าราชการ   ถ้าเขาไม่มีทรัพย์สินอื่นให้ยึดก็คงลำบาก   หรือแม้มีทรัพย์สิน   แต่ยักย้ายถ่ายโอนไปก่อนแล้ว  เพื่อไม่ให้ถูกบังคับคดี  ก็คงทำอะไรได้ไม่มากนัก..หรือลูกหนี้บางรายนำเรื่องเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด (เกินร้อยละ 15 ต่อปี)  มาเล่นงาน   ซึ่งมีโทษทางอาญา   ก็คงยุ่งยิ่งยากเพิ่มขึ้น...จะควรฟ้องหรือไม่   ก็อยู่ที่การตัดสินใจเอาเอง    ถ้าเงินไม่มากนักก็ไม่น่าจะไปฟ้อง    ถ้าเงินมากหน่อย ก็ฟ้องเป็นคดีมโนสาเร่ได้  ซึ่งค่าใช้จ่ายไม่เกินหนึ่งพันบาท   แต่ก็คงต้องมีทนายช่วยเหลือ   ลองฟ้องดูก็ดีเหมือนกัน  แล้วคุณจะพบสัจจะธรรมมากมาย  สรุปก็คือมีเงินฝากธนาคารไว้ปลอดภัยกว่า  แม้ดอกเบี้ยต่ำ  แต่ไร้กังวล ด้วยความปรารถนาดี ครับ

เพิ่มเติม...  ถ้ามีหนี้ถึง 1 ล้านบาท  ก็ฟ้องล้มละลายได้   ถ้าฟ้องล้มละลาย   ข้าราชการจะกลัวมาก   เพราะถ้าศาลให้เป็นบุคคลล้มละลาย  จะขาดคุณสมบัติการเป็นข้าราชการ คือต้องให้ออก  ก็รอให้ดอกเบี้ยเพิ่มถึง 1 ล้าน ค่อยฟ้องล้มละลายก็ได้ ถ้าถูกฟ้องล้มละลาย  เขาอาจรีบหาทางเคลียร์ให้จบ   โอกาสได้เงินคืนก็เป็นไปได้สูง ครับ