[ หน้าแรก ] | [ เกี่ยวกับปมุขกฎหมาย ] | [ บริการของปมุขกฎหมาย ] | [ กระดานปรึกษากฎหมาย ] | [รวม Link ที่น่าสนใจ ] |
ฟ้องทรัพย์ | |
ถ้าฟ้องหย่าแบ่งสินสมรสผู้ปกครองบุตรซึ่งกำลังศึกษาอยู่ อายุ 8 ขวบ กับ 14 ปีแลฟ้องแบ่งสินสมรสใช้ราคาไหนในการฟ้องราคาประเมินหรือไม่อย่างไรทางทนายเขาจะคิดหักกี่เปอร์เซนพื่อเข้ารัฐและถ้าตกลงกันไม่ได้ทรัพย์สินจะต้องขายทอดตลาดและราคาจะใช้ราคาไหนหรือใช้ราคาของบังคับคดีเพราะทรัพย์สินถ้าขายทอดตลาดต้องสูงกว่าราคาประเมินหรือไม่และค่าใช้จ่ายในนำหลักทรัพย์ขายทอดตลาดของบังคับคดีมีรายละเอียดอะไรบ้างค่าใช้จ่ายเท่าไหรทีจะต้องเสียให้กับทางบังคับคดี ถ้ารวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะประมาณเท่าไร ระยะเวาฃลานานเท่าไร ตอนนี้สับสนไม่เข้าใจ ไม่อยากทนแล้ว กรุณาช่วยชี้แจ้งและแนะนำด้วยค่ะ ขอบพระคุณอย่างยิ่ง | |
ผู้ตั้งกระทู้ การ :: วันที่ลงประกาศ 2012-11-23 09:23:24 IP : 180.183.180.110 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (3303531) | |
ดูเหมือนเป็นคำถามสั้นๆ แต่มีประเด็นที่คุณต้องการราบมากมายหลายประเด็น จะพยายามตอบให้ครบทุกประเด็นเท่าที่จะทำได้...
1. การฟ้องหย่าจะต้องมีเหตุ ตาม ปพพ. 1516 ถ้าเป็นเพียงมีเรื่องระหองระแหงในครอบครัว ศาลคงไม่ให้หย่า ก็ต้องการหย่ากันจริง ควรตกลงไปจดทะเบียนหย่ากันเอง เพราะไม่ต้องมีการใช้จ่าย และสะดวกที่สุดครับ
2. การปกครองบุตร ใครได้จะได้อำนาจปกครองบุตร หลักการมีว่า...ให้ศาลคำนึงถึงความผาสุกและประโยชน์ของบุตรนั้นเป็นสำคัญ ดังนั้นฝ่ายที่ต้องการปกครองบุตร ก็ต้องแสดงรายละเอียดและข้อเท็จจริง ในเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ รายได้รายจ่าย เพื่อให้เห็นว่าตนมีความสามารถปกครองเลี้ยงดูบุตร ได้ดีกว่าอีกฝ่ายหนึ่ง
3. ค่าขึ้นศาล ถ้าเป็นคดีที่มีทุนทรัพย์ จะคิด 2% ของราคาทรัพย์ แต่ไม่เกิน 2 แสนบาท...ส่วนค่าทนายความ ก็อยู่ที่ตกลงกันเอาเอง คงประมาณ 3-5 หมื่นบาทครับ
4. การแบ่งสินสมรสก็แบ่งเท่าๆกัน ถ้าไม่อยู่ในวิสัยจะแบ่งกันได้ ก็ขายแล้วนำเงินมาแบ่งกัน ก็ต้องหักค่าใช้จ่ายต่างๆในการขายก่อนนำมาแบ่งปันกัน....เรื่องเวลาคงไปกำหนดแน่นอนไม่ได้...คุณคงกำลังสับสนในชีวิต ถ้าสุดทน ก็ลองใช้วิธีแยกกันอยู่ชั่วคราวก่อน ถ้าจะหย่า ก็ค่อยมาตัดสินใจภายหลัง ก็ไม่น่าจะสายเกินไป.... และถ้าจำเป็นต้องหย่า ก็ตกลงหย่ากันเอง จะไปฟ้องหย่าให้ต้องเสียเงินเสียเวลาทำไมครับ.......ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 1516 เหตุฟ้องหย่ามีดังต่อไปนี้
(1) สามีหรือภริยาอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องผู้อื่นฉันภริยาหรือสามี เป็นชู้หรือมีชู้ หรือร่วมประเวณีกับผู้อื่นเป็นอาจิณ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(2) สามีหรือภริยาประพฤติชั่ว ไม่ว่าความประพฤติชั่วนั้นจะเป็นความ ผิดอาญาหรือไม่ ถ้าเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่ง
(ก) ได้รับความอับอายขายหน้าอย่างร้ายแรง
(ข) ได้รับความดูถูกเกลียดชังเพราะเหตุที่คงเป็นสามีหรือภริยาของฝ่าย ที่ประพฤติชั่วอยู่ต่อไป หรือ
(ค) ได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนเกินควร ในเมื่อเอาสภาพฐานะ และความเป็นอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยามาคำนึงประกอบ อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(3) สามีหรือภริยาทำร้าย หรือทรมานร่างกายหรือจิตใจ หรือหมิ่น ประมาทหรือเหยียดหยามอีกฝ่ายหนึ่งหรือบุพการีของอีกฝ่ายหนึ่ง ทั้งนี้ ถ้าเป็นการร้ายแรง อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(4) สามีหรือภริยาจงใจละทิ้งร้างอีกฝ่ายหนึ่งไปเกินหนึ่งปี อีกฝ่ายหนึ่ง นั้นฟ้องหย่าได้
(4/1) สามีหรือภริยาต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก และได้ถูกจำคุก เกินหนึ่งปีในความผิดที่อีกฝ่ายหนึ่งมิได้มีส่วนก่อให้เกิดการกระทำความผิด หรือยินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดนั้นด้วย และการเป็นสามี ภริยากันต่อไปจะเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่งได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนเกิน ควร อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(4/2) สามีและภริยาสมัครใจแยกกันอยู่เพราะเหตุที่ไม่อาจอยู่ร่วมกัน ฉันสามีภริยาได้โดยปกติสุขตลอดมาเกินสามปี หรือแยกกันอยู่ตามคำสั่งของ ศาลเป็นเวลาเกินสามปี ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(5) สามีหรือภริยาถูกศาลสั่งให้เป็นคนสาบสูญ หรือไปจากภูมิลำเนา หรือถิ่นที่อยู่เป็นเวลาเกินสามปี โดยไม่มีใครทราบแน่ว่าเป็นตายร้ายดีอย่าง ไร อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(6) สามีหรือภริยาไม่ให้ความช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูอีกฝ่ายหนึ่งตาม สมควร หรือทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการที่เป็นสามีหรือภริยากันอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ ถ้าการกระทำนั้นถึงขนาดที่อีกฝ่ายหนึ่งเดือดร้อนเกินควรในเมื่อเอา สภาพ ฐานะและความเป็นอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยามาคำนึงประกอบ อีกฝ่าย หนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(7) สามีหรือภริยาวิกลจริตตลอดมาเกินสามปี และความวิกลจริตนั้นมี ลักษณะยากจะหายได้ กับทั้งความวิกลจริตถึงขนาดที่จะทนอยู่ร่วมกัน ฉันสามีภริยาต่อไปไม่ได้ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(8) สามีหรือภริยาผิดทัณฑ์บนที่ทำให้ไว้เป็นหนังสือในเรื่องความ ประพฤติอีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(9) สามีหรือภริยาเป็นโรคติดต่ออย่างร้ายแรงอันอาจเป็นภัยแก่อีกฝ่าย หนึ่งและโรคมีลักษณะเรื้อรัง ไม่มีทางที่จะหายได้ อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(10) สามีหรือภริยามีสภาพแห่งกายทำให้สามีหรือภริยานั้น ไม่อาจร่วม ประเวณีได้ตลอดกาล อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น มโนธรรม วันที่ตอบ 2012-11-23 11:12:35 IP : 101.51.161.181 |
[1] |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 1086919 |