[ หน้าแรก ] | [ เกี่ยวกับปมุขกฎหมาย ] | [ บริการของปมุขกฎหมาย ] | [ กระดานปรึกษากฎหมาย ] | [รวม Link ที่น่าสนใจ ] |
ยักยอกทรัพย์นายจ้าง | |
น้องสาวผมทำงานเป็นพนักงานขายของประจำร้านค้า โดยทางบริษัท จะมีเจ้าหน้าที่มาส่งสินค้าที่จะขาย เช่น ผ้าเช็ดเ่ท้า 80 ผืน , ที่ตัดเร็บ 100 อัน , พวงกุญแจ 150 อัน เป็นต้น ครับ -เรื่องมีอยู่ว่าทางบริษัทได้แจ้งความน้องสาวผมว่ากระทำความผิดยักยอกทรัพย์ รวมความเสียหาย 70,000.- บาท ผมได้ถามน้องสาวผมว่าได้เอาไปหรือเปล่า น้องสาวผมแจ้งว่าเค้าอยู่ร้านคนเดียว เวลามีพนักงานขนส่งสินค้ามาส่งของ พนักงานขนส่งสินค้าก็จะให้รีบเซ็นต์ใบรับของ โดยอ้างว่าจะต้องรีบไปส่งสาขาอื่นอีก ทีนี้พอน้องสาวผมมาเรียงจัดวางสินค้าปรากฎว่าสินค้าได้สูญหายไป ก็เลยมีการโทรแจ้งทางบริษัทฯ ต่อมาทางบริษัทก็ส่งคนมาตรวจสินค้าทั้งหมดที่ร้านแล้วปรากฎว่าสินค้าสูญหายจริง แล้วเรื่องก็เงียบไปประมาณ 1 เดือน ปรากฎว่าทางบริษัทมาแจ้งความน้องสาวผมว่ายักยอกทรัพยสิน โดยใช้ใบเซ็นต์รับสินค้ามาอ้าง แล้วอย่างนี้มันไมยุติธรรมกับน้องสาวผมเลย ลองคิดดูสิครับ -ผู้หญิงตัวคนเดียวดูแลร้าน จะให้นับสินค้าตอนนั้นลูกค้าก็เข้ามาใช้บริการตลอด ประกอบกับโดนพนักงานขนส่งแจ้งรีบให้เซ็นต์เพราะจะต้องรีบไปส่งที่อื่น (คนส่งของขโมยหรือเปล่า หรือ ลูกค้าขโมยก็ไม่รู้) -ตำรวจบอกต่อให้มีทนายความก็แพ้อยู่ดี ไม่เ็คยเห็นชนะสักราย ทำยอมไปเถอะเรื่องจะได้จบจะทำยังไงดีครับ มันเหมือนต้องหาแพะรับบาปมารับผิดชอบกัน ขอความกรุณาช่วยชี้แนะด้วยครับร้อนใจจริงๆครับ
| |
ผู้ตั้งกระทู้ เอก :: วันที่ลงประกาศ 2013-10-04 16:58:09 IP : 101.109.248.9 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (3313945) | |
ขอบอกว่า งานที่น้องสาวของคุณทำอยู่ คือแพะรับบาปตัวจริงเสียงจริง ที่ตำรวจบอกก็เหตุผล เมื่อถูกแจ้งความดำเนินคดี ฐานยักยอกทรัพย์ ก็ควรยินยอมทำสัญญาประนีประนอมยอมความ ขอใช้หนี้ โดยขอผ่อนส่งเป็นงวดๆ เมื่อทำสัญญายอมความ คดีอาญาก็ยุติ นายจ้างจะดำเนินคดีกับน้องสาวของคุณไม่ได้อีก เพราะคดีนี้สามารถยอมความกันได้ เมื่อเจรจายอมความแล้ว เรื่องก็จบ คงเหลือแต่ความรับผิดทางแพ่ง คือชดใช้ค่าเสียหาย เท่านั้น..... ถ้าจะคิดต่อสู้คดี ก็สามารถทำได้ โดยไปขอพิสูจน์ตนในชั้นศาล คดีนี้มีโทษจำคุกไม่เกินสามปี ถ้าสามารถพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้กระทำความผิด อาจรอด หรืออาจได้รอการลงโทษไว้ แต่คงใช้เวลาไม่น้อย และคงมีค่าใช้จ่ายพอสมควร บางทีอาจมากกว่า ที่ต้องยอมชดใช้ให้นายจ้างเสียอีก.... ก็ต้องใช้วิจารณญาณเอาเองว่าจะเลือกแบบไหน....เมื่อหมดเคราะห์เรื่องคดีนี้แล้ว ควรให้น้องสาวหางานใหม่ที่ไม่ต้องเสี่ยงเช่นนี้อีก ด้วยความปรารถนาดี ครับ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น มโนธรรม วันที่ตอบ 2013-10-05 14:59:18 IP : 101.51.189.240 |
[1] |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 1086878 |