ReadyPlanet.com


ปัญหาทางผ่านที่ดิน


 ปัญหามีอยู่ว่า ที่ดินสวนยางพ่ออยู่ด้านหน้ามีทางผ่ากลางให้คนที่อยู่ด้านในใช้เป็นทางเดินมานานหลายสิบปี  สมัยก่อนให้ทางเดินเท่าตัวคนไม่มีรถอะไรใช้กัน สมัยนั้นยังไม่เจริญ ให้ผ่านกันแบบเอื้อเฟื้อต่อกัน  ต่อมาเจริญขึ้น

ก็มีรถจักรยานยนต์  รถยนต์  ของคนบ้านข้างในผ่านมากขึ้น (มี 3-4 ครอบครัวที่ใช้ทางและเขาทั้งหมดล้วนเป็นพี่น้องกัน) บางวันก็เอา รถตู้วิ่งผ่านเข้ามา ปัญหาคือเป็นทางระหว่างแถวยางพารา ทำให้ยางได้รับความเสียหาย  ความพลุกพล่านมากขึ้น รถมากขึ้น คนมากขึ้น และรถยนต์ที่วิ่งผ่านก็ใกล้กับชายคาบ้านเลย และดินถนนก็เริ่มทรุด เขาก็จะไปเอาดินมาถมทำถนน ทางพ่อก็ไม่ยอม ก็คุยกับเขาว่าจะให้ผ่านทางอื่น คือริมเขตแดนของพ่อ ซี่งพ่อจะให้ทำถนนใหม่เลย แต่ต้องมีค่าใช้จ่าย ตอนแรกก็เหมือนจะตกลง ไปๆมาๆเขาก็ไปปรึกษาทนายให้ฟ้องร้อง  และทางเขาก็บอกว่าพ่อต้องแพ้ ถ้าสืบพยานได้ว่าทางนี้ใช้มานานเกินว่าสิบปีแล้ว  ตอนนี้พ่ออายุ 85 แล้ว จะช่วยอย่างไรดีคะ

ในโฉนด ก็ไม่ระบุว่ามีทางอะไรเลย  เราเสนอให้เขาใช้อีกทาง เรามีทางเลือกให้เขา ไม่ใช่จะปิดแบบไม่มีทางออกให้เสียเมื่อไหร่  (ตอนนี้พวกเขาก็ยังผ่านทางนี้อยู่แต่ก็แบบศัตรูกันแล้ว)  จะทำอย่างไรดีจึงจะปิดทางนี้ได้ แต่ถ้าแพ้คดีทางเราต้องเดือดร้อนกับการใช้ทางของเขามากขึนต่อไปในอนาคต  แน่นอน



ผู้ตั้งกระทู้ นิชานันท์ (kulanank88-at-hotmail-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2013-01-15 18:25:46 IP : 1.0.197.239


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3306214)

  การที่เปิดทางให้ผู้อื่น  เดินผ่านที่ดินเกิน 10 ปี   อาจเกิดทางภาระจำยอมที่พ่อไม่สามารถปิดเส้นทางนี้ได้   แต่ได้มีแนวคำพิพากษาศาลฎีกา  วินิจฉัยที่ใกล้เคียงกับกรณีที่คุณถาม   คือการใช้ทางผ่านที่ดินอาจไม่เกิดภาระจำยอม   ถ้าเป็นการใช้ทางเดินแบบถือวิสาสะ      ก็ต้องดูข้อเท็จจริงเป็นกรณีๆไป....   แต่ในความเป็นจริง  การมีทางผ่านที่ดิน   น่าจะมีผลดีมากกว่าผลเสีย   อย่างน้อยๆที่ดินจะเกิดมูลค่าเพิ่ม เพราะมีทางสัญจรสะดวก   และประโยชน์ที่ใหญ่หลวงก็คือ  ได้สร้างกุศลครั้งใหญ่ในชีวิต  เพราะทำให้ผู้อื่นเข้าออกได้สะดวก    ส่งผลให้ผู้อุทิศให้ และบุตรหลาน ทำมาหากินสะดวก  ไม่อับจนในเรื่องทางทำมาหากิน  แต่เรื่องแบบนี้  ถ้าคนไม่เชื่อถืออาจคิดว่าไร้สาระก็เป็นได้  ครับ

 
 
 
.....แนวคำพิพากษาที่ถือว่าเป็นทางภาระจำยอม.....
 
 
 
 
 
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5886/2552
 
 
โจทก์ใช้ทางพิพาทเป็นทางเข้าออกจากที่ดินของโจทก์สู่ทางสาธารณะตั้งแต่ปี 2532 ถึงปี 2544 โดยมิได้ขออนุญาตจำเลยทั้งสองและจำเลยทั้งสองไม่คัดค้าน แม้การใช้ทางพิพาทของโจทก์ตั้งแต่ปี 2532 ถึงปี 2537 จะใช้โดยเข้าใจผิดว่าทางพิพาทอยู่ในที่ดินของโจทก์เอง ก็ถือว่าโจทก์มีเจตนาถือเอาทางพิพาทเป็นทางเข้าออกจากที่ดินของโจทก์สู่ทางสาธารณะตั้งแต่ปี 2532 เป็นต้นมาแล้ว หาใช่โจทก์เพิ่งใช้เป็นทางเข้าออกจากที่ดินของโจทก์ในปี 2537 ไม่ เมื่อโจทก์ใช้ทางพิพาทต่อมาจนครบสิบปีก็ถือว่าโจทก์ใช้ทางพิพาทโดยเจตนาให้ได้ภาระจำยอมแล้ว และเมื่อปรากฏว่าโจทก์ใช้ทางพิพาทโดยความสงบและโดยเปิดเผย ทางพิพาทจึงตกเป็นภาระจำยอมแก่ที่ดินของโจทก์.
 
..........แนวคำพิพาษาที่ถือว่าไม่ใช่ทางภาระจำยอม...
 
ฎีกา 12102/2553
 
    ขณะที่ ป.มีชีวิตอยู่โจทก์ใช้ทางพิพาทโดยอาศัยสิทธิของ ป. ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดิน มิใช่เป็นการใช้สิทธิในทางพิพาทอันเป็นปรปักษ์ต่อเจ้าของที่ดิน จึงไม่ก่อให้เกิดภาระจำยอม และหลังจากจำเลยเป็นเจ้าของที่พิพาทแล้ว โจทก์ก็ใช้ทางพิพาท โดยมิได้มีการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงทางพิพาทแต่อย่างใด ทางพิพาทยังคงอยู่ในสภาพเดิมจนกระทั่งจำเลยทำประตูและรั้วในทางพิพาท โจทก์ก็มิได้มีพฤติการณ์ที่แสดงให้เห็นว่าใช้ทางพิพาทโดยมีเจตนาเพื่อให้ได้ทางภาระจำยอม โจทก์และจำเลยเป็นญาติที่ใกล้ชิดกันจึงฟังได้ว่าโจทก์ใช้ทางพิพาทโดยถือวิสาสะอาศัยความเกี่ยวพันในทางเครือญาติ เป็นประการสำคัญ ถือไม่ได้ว่าโจทก์ใช้ทางพิพาทในลักษณะปรปักษ์ ตาม มาตรา 1382 แม้โจทก์จะใช้ทางพิพาทผ่านที่ดินของจำเลยมากว่า 10 ปี ทางพิพาทก็ไม่ตกเป็นภาระจำยอม ตาม ปพพ.1401
ผู้แสดงความคิดเห็น มโนธรรม วันที่ตอบ 2013-01-16 11:58:32 IP : 101.51.177.90


ความคิดเห็นที่ 2 (3306563)

 เบื่อกฏหมายเมืองไทย

ผู้แสดงความคิดเห็น การ ( kulanank88-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2013-01-21 16:59:38 IP : 1.0.197.179


ความคิดเห็นที่ 3 (3306565)

 คนให้ทางเดือดร้อน แต่ทำไรไม่ได้  ดีนะเป็นคนชั่วทำไรๆก็ได้ ไปๆมาก็ลงเรื่องกรรมเวร  เครียด

ผู้แสดงความคิดเห็น การ ( kulanank88-at-hotmail-dot--com))วันที่ตอบ 2013-01-21 17:03:08 IP : 1.0.197.179


ความคิดเห็นที่ 4 (3307130)

เรียน ผู้ตั้งกระทู้และกราบสวัสดี ทนายและทีมงาน เว็ปไซต์ ด้วยความเคารพอย่างยิ่ง

กระเป็นแฟนคลับและเข้ามาปรึกษาทางทีมงานของเว็ปไซต์นี้เป็นประจำ หลายปีครับ   ขออนุญาติ แสดงความความจริง

ตัวกระผมประสบมาเหมือน ผู้ตั้งกระทู้นะครับ    แต่ทางกระผม ได้เห็นควรตามทีมงานให้ความเห็นว่า  เปิดให้ใช้เส้นทาง ถนนดีกว่าครับ  เพราะว่า เรามีเพื่อนเพิ่มขึ้น มิตรเพื่มขึ้น มีเพื่อนเป็นกำแพงชองชีวิตจะดีกว่าเราได้เงินจากเขา  และเป็นการสร้างกุศลที่ดีครับ คือ เพื่อนบ้านก็มีทางเข้าออก ทำมาหากิน เขาก็คล่องตัว  เราก็มีบุญกุศลมหาศ่ลครับ  ที่ดินไม่ไปไหนครับ แถม มูลค่าเพิ่มอีกครับ   ลองตรองคิดในแง่ดีเช้าไว้ครับ ยามตกทุกข์ลำบาก บุญนำพา  พระคุ้มครองครับ  

 

จากคนที่ให้เพื่อนผ่าถนนกลางสวนยางตามคำแนะคำของทีมทนาย Pamook.com

ชาวสวนยาง   

084-8494956

ผู้แสดงความคิดเห็น ชาวสวนยาง วันที่ตอบ 2013-02-05 11:09:40 IP : 118.173.195.142



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.