ลืมบอกไปค่ะ ตัวดิฉันเป็นผู้รับจำนอง แล้วจะมีสิทธิ์ขายบ้านหลังนั้นไหม หรือต้องทำยังไงคะ 

  คุณผู้รับจำนอง มีทางบังคับจำนองได้ สอง ช่องทางคือ   ทางแรก  ตาม ปพพ. ม.728  เมื่อครบกำหนดตามสัญญาจำนอง  ก็มีจดหมายบอกกล่าวไปยังผู้จำนองให้ชำระหนี้ ภายในเวลาอันสมควร  ถ้าเขาเพิกเฉย  ก็ต้องฟ้องศาลให้ยึดทรัพย์จำนองไปขายทอดลาด เพื่อใช้หนี้จำนองได้    หรือ  อีกช่องทางหนึ่ง  ตาม ปพพ. ม.729 คือเรียกเอาทรัพย์จำนองหลุด  คือยึดทรัพย์ที่นำมาจำนองเป็นของคุณ  โดยมีเงื่อนไข....เช่น  ขาดส่งดอกเบี้ยห้าปี    ผู้จำนอง  มิได้ แสดงให้เป็นที่พอใจแก่ศาลว่าทรัพย์สินสินมีราคาท่วมจำนวนเงินที่ค้างชำระ  เช่นกรณีของคุณ  ลูกหนี้ก็ต้องพิสูจน์ให้ศาลเห็นว่า บ้านและที่ดินมีราคา มากว่า 5 แสนบาท(พร้อมดอกเบี้ย)  ถ้าพิสูจน์ไม่ได้  คุณก็ยึดทรัพย์จำนองได้  และ  การเรียกเอาทรัพย์จำนองหลุด   ต้องไม่มีการจำนองรายอื่น (ซึ่งปัญหานี้น่าจะไม่มี   คุณคงรับจำนองเพียงผู้เดียว)...กฎหมายที่เกี่ยวข้อง  ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์.....

มาตรา 728 เมื่อจะบังคับจำนองนั้น ผู้รับจำนองต้องมีจดหมาย บอกกล่าวไปยังลูกหนี้ก่อนว่าให้ชำระหนี้ภายในเวลาอันสมควร ซึ่ง กำหนดให้ในคำบอกกล่าวนั้น ถ้าและลูกหนี้ละเลยเสียไม่ปฏิบัติตาม คำบอกกล่าวผู้รับจำนองจะฟ้องคดีต่อศาล เพื่อให้พิพากษาสั่งให้ ยึดทรัพย์สินซึ่งจำนองและให้ขายทอดตลาดก็ได้
มาตรา 729 นอกจากทางแก้ดั่งบัญญัติไว้ใน มาตรา ก่อนนั้น ผู้รับ จำนองยังชอบที่จะเรียกเอาทรัพย์จำนองหลุดได้ภายในบังคับแห่ง เงื่อนไข ดั่งจะกล่าวต่อไปนี้
(1) ลูกหนี้ได้ขาดส่งดอกเบี้ยมาแล้วเป็นเวลาถึงห้าปี
(2) ผู้จำนองมิได้แสดงให้เป็นที่พอใจแก่ศาล ว่าราคาทรัพย์สิน นั้นท่วมจำนวนเงินอันค้างชำระ และ
(3) ไม่มีการจำนองรายอื่น หรือบุริมสิทธิอื่นได้จดทะเบียนไว้ เหนือทรัพย์สินอันเดียวกันนี้เอง 

มาตรา 733 ถ้าเอาทรัพย์จำนองหลุด และราคาทรัพย์สินนั้นมี ประมาณต่ำกว่าจำนวนเงินที่ค้างชำระกันอยู่ก็ดี หรือถ้าเอาทรัพย์สิน ซึ่งจำนองออกขายทอดตลาดใช้หนี้ ได้เงินจำนวนสุทธิน้อยกว่าจำนวน เงินที่ค้างชำระกันอยู่นั้นก็ดีเงินยังขาดจำนวนอยู่เท่าใดลูกหนี้ไม่ต้อง รับผิดในเงินนั้น (..........เพิ่มเติม  ถ้าในสัญญาจำนอง   ยกเว้น มาตรานี้ไว้    ลูกหนี้ก็ยังต้องรับผิดในหนี้ที่เหลือ หรือหนี้ส่วนต่าง  จนหมด   ซึ่งสถาบันการเงิน  มักทำสัญญาและยกเว้นไม่นำ มาตรานี้มาบังคับเสมอ ครับ)

 การที่จะพิสูจน์ให้ศาลเห็นว่า บ้านและที่ดินมีราคา มากว่า 5 แสนบาท(พร้อมดอกเบี้ย) นี่เขาพิสูจน์จากอะไรคะ เพราะลองเอาที่ดินตามโฉนดประเมินราคาผ่านเว็บ ที่ดินได้ตารางวาละ 14000 มี 18 ตารางวา ก็ 252,000 แล้วตัวบ้านเขาจะถึง 250,000 ไหมคะ

แล้วถ้าฟ้องศาล ยึดทรัพย์ขายทอดตลาด จะใช้ระยะเวลานานไหมคะ ดิฉันเองไม่เคยมีเรื่องอะไรถึงขั้นขึ้นศาลมาก่อนเลย เลยไม่ค่อยทราบรายละเอียดการฟ้องร้อง

 การพิสูจน์ราคา   ก็คงต้องใช้ราคาประเมินของสำนักงานที่่ดินเป็นหลัก   ศาลจึงจะรับฟัง   คุณก็ลองให้เจ้าพนักงานที่ดินประเมินราคาให้ก็ได้   ส่วนการฟ้องร้อง   ก็มีค่าใช้จ่าย   เช่นค่าทนายความก็ประมาณ  30,000  บาท  หรือ  5% ของทุนทรัพย์ที่ฟ้อง  หรือตามที่ตกลงกัน   ค่าธรรมเนียมศาล ร้อยละ2  ของราคาทุนทรัพย์ แต่ไม่เกินสองแสนบาท....เรื่องเวลาในการดำเนินการ ก็คงประมาณ  6เดือนถึงหนึ่งปี....   ถ้าสามารถเจรจากับลูกหนี้ได้สำเร็จ   ก็ให้เขาโอนที่ดินให้คุณเลย  จะลดค่าใช้จ่ายและทุ่นเวลาได้มาก   ถ้าคุณทำแบบบรรดาเจ้าหนี้มืออาชีพทั้งหลายที่เขาทำกัน  เช่น ลิสซิ่งทั้งหลาย  เมื่อมากู้ยืมเงิน   เขาก็ให้ทำเรื่องโอนลอยที่ดินหรือทรัพย์สินไว้ให้เลย  เมื่อลูกหนี้บิดพลิ้วไม่ชำระหนี้   ก็นำเอกสารโอนลอย ไปโอนที่ดินเป็นของเจ้าหนี้ได้  ไม่ต้องเสียเวลาไปฟ้องร้องบังคับคดี  แต่ก็เป็นวิธีการที่ไม่ถูกต้อง   แต่บรรดาลิสซิ่งทั้งหลาย  ต่างโตวันโตคือน  ก็ไม่เคยได้ยินใครออกมาเรียกร้องหรือปกป้องเรี่องนี้แต่อย่างใดครับ