ReadyPlanet.com


อายุความบังคับคดี


ถูกฟ้องคดีถึงที่สุดตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นเมือ 22มิย46 ต่อมาเมื่อวันที่ 10มีค52ถูกพิพากษาให้ล้มละลาย อยากทราบว่าอายุความของการบังคับคดียึดทรัพย์หมดอายุความแล้วหรือยัง วันที่10มีค57นี้ก็จะถึงปลดล้มแล้ว



ผู้ตั้งกระทู้ รุ่งรัตน์ :: วันที่ลงประกาศ 2014-02-22 15:52:06 IP : 27.55.236.74


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3316086)

แม้จะถูกปลดจากบุคคลล้มละลาย    คุณก็ยังมีหน้าที่ช่วยในการจำหน่ายและแบ่งทรัพย์สินของคุณ  ซึ่งตกอยู่กับเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์  ตามที่เจ้าพนักงาพิทักษ์ต้องการ    ถ้าไม่ช่วยเหลือฯ    ศาลมีอำนาจเพิกถอนคำสั่งปลดละลายนั้นได้ ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น มโนธรรม วันที่ตอบ 2014-02-22 17:15:32 IP : 118.175.150.146


ความคิดเห็นที่ 2 (3316087)

 อยากถามต่อว่าอายุความที่จะบังคับคดียึดทรัพย์ผู้ถามคำถามข้างต้นหมดไปแล้วหรือยัง หรือว่าคดีของเขาเป็นคดีล้มอายุความยังคงอยู่

ผู้แสดงความคิดเห็น สุรชัย วันที่ตอบ 2014-02-22 18:24:32 IP : 27.55.236.74


ความคิดเห็นที่ 3 (3316092)

โดยหลักต้องบังคับคดีภายใน 10 ปี......การปลดจากบุคคลล้มละลาย  จะทำให้บุคคลล้มละลายหลุดพ้นจากหนี้ทั้งปวง    เว้นหนี้ภาษีอากร...

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 634/2554

     คำสั่งปลดจากล้มละลายมีผลทำให้จำเลยที่ 2 หลุดพ้นจากการเป็นบุคคลล้มละลายและมีอำนาจจัดการกิจการและทรัพย์สินของตนเองได้ ทั้งทำให้หลุดพ้นจากหนี้ทั้งปวงอันพึงขอรับชำระได้ โดยมีข้อยกเว้นหนี้อันพึงขอรับชำระได้เพียง 2 กรณีที่ไม่หลุดพ้น รวมทั้งหนี้เกี่ยวกับภาษีอากรตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย ฯ มาตรา 77 ซึ่งข้อยกเว้นกรณีนี้กฎหมายหาได้บัญญัติว่าต้องเป็นหนี้ที่ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้แล้วหรือเป็นบทบัญญัติที่อยู่ภายใต้บังคับของมาตรา 91 ไม่ เมื่อหนี้คดีนี้เป็นหนี้เกี่ยวกับภาษีอากร แม้โจทก์จะมิได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีที่จำเลยที่ 2 เคยถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดก็ตาม แต่ต่อมาจำเลยที่ 2 ถูกปลดจากล้มละลาย จำเลยที่ 2 ก็ยังไม่หลุดพ้นจากหนี้ดังกล่าว โจทก์ย่อมมีสิทธิขอให้จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิดล้มละลายตามห้างจำเลยที่ 1 ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย ฯ มาตรา 89 ในคดีนี้ได้ ทั้งถือไม่ได้ว่ามีการขอให้พิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดซ้ำอันเป็นการต้องห้ามตามมาตรา 15 แต่อย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5442/2554
ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
     โจทก์
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
     เจ้าหนี้
นางสาวธีนุรัตน์หรือบวรลักษณ์ แซ่ลี้
     จำเลย

 
พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 94(1)
ป.พ.พ. มาตรา 193/17
ป.วิ.พ. มาตรา 289

 
          ในการที่ จ. กู้ยืมเงินจากเจ้าหนี้โดยลูกหนี้ได้จำนองที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างไว้เป็นประกันหนี้ โดยมีข้อตกลงว่าหากบังคับทรัพย์จำนองไม่พอชำระหนี้ ลูกหนี้ยอมรับผิดชำระหนี้ส่วนที่ขาดจนครบถ้วนนั้น เมื่อลูกหนี้ชั้นต้นผิดนัดไม่ชำระหนี้ โดยชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2539 เจ้าหนี้ชอบที่จะฟ้องร้องหรือขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายภายในกำหนดระยะเวลา 10 ปี นับแต่วันผิดนัดดังกล่าว หากเจ้าหนี้ไม่ดำเนินการก็ถือว่ามูลหนี้ประธานขาดอายุความ ส่วนที่เจ้าหนี้นำมูลหนี้กู้ยืมและจำนองไปฟ้อง จ. และลูกหนี้เป็นคดีแพ่ง ต่อมาเจ้าหนี้ได้ถอนฟ้องในส่วนของลูกหนี้ และศาลมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีส่วนลูกหนี้ออกจากสารบบความ การฟ้องคดีดังกล่าวจึงไม่ได้ทำให้อายุความในมูลหนี้ที่ลูกหนี้ต้องรับผิดสะดุดหยุดลง ตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/17 เมื่อเจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2550 จึงเป็นเวลาเกินกว่า 10 ปี นับแต่วันผิดนัด หนี้รายนี้จึงขาดอายุความไม่อาจขอรับชำระหนี้ได้ ตามพ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 94 (1) ส่วนการที่เจ้าหนี้ได้นำมูลหนี้จำนองไปยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้บุริมสิทธิในคดีแพ่ง และศาลมีคำสั่งอนุญาตให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ตามขอ ก็เป็นผลให้เจ้าหนี้มีสิทธิได้รับชำระหนี้ในฐานะเจ้าหนี้บุริมสิทธิผู้รับจำนอง และเมื่อศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาดแล้ว เจ้าหนี้ย่อมนำมูลหนี้บุริมสิทธิดังกล่าวมาขอรับชำระหนี้ได้ แต่หาได้เกี่ยวพันกับหนี้ส่วนที่ขาดอันเป็นหนี้สามัญด้วยแต่อย่างใดไม่
 
________________________________
 

 

 

 
 
( ณรงค์พล ทองจีน - สมศักดิ์ จันทรา - วีระพล ตั้งสุวรรณ )

คดีสืบเนื่องมาจากศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ (จำเลย) เด็ดขาด เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2549
เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ในมูลหนี้ตามคำพิพากษาของศาลแพ่งกรุงเทพใต้ คดีหมายเลขแดงที่ ย.884/2544 จำนวน 7,874,699.71 บาท จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 96 (3) จากการขายทอดตลาดที่ดินโฉนดเลขที่ 50104 ตำบลสามเสนใน (บางซื่อฝั่งใต้) อำเภอดุสิต (บางซื่อ) กรุงเทพมหานคร
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นัดตรวจคำขอรับชำระหนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 104 แล้ว ไม่มีผู้ใดโต้แย้งคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้รายนี้
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนแล้ว เห็นว่า เจ้าหนี้มีสิทธิได้รับชำระหนี้จำนองในที่ดินโฉนดเลขที่ 50104 ตำบลสามเสนใน (บางซื่อฝั่งใต้) อำเภอดุสิต (บางซื่อ) กรุงเทพมหานคร พร้อมสิ่งปลูกสร้าง แต่เจ้าหนี้ไม่มีสิทธิได้รับชำระหนี้ส่วนที่ขาดเนื่องจากสิทธิเรียกร้องในมูลหนี้กู้ยืมขาดอายุความ จึงเห็นควรให้ยกคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 107 (1) โดยไม่ตัดสิทธิของเจ้าหนี้ในการบังคับจำนองที่ดินโฉนดเลขที่ 50104 ตำบลสามเสนใน (บางซื่อฝั่งใต้) อำเภอดุสิต (บางซื่อ) กรุงเทพมหานคร พร้อมสิ่งปลูกสร้างอันเป็นทรัพย์หลักประกัน
ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้ยกคำขอรับชำระหนี้ตามความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
เจ้าหนี้อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังยุติว่า นายจรวยได้ทำสัญญากู้ยืมเงินจากเจ้าหนี้เป็นเงิน 3,000,000 บาท เพื่อเป็นประกันการชำระหนี้เงินกู้ ลูกหนี้ได้นำที่ดินโฉนดเลขที่ 50104 ตำบลสามเสนใน (บางซื่อฝั่งใต้) อำเภอดุสิต (บางซื่อ) กรุงเทพมหานคร พร้อมสิ่งปลูกสร้างไปจำนองประกันหนี้ในวงเงิน 3,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย โดยมีข้อตกลงต่อท้ายสัญญาจำนองว่า หากว่ามีการบังคับยึดทรัพย์จำนองออกขายทอดตลาดแล้วได้เงินไม่พอชำระหนี้ ลูกหนี้ยอมรับผิดชำระหนี้ส่วนที่ขาดจนครบถ้วน ต่อมาห้างหุ้นส่วนจำกัด หมงกลการในฐานะเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในคดีของศาลแพ่งหมายเลขแดงที่ 16650/2536 ได้นำยึดทรัพย์หลักประกันของลูกหนี้ เจ้าหนี้จึงยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้บุริมสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 289 ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ได้รับชำระหนี้จำนองก่อนเจ้าหนี้อื่นในที่ดินโฉนดเลขที่ 50104 พร้อมสิ่งปลูกสร้าง ในวงเงิน 3,299,919.89 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ของต้นเงิน 2,977,247.73 บาท นับแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2539 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ ส่วนในมูลหนี้กู้ยืม หลังจากนายจรวยรับเงินตามสัญญากู้ยืมแล้ว ปรากฏว่านายจรวยไม่ปฏิบัติตามสัญญาโดยชำระหนี้ให้เจ้าหนี้ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2539 เจ้าหนี้จึงนำมูลหนี้กู้ยืมจำนองไปฟ้องนายจรวยและลูกหนี้ต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้เป็นคดีหมายเลขดำที่ ย.5622/2542 ระหว่างพิจารณา ลูกหนี้ยื่นคำให้การต่อสู้คดีว่าคำฟ้องของเจ้าหนี้เป็นฟ้องซ้อนกับคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 16650/2536 ซึ่งเจ้าหนี้ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้จำนองไว้ เจ้าหนี้จึงได้ถอนฟ้องลูกหนี้ในคดีของศาลแพ่งกรุงเทพใต้และศาลมีคำสั่งอนุญาต ต่อมาศาลแพ่งกรุงเทพใต้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2544 ให้นายจรวยชำระหนี้เงินกู้ และเมื่อศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาดในคดีนี้ เจ้าหนี้จึงมายื่นคำขอรับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 96 (3) ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2550 มีปัญหาวินิจฉัยในชั้นนี้ว่า เจ้าหนี้มีสิทธิขอรับชำระหนี้ในส่วนที่ขาดจากการบังคับจำนองหรือไม่ เห็นว่า ในการที่นายจรวยกู้ยืมเงินจากเจ้าหนี้โดยลูกหนี้ได้จำนองที่ดินโฉนดเลขที่ 50104 ตำบลสามเสนใน (บางซื่อฝั่งใต้) อำเภอดุสิต (บางซื่อ) กรุงเทพมหานคร พร้อมสิ่งปลูกสร้างไว้ประกันหนี้ โดยมีข้อตกลงว่า หากบังคับทรัพย์จำนองไม่พอชำระหนี้ ลูกหนี้ยอมรับผิดชำระหนี้ส่วนที่ขาดจนครบถ้วน เมื่อลูกหนี้ชั้นต้นผิดนัดไม่ชำระหนี้ โดยชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2539 เจ้าหนี้ชอบที่จะฟ้องร้องหรือขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายภายในกำหนดระยะเวลา 10 ปี นับแต่วันผิดนัด หากเจ้าหนี้ไม่ดำเนินการก็ถือว่ามูลหนี้ประธานขาดอายุความ ส่วนที่เจ้าหนี้นำมูลหนี้กู้ยืมและจำนองไปฟ้องนายจรวยและลูกหนี้เป็นคดีแพ่งหมายเลขดำที่ ย.5622/2542 ต่อมาเจ้าหนี้ได้ถอนฟ้องในส่วนของลูกหนี้ และศาลมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีส่วนลูกหนี้ออกจากสารบบความ เช่นนี้ การฟ้องคดีจึงไม่ได้ทำให้อายุความในมูลหนี้ที่ลูกหนี้ต้องรับผิดสะดุดหยุดลงแต่อย่างใด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/17 เมื่อเจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2550 จึงเป็นเวลาเกินกว่า 10 ปี นับแต่วันผิดนัด หนี้รายนี้จึงขาดอายุความ ไม่อาจขอรับชำระหนี้ได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 94 (1) ส่วนการที่เจ้าหนี้ได้นำมูลหนี้จำนองไปยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้บุริมสิทธิในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 16650/2536 ของศาลแพ่ง และศาลมีคำสั่งอนุญาตให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ตามขอ ก็เป็นผลให้เจ้าหนี้มีสิทธิได้รับชำระหนี้ในฐานะเจ้าหนี้บุริมสิทธิผู้รับจำนอง และเมื่อศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาดแล้ว เจ้าหนี้ย่อมนำมูลหนี้บุริมสิทธิมาขอรับชำระหนี้ได้ แต่หาได้เกี่ยวพันกับหนี้ส่วนที่ขาดอันเป็นหนี้สามัญด้วยแต่อย่างใดไม่ เช่นนี้ การที่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้เจ้าหนี้มีสิทธิได้รับชำระหนี้ในการบังคับจำนองจากที่ดินโฉนดเลขที่ 50104 ตำบลสามเสนใน (บางซื่อฝั่งใต้) อำเภอดุสิต (บางซื่อ) กรุงเทพมหานคร พร้อมสิ่งปลูกสร้าง และให้ยกคำขอรับชำระหนี้ในเงินส่วนที่ขาดจึงชอบแล้ว อุทธรณ์ของเจ้าหนี้ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นนี้ให้เป็นพับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น มโนธรรม วันที่ตอบ 2014-02-23 12:43:15 IP : 101.51.164.238


ความคิดเห็นที่ 4 (4137273)
cartierbraceletlove I like the valuable info you provide within your articles. I?€?ll bookmark your weblog and check once again here regularly. I am quite certain I?€?ll learn numerous new stuff proper here! Excellent luck for the next! bracelet van cleef r?plique http://www.topvcabijoux.cn/
ผู้แสดงความคิดเห็น bracelet van cleef r?plique (bqbctxth-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2017-02-15 12:11:16 IP : 58.62.234.166



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.