ต้องให้ นาง ก.  ร้องศาล ขอเป็นผู้จัดการมรดกของสามีก่อน  หลักฐานที่ใช้ได้แก่   ใบมรณบัตรของสามี  บัญชีทรัพย์สิน   บัญชีเครือญาติ  โฉนดที่ดิน    เอกสารเกี่ยวกับผู้ยื่น เช่น สำเนาบัตรฯ สำเนาทะเบียนบ้าน  เป็นต้น  ถ้าพอมีความรู้  จะยื่นต่อศาลเองก็ได้  ค่าใช้จ่ายประมาณ 2,000  บาท   ถ้าให้ทนายยื่นให้ก็ย่อมสะดวกกว่า  ค่าใช้จ่ายก็ต้องตกลงกันเอาเอง......เมื่อ นาง ก.  ได้เป็นผู้จัดการมรดกของสามี   ก็สามารถจดทะเบียนโอนที่ดิน ให้คุณได้  ถ้าบุตรสาวยินยอม ครับ

เพิ่มเติมครับ

1.ร้องเป็นผู้จัดการมรดกใช้เวลานานไหมครับ

2.หากนาง ก. และลูกสาว  นำใบมรณบัตรของนายคำ  ใบทะเบียนสมรส ไปขอเปลี่ยนผู้มีกรรมสิทธิ์ที่ดินเป็นของนาง ก. ที่สำนักงานที่ดินโดยไม่ต้องร้องศาลเป็นผู้จัดการมรดกจะได้ไหมครับ

ขอบคุณครับ

เพิ่มเติมครับ ผมได้ดูขั้นตอนการขอรับมรดกของสำนักงานที่ดินจังหวัดชัยภูมิ เอกสารที่ต้องนำไปประกอบในการขอรับมรดกเป็นดังนี้ครับ
 

1.หนังสือแสดงสิทธิ์
2.ใบมรณะบัตรของเจ้ามรดกและทายาทที่ตาย
3.ทะเบียนสมรส หย่า ของเจ้ามรดก
4.ทะเบียนบ้านและบัตรประจำตัวของทายาทที่ยังมีชีวิตอยู่ทุกคน
5.ทายาทที่มีสิทธิรับมรดกต้องไปสำนักงานที่ดิน หรือ นำเอกสารในการสละมรดกไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่
 

     ผมจึงสงสัยว่านาง ก. ต้องร้องศาลเป็นผู้จัดการมรดกหรือไม่ เพราะ กรณีตัวอย่างยายของผมมีลูก 5 คน และยายได้เสียชีวิตโดยที่ไม่ได้ยกที่ดินให้ใคร ต่อมาลูกของยายทั้ง 5 คน ก็ไปยื่นขอแบ่งที่ดินเพื่อออกโฉนดที่สำนักที่ดินจังหวัดอ่างทองไม่นานก็มีการรังวัดออกโฉนดให้โดยไม่มีการร้องเป็นผู้จัดการมรดกแต่อย่างไรครับ ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ