ReadyPlanet.com


เลี้ยวกลับรถตรงยูเทิร์นแล้วถูกชนท้าย คู่กรณีเมา


 

สวัสดีครับ ผมมีข้อทุกข์ใจอันเกิดจากอุบัติเหตุเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เรื่องมีอยู่ว่า ผมได้ขับรถกระบะเลี้ยวกลับรถที่จุดกลับรถ ก่อนที่จะออกตัวเลี้ยวกลับรถนั้นผมจอดรออยู่และกระพริบไฟด้านขวา จนเมื่อสังเกตแน่ใจแล้วว่าเลนฝั่งตรงข้ามว่าง ไม่มีรถสวนมาเลยจึงออกตัวกลับรถดังกล่าว หลังจากกลับรถแล้วผมอยู่เลนกลาง ถนนมีสามเลน เนื่องจากมีรถฟอจูนเนอร์เลี้ยวกลับรถขนาบคู่มาทางซ้ายของรถผม เค้าจึงเลี้ยวแล้วเข้าเลนซ้ายส่วนผมนั้นเข้าเลนกลาง พอขับตรงมาได้ระยะนึงประมาณ 30-40 เมตร (อันนี้วัดเอาเองภายหลัง) ก็มีแรงกระแทกจากทางข้างหลังอย่างแรงจนแว่นของผมกระเด็นหล่นลงพื้นภายในรถ และรถของผมยังคงวิ่งต่อไปข้างหน้าอีก 400 เมตรไปชนรถอีกสองคันที่จอดอยู่ทางไหล่ทางทางซ้ายในลักษณะดันแบบโดมิโน่ จากนั้นรถของผมก็ไหลลงไปในคูข้างทางนั้นและจอดแน่นิ่ง สาเหตุที่รถยังวิ่งต่อไปหลังจากถูกชน เพราะตอนนั้นไม่สามารถเบรคห้ามล้อได้ เนื่องจากเบรกถูกล็อกเองจากแรงกระแทก ทำให้อุปกรณ์เสริม คือ ล็อกเบรกล็อคคลัตช์ ยี่ห้อ D-Plus ที่ติดตั้งเพิ่มเติมตั้งแต่ออกรถมามันดีดตัวออกมาเหมือนตอนที่เรากดเพื่อล็อคเบรกล็อคคลัตช์เวลาจอดรถทิ้งไว้ เพื่อกันขโมยน่ะครับ ผมจึงต้องตัดสินใจดับเครื่องและถอดกุญแจออกมา เนื่องจากกุญแจปลดล็อคเบรกล็อคคลัตช์อยู่ในพวงกุญแจกับกุญแจรถนั่นเอง พอผมไขปลดล็อคเสร็จก็ยังเหยียบเบรคไม่อยู่เนื่องจากเครื่องยนต์ดับไปแล้วทำให้น่าจะไม่มีลมจ่ายเข้าหม้อลมเบรกนั่นเอง กว่าจะเอากุญแจเสียบเพื่อสตาร์ตเครื่องใหม่ก็ไม่ทันแล้ว วิ่งไปชนรถที่จอดอยู่ข้างทางดังกล่าวข้างต้น

หลังจากนั้นผมวุ่นวายในการโทรเรียกประกัน แล้วจึงวิ่งย้อนไปดูที่เกิดเหตุ พบรถคู่กรณีจอดเสียอยู่ริมเกาะกลางถนนซึ่งเป็นเลนขวา ทั้งๆ ที่ชนผมด้านหลังซ้าย งงเหมือนกัน แต่หม้อน้ำเค้าแตกหน้าพังยับเลยเคลื่อนรถต่อไปไหนไม่ได้ คนขับออกมานั่งหมดสภาพด้วยอาการมึนเมาแบบไม่รู้ตัวไม่รู้เรื่อง สักพักตำรวจมาแล้วนำตัวคู่กรณีที่เมาไปโรงพัก ผมตามไปที่โรงพักหลังจากเคลียร์กับประกันของตนแล้ว พอไปถึงตำรวจได้กันคู่กรณีซึ่งเมาไปนั่งหลบอยู่ไหนก็ไม่รู้ ไม่ได้ควบคุมตัวและจับเป่าแอลกอฮอล์เลย ผมเองต้องไปจี้ให้ตำรวจตรวจระดับแอลกอฮอล์ แต่ตำรวจกลับส่งตัวคู่กรณีไปตรวจที่โรงพยาบาลอ้างว่าเครื่องเป่าวัดระดับชำรุด ที่สำคัญตำรวจกล่าวหาว่าผมเป็นฝ่ายผิด มี 2 กรณี คือ

1) เลี้ยวรถตัดหน้า โดยประมาท

2) หลังถูกชนท้ายแล้ว ผมพยายามหลบหนี

ผมได้ชี้แจงรายละเอียดตามที่กล่าวข้างต้น ตำรวจท่าทางไม่เชื่อและไม่สอบสวนหาความจริง ไม่เก็บวัตถุพยาน ไม่ดำเนินคดีกับคนเมา แต่จะให้ผมยอมรับว่าเป็นฝ่ายประมาท เพราะพิจารณาจากสิทธิในการใช้ทาง คนเมาวิ่งมาทางตรง เราเลี้ยวกลับรถยังไงก็เสียเปรียบ

ผมได้แย้งตำรวจไปว่า ผมกลับรถเข้าทางตรงและวิ่งมาได้ระยะหนึ่งแล้ว ถือว่ามีสิทธิ์ใช้ทางเท่าๆ กัน แต่คู่กรณีต่างหากที่ไม่อยู่ในสภาพที่จะใช้รถใช้ถนนได้อย่างปลอดภัย เป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุ เพราะเมาแล้วขับรถเร็ว ที่เชื่อว่าขับรถเร็วก็เพราะว่า ก่อนที่ผมจะเลี้ยวรถผมไม่เห็นรถคู่กรณีแต่ไกลเลยด้วยซ้ำ แสดงว่าต้องวิ่งมาด้วยความเร็วมากจึงทันและชนท้ายผมอย่างนี้ ตอนนี้ผมเลยบอกให้ตำรวจทำเรื่องส่งขึ้นศาลไปเลย ผมไม่ยอมจบให้ อยากถามพี่ๆ เพื่อนๆ ทุกคนว่าผมผิดหรือถูกกันแน่ ผมมีโอกาสชนะในศาลหรือไม่ มีข้อสังเกตว่าตำรวจพยายามช่วยคู่กรณีมากกว่า ขอบคุณครับ



ผู้ตั้งกระทู้ สุรินทร์ (sngoench-at-yahoo-dot-co-dot-uk) :: วันที่ลงประกาศ 2014-04-25 01:44:37 IP : 49.230.165.160


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3629363)

 1) เลี้ยวรถตัดหน้า โดยประมาท

ตอบ.....ความเห็นของตำรวจ  ก็ว่าไปตามข้อเท็จจริง   แต่ถ้าคุณมั่นใจว่า่เลี้ยวกลับรถจนเข้าสู่ช่องทางวิ่งแล้ว  ก็ถือว่าไม่ประมาท   แต่ความเห็นของตำรวจย่อมมีน้ำหนัก   ที่ศาลจะรับฟัง   เพราะไปตรวจที่เกิดเหตุ   แต่คุณก็สามารถให้การต่อสู้ได้  ตามที่เล่ามา    โดยเฉพาะการเมาแล้วขับ  ควรไปขอความเห็นของแพทย์มาเตรียมไว้    ถ้าเมาแล้วขับ   ถือว่าประมาท  ครับ

2) หลังถูกชนท้ายแล้ว ผมพยายามหลบหนี

ตอบ...การอ้างเหคตุผลตามที่เล่ามาได้   แต่การหนีก็ไม่ได้สรุปว่าเป็นฝ่ายผิดเสมอไป   ก็ไม่ต้องกังวลเกินไป ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น มโนธรรม (manotham-at-thaimail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-04-26 07:29:43 IP : 182.52.138.136



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.