ReadyPlanet.com


ปรึกษาปัญหาที่ดิน นส.3ก


นาย ก ขายที่ดิน นส.3ก ให้นาย ข จำนวน 40 ไร่ เมื่อวันที่  26  มิถุนายน 2551  ได้จดทะเบียนการซื้อขายกับเจ้าพนักงาน แล้วนาย ข ได้ใช้ประโยชน์ปลูกปาล์มน้ำมัน แต่พอน้ำท่วมก็ตายหมดไม่ได้ผล  ต่อมาวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2557 ได้ขายที่ดินให้กับ นาง เอ และ นาง บี ที่ได้จดทะเบียนการซื้อขายกับพนักงานเจ้าหน้าที่ และได้ทำการขอแบ่งแยกที่ดินกันคนละ 20 ไร่ ระหว่างที่รอเจ้าหน้าที่มารังวัดก็ได้ทำการปรับปรุงเพื่อปลูกปาล์มน้ำมันอย่างเปิดเผยและเป็นปกติ พอปี 2558ปาล์มน้ำมันก็เจริญงอกงาม ประมาณเดือนสิงหาคม 2558 บริษัท ง ซื่งเป็นเจ้าของที่ข้างเคียงได้กล่าวอ้างว่า นาง เอ และ นาง บี ได้ลุกล้ำที่ดินของตนไป 10 ไร่ ซึ่งนางเอ และนาง บี ได้สอบถามไปยัง นาย ข ที่ขายที่ดินให้มานั้น นาย ข ก็บอกว่าเขตที่ทำไว้มีก่อนที่ตนจะซื้อมาอีก และตอนนี้เดือนกันยายน 2558 บริษัท ง ก็บอกว่าจะแจ้งความ นาง เอ และ นาง บี ที่ได้ลุกล้ำที่ดินจำนวน 10 ไร่นั้น และบอกว่าถ้าไม่อยากขึ้นศาลก็ให้ซื้อที่ดินจำนวน 10 ไร่นั้นซะในราคา ไร่ละ 90,000 บาท แล้วแบบนี้ถ้าบริษัท ง แจ้งความแล้วขึ้นศาล นางเอ และ นาง บี ต้องคืนที่ดิน นส.3 กให้กับ บริษัท ง หรือไม่  และถ้าไม่คืนที่ดินจะต้องจ่ายเงินชดใช้ให้กับบริษัท ง หรือไม่



ผู้ตั้งกระทู้ เดือนร้อน (jankasetsakul-at-hotmail-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2015-09-24 14:41:59 IP : 110.78.142.52


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3875282)

ในเมื่อ  เอและ บี ซื้อขายที่ดินและรับโอนมาถูกต้อง  และได้ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินมาโดยตลอด  เอและ บี จึงเป็นผู้มีสิทธิครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมาย   ง  อ้างว่ามีการรุกล้ำที่ดิน   เป็นข้อเท็จจริงที่ต้องพิสูจน์กัน   ง  ต้องแจ้งรังวัด เพื่อตรวจสอบแนวเขตว่ามีการรุกล้ำที่ดินจริงหรือไม่  จะมากล่าวอ้างลอยๆว่า ถูกรุกล้ำเป็น 10 ไร่ไม่ได้  ตามข้อเท็จจริง   ง  คงหวังใช้อิทธิพลบังคับซื้อที่ดินในราคาต่ำ  คงคิดว่า เอและ บี เป็นเพียงประชาชนที่ไม่รู้เท่าทัน  จึงใช้วิธีข่มขู่ให้ยอมจำนน     ตามข้อเท็จจริง  เอและ บี มีสิทธิครอบครองที่เหนือกว่าบุคคลอื่น  และมีสิทธิครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมาย  ถ้ามีการฟ้องร้อง  เอและ บี จะอยู่ในฐานะได้เปรียบในข้อกฎหมาย  จึงไม่ต้องเกรงกลัวคำข่มขู่ใดๆ  แต่เรื่องอิทธิพลมืด  หรือเรื่องนอกกฎหมาย  เอและ  บี ต้องใช้ความระมัดระวังตัวเอาเอง   เพราะเรื่องแบบนี้กฎหมายอาจเอื้อมมือไปช่วยไม่ถึง  แต่ปัญหารื่องที่ดินไม่ต้องวิตก  ก็ใช้วิธีนิ่ง  ไม่ต้องไปโต้ตอบใดๆ  ให้เกิดประเด็นข้อพิพาทขึ้นมาใหม่  ก็ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินไปตามปรกติ ถ้าถูกฟ้อง  ก็ค่อยแก้เกมกันไปตามข้อเท็จจริง น่าจะไม่มีปัญหา ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น มโนธรรม วันที่ตอบ 2015-09-25 04:04:27 IP : 101.51.170.151



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.