ReadyPlanet.com


ขออนุญาตสอบถามกรณีขับรถยนต์ชนกับรถจักยานยนต์มีผู้ได้รับบาดเจ็บไม่สาหัสครับ


ผมได้ขับรถยนกระบะสี่ประะตูเพื่อกลับบ้านในตอนเย็นหลังเลิกงาน
กำลังจะถึงทางแยกอีกประมาณ50เมตร(ถนนสองเลนสวนกัน) ได้ชนกับรถมอเตอร์ไซด์
โดยผมได้เบี่ยงข้ามเลนไปเพื่อหลบรถที่จอดอยู่ข้างถนนเพื่อซื้อของร้านค้า
ก่อนจะชนผมได้มองเห็นรถมอเตอร์ไซด์และได้บีบแตรเพื่อให้เขามองมาข้างหน้า
เนื่องจากคนขับมอเตอร์ไซด์ไม่มองข้างหน้ามองแต่ข้างขวาของเขา(ด้านซ้ายรถผม)เพราะเพื่อนเขาอยู่แถวนั้น
ผมจึงได้หักหลบนิดหนึ่งเพราะมีรถจอดอยู่ด้านซ้ายผมหนึ่งคัน
และเบรคจนรถหยุดแล้วมอเตอร์ไซด์ก็ชนกับรถผมที่จอดอยู่ตรงไฟตัดหมอกและกันชนหน้าผมแตก
รถมอเตอร์ไซด์ไฟฟน้าแตก ไฟเลี้ยวขวาหัก และ บังโคลนหน้าแตก
ผมได้ลงไปดูคนเจ็บ โทรแจ้ง 1669 ให้มารับคนเจ็บไปโรงพยาบาล  โทรแจ้ง ตำรวจให้มาที่เกิดเหตุ โทรตามญาติให้มา
และตามไปดูคนเจ็บสอบถามอาการ หมอทำการรักษา เอ็กเรย์ พบว่าไม่เป็นไรมาก ไม่หักไม่ร้าวแต่ขาเจ็บ
จึงดามเฝือกอ่อนไว้ หมอให้ยาพาราแก้ปวด และยาคลายกล้ามเนื้อ(ไดโคลฟอแนก) อย่างละ10 เม็ด แล้วให้กลับบ้าน
ผมจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ทั้งหมด ในวันนั้น  
ผมมีคำถามดังนี้ครับ
๑.ผมยอมรับว่าประมาทที่ขับข้ามเลนไปแต่เพราะมีเหตุจึงได้ข้ามและเมื่อเห็นมอเตอร์ไซด์
ผมได้บีบแตรให้สัญญาณเตือน หักหลบและจอด
จะถือว่ารถมอเตอร์ไซด์ประมาทด้วยหรือไม่ครับ เพราะชนกันเกือบกลางถนนผิดวิสัยของการขับ
มอเตอร์ไซด์ที่ต้องชิดขอบถนนด้านซ้าย และตอนนั้นเลนมอเตอร์ไซถนนว่างไม่มีรถครับ
๒.ฝ่ายมอเตอร์ไซด์เรียกค่าเสียหายมา 40000 บ. ผมว่ามันมากไปจึงอยากให้ไปตกลงที่โรงพัก
แต่ทางมอเตอร์ไซด์ไม่ยอมไปอยากให้ผมไปที่บ้านเขาเท่านั้น
แต่ผมคงไม่ไปเพราะมีตัวคนเดียวและเรื่องนี้ถึงที่ สน.แล้ว จริงๆคืนวันเกิดเหตุตกลงกันไว้แล้วว่า
ผมจะจ่ายค่าทำขวัญ 5000 บ.กับซ่อมรถให้แต่พอดีร้อยเวรไม่อยู่ไปทำอีกคดีข้างนอก
ร้อยเวรจึงนัดให้มาเช้าวันรุ่งขึ้นผมก็ไปแต่ฝ่ายมอเตอร์ไซด์ไม่ไปที่ สน. ผมโทรตามก็ไม่มา
ผมจึงแจ้งร้อยเวรว่าเขาไม่มาเขาเรียกเงิน 40000 บ. ผมว่ามันมากไป
ร้อยเวรบอกว่าจะนัดให้อีกครั้ง  ฝ่ายมอเตอร์ไซด์เป็นเยาวชนอายุ 19 ปี ไม่ได้มีอาชีพอะไร
ช่วยพ่อแม่ขายผักตามตลาดนัดกรณีแบบนี้ผมทำอย่างไรได้บ้าง
๓.ถ้าเขายังยืนกรานที่ค่าเสียหาย40000 บ.แต่ผมว่ามันมากไปผมยินดีที่จะจ่ายที่5000บ.และซ่อมรถตามจริงถ้าเขาไม่เอาและถ้าตกลงกันไม่ได้ถ้าเขาจะฟ้อง
ผมจะถูกฟ้องข้อหาอะไร และมีผลต่อหน้าที่การงานหรือไม่ ผมรับราชการครูครับ



ผู้ตั้งกระทู้ อาทิตย์ :: วันที่ลงประกาศ 2015-12-18 16:00:38 IP : 202.29.177.250


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3916316)

๑.ผมยอมรับว่าประมาทที่ขับข้ามเลนไปแต่เพราะมีเหตุจึงได้ข้ามและเมื่อเห็นมอเตอร์ไซด์
ผมได้บีบแตรให้สัญญาณเตือน หักหลบและจอด
จะถือว่ารถมอเตอร์ไซด์ประมาทด้วยหรือไม่ครับ เพราะชนกันเกือบกลางถนนผิดวิสัยของการขับ
มอเตอร์ไซด์ที่ต้องชิดขอบถนนด้านซ้าย และตอนนั้นเลนมอเตอร์ไซถนนว่างไม่มีรถครับ
 

ตอบ...ตามข้อเท็จจริง  ถือว่าคุณประมาท  เพราะเข้าไปช่องทางเดินรถของผู้อื่น ครับ

๒.ฝ่ายมอเตอร์ไซด์เรียกค่าเสียหายมา 40000 บ. ผมว่ามันมากไปจึงอยากให้ไปตกลงที่โรงพัก
แต่ทางมอเตอร์ไซด์ไม่ยอมไปอยากให้ผมไปที่บ้านเขาเท่านั้น
แต่ผมคงไม่ไปเพราะมีตัวคนเดียวและเรื่องนี้ถึงที่ สน.แล้ว จริงๆคืนวันเกิดเหตุตกลงกันไว้แล้วว่า
ผมจะจ่ายค่าทำขวัญ 5000 บ.กับซ่อมรถให้แต่พอดีร้อยเวรไม่อยู่ไปทำอีกคดีข้างนอก
ร้อยเวรจึงนัดให้มาเช้าวันรุ่งขึ้นผมก็ไปแต่ฝ่ายมอเตอร์ไซด์ไม่ไปที่ สน. ผมโทรตามก็ไม่มา
ผมจึงแจ้งร้อยเวรว่าเขาไม่มาเขาเรียกเงิน 40000 บ. ผมว่ามันมากไป
ร้อยเวรบอกว่าจะนัดให้อีกครั้ง  ฝ่ายมอเตอร์ไซด์เป็นเยาวชนอายุ 19 ปี ไม่ได้มีอาชีพอะไร
ช่วยพ่อแม่ขายผักตามตลาดนัดกรณีแบบนี้ผมทำอย่างไรได้บ้าง
 

ตอบ....กรณีแบบนี้   ก็ใช้การเจรจาชดใช้ค่าเสียหายไปตามที่เสียหายจริง  ครับ

๓.ถ้าเขายังยืนกรานที่ค่าเสียหาย40000 บ.แต่ผมว่ามันมากไปผมยินดีที่จะจ่ายที่5000บ.และซ่อมรถตามจริงถ้าเขาไม่เอาและถ้าตกลงกันไม่ได้ถ้าเขาจะฟ้อง
ผมจะถูกฟ้องข้อหาอะไร และมีผลต่อหน้าที่การงานหรือไม่ ผมรับราชการครูครับ

ตอบ...ตามข้อเท็จจริง  คู่กรณีไม่ได้บาดเจ็บสาหัส  คือไม่ได้เจ็บป่วยด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่า 20 วัน คุณจึงไม่มีโทษทางอาญา  มีเพียงความรับผิดทางแพ่ง  ก็ต้องใช้การเจรจาตกลงกัน   เพื่อชดใช้ค่าเสียหายตามความเหมาะสม  เมื่อตกลงกันไม่ได้  ตำรวจก็คงให้ฟ้องทางแพ่งเอาเอง  และปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท  ตาม พรบ.จราจรทางบกฯ  แม้ถูกฟ้อง ก็ไม่มีผลกระทบต่อหน้าที่การงานแต่อย่างใด   เพราะเป็นเพียงการประมาท  และรับผิดทางแพ่งเท่านั้น  ก็ใช้การเจรจาต่อรองกัน  เรื่องน่าจบลงได้....  บางทีคู่กรณีอาจคิดว่า เมื่อคุณเป็นฝ่ายผิด  จะเรียกร้องอย่างไรก็ได้   ถ้ามีการฟ้องศาล   เขาจะรู้ซึ้งได้เองว่า   เขาจะเรียกร้องสูงเท่าใดก็ได้   แต่ก็คงได้รับชดใช้ตามที่เสียหายจริงเท่านั้นและเมื่อเจรจาต่อรองกัน   ก็คงได้รับการชดใช้ที่ไม่สูงเกินควร   และคดีแบบนี้ แม้ฟ้องศาล    ศาลก็จะให้เจรจาไกล่เกลี่ยกันอีก สุดท้ายก็จะจ่ายค่าเสียหายตามความเหมาะสม ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น มโนธรรม วันที่ตอบ 2015-12-19 08:48:59 IP : 101.51.186.128


ความคิดเห็นที่ 2 (3916327)

เพิ่มเติม...อย่าไปเจรจาที่บ้านของคู่กรณีเป็นอันขาด  เพราะย่อมเสียเปรียบ  อาจถูกแจ้งข้อหาบุกรุก หรือทำให้เสียทรัพย์  ได้ ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น มโนธรรม วันที่ตอบ 2015-12-19 10:19:47 IP : 101.51.186.128



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.