ถ้าแม่จะทำพินัยกรรมมอบที่ดินให้บุตรแท้ๆเพียงผู้เดียว แม่ย่อมสามารถทำได้เสมอ บุตรบุญธรรมไม่มีอำนาจจะมาฟ้องใดๆได้ เพราะเป็นสิทธิโดยชอบธรรมของแม่เท่านั้น แต่พินัยกรรม ต้องทำให้ถูกต้องตามแบบ ถ้าทำไม่ถูกต้องอาจใช้บังคับไม่ได้ คือการทำพินัยกรรมไว้ อาจฟังดูเท่ดี เหมือนในนิยาย เมื่อเปิดพินัยกรรมแล้ว พระเอกหรือนางเอกมักจะได้รับมรดก เป็นจำนวนมาก ผู้ชมก็พลอยชื่นชมยินดีด้วย แต่ในชีวิตจริง การทำพินัยกรรมไว้ อาจเป็นการเสี่ยงพอสมควร เช่น ทำไม่ถูกต้องตามแบบ ย่อมใช้บังคับไม่ได้ หรือ แม้ทำถูกต้อง จะให้ใครเป็นผู้เก็บรักษาไว้ ก็เป็นปัญหาไม่น้อย หรือเมื่อผู้ทำพินัยกรรมตายลง เมื่อนำพินัยกรรมมาอ้าง ผู้เสียประโยชน์ (เช่นลูกบุญธรรม) อาจโต้แย้งว่าเป็นพินัยกรรมปลอม สุดท้ายคงมีการฟ้องร้องกันอีกวุ่นวาย.... ถ้าต้องการทำพินัยกรรม ควรทำพินัยกรรมแบบเอกสารฝ่ายเมือง คือไปติดต่ออำเภอหรือเขต แจ้งความจำนงต่อเจ้าหน้าที่ให้ทำพินัยกรรมให้ (เป็นหน้าที่ ไม่ใช่ไปขอร้อง) ถ้าเจ้าหน้าที่ทำให้คงปลอดภัยพอสมควร ปัญหาต่างๆน่าลดน้อยลง.......................การทำพินัยกรรมมอบที่ให้บุตร บุตรยังไม่สิทธิใดๆในที่ดิน จนกว่า แม่จะถึงแก่ความตาย ดังนั้น แม่จึงสามารถโอนที่ดินให้ผู้อื่น ได้เสมอ เมื่อแม่โอนที่ดินให้ผู้อื่น ก็ถือว่าพินัยกรรมที่ทำไว้ ไม่มีผลบังคับ คือพินัยกรรมถูกยกเลิกโดยปริยาย......ทางแก้ไข ควรเจรจากับแม่ ให้ท่านโอนที่ดินให้ โดยให้แม่ "สงวนสิทธิเก็บกิน" ไว้ตลอดชีวิต คือแม้แม่จะอนที่ดินให้บุตรแล้ว แต่แม่ยังมีสิทธิเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ในที่ดิน เช่นค่าเช่า ตลอดไปตลอดชีวิต เมื่อแม่ตาย ทรัพย์สินจะตกเป็นของบุตรโดยสมบูรณ์ ไม่ต้องมาทำพินัยกรรมให้ยุ่งยาก และไม่ต้องไปมาวิตกเรื่องแม่จะถูกหลอกให้โอนให้ผู้อื่น ถ้าแม่ยินยอมตกลง ก็ไปที่สำนักงานที่ดิน แจ้งเจ้าหน้าที่ที่ดิน ให้ดำเนินการให้ ด้วยความปรารถนาดี ครับ
...เพิ่มเติม การที่แม่ถือกรรมสิทธิร่วมกับน้า ควรหาโอกาสรังวัดที่ดินแบ่งแยกโฉนดถือกรรมสิทธิ์คนละแปลงระหว่าง แม่ และน้า เพื่อป้องกันต่างๆในอนาคต ครับ | 
