[ หน้าแรก ] | [ เกี่ยวกับปมุขกฎหมาย ] | [ บริการของปมุขกฎหมาย ] | [ กระดานปรึกษากฎหมาย ] | [รวม Link ที่น่าสนใจ ] |
พินัยกรรม / ลูกภรรยาเก่า | |
สามี : หย่ากับภรรยาเก่า เมื่อปี 44 มีบุตรชาย 1 คน (อยู่กับภรรยาเก่า) ทรัพย์สินที่มีอยู่ ภรรยาเก่าเอาไปหมดและแจ้งที่อำเภอว่า "จะไม่เกี่ยวข้อง/รับผิดชอบหนี้สินทั้งหมดที่มีหรือจะมีขึ้นในอนาคต"
*****************************
ดิฉัน :
-) จดทะเบียนสมรสกับสามี เมื่อปี 45 (เรา... เริ่มต้นใหม่ ทั้งชีวิต การงาน การเงิน)
-) ก่อตั้งและจดทะเบียนบริษัทฯ ปี 44 เปลี่ยนชื่อบริษัทฯ ปี 46
-) ปัจจุบันยังไม่มีบุตร
-) กิจการงานเติบโตดี มั่นคง มีทรัพย์สิน
-) ลำบากมามาก..ไม่อยากให้ใครได้ของเราที่สร้างมา
-) ปัจจุบันอยากจะทำพินัยกรรมเก็บไว้เพื่อป้องกัน
-) ดิฉันมีพี่น้อง 3 คน (รับราชการทหาร)
*****************************
สงสัยค่ะว่า..
1) ลูก/ภรรยาเก่า... มาเรียกร้องอะไรได้บ้าง
2) สามี พ่อแม่เสียแล้ว มีพี่น้อง 9 คน และมีประเภทเอาแต่ชื่อ มาเป็นหุ้นส่วนบริษัท 3 คน จะฟ้องขอแบ่งมรดกได้หรือไม่หากสามีเสียชีวิต
2) ควรป้องกันอย่างไร และควรทำพินัยกรรมอย่างไร
3) ต้องไปแจ้งยกเลิก "ชื่อบุคคลที่จะมาเรียกร้องรับมรดก" ณ ที่ว่าการอำเภอ หรือไม่?
*** มีข้อแนะนำอื่นๆโปรดแนะนำด้วยค่ะ ***
| |
ผู้ตั้งกระทู้ ดาว :: วันที่ลงประกาศ 2006-04-04 10:02:48 IP : 203.188.47.101 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (436041) | |
คุณมีสิทธิทำพินัยกรรม ยกทรัพย์สินให้กับใครก็ได้นะ .. ผลของพินัยกรรมคือ บุคคลทีไม่มีชื่อในพินัยกรรม ไม่มีสิทธิได้ทรัพย์สินของคุณเลย แบบของพินัยกรรม มี 4 แบบ 1 ทำเป็นหนังสือลงวัน เดือน ปี ในขณะที่ทำขึ้นและผู้ทำพินัยกรรมต้องลงลายมือชื่อไว้ต่อหน้าพยานอย่างน้อยสองคนพร้อมกัน ซึ่งพยานสองคนนั้นต้องลงลายมือชื่อรับรองลายมือชื่อของผู้ทำพินัยกรรมไว้ในขณะนั้น 2 พินัยกรรม ที่คุณเขียนขึ้นเองทั้งฉบับ กล่าวคือผู้ทำพินัยกรรมต้องเขียนด้วยมือตนเองทั้งหมด ต้องเขียน วัน เดือน ปี และลายมือชื่อของตัวเองด้วย 3 พินัยกรรม แบบที่เรียกว่า เอกสารฝ่ายเมือง คือ (1) ผู้ทำพินัยกรรมต้องไปแจ้งข้อความที่ตนประสงค์จะให้ใส่ไว้ในพินัยกรรมของตนแก่กรมการอำเภอต่อหน้าพยานอีกอย่างน้อยสองคนพร้อมกัน (2) กรมการอำเภอต้องจดข้อความที่ผู้ทำพินัยกรรมแจ้งให้ทราบนั้นลงไว้ และอ่านข้อความนั้นให้ผู้ทำพินัยกรรมและพยานฟัง (3) เมื่อผู้ทำพินัยกรรมและพยานทราบแน่ชัดว่า ข้อความที่กรมการอำเภอจดนั้นเป็นการถูกต้องตรงกันกับที่ผู้ทำพินัยกรรมแจ้งไว้แล้ว ให้ผู้ทำพินัยกรรมและพยานลงลายมือชื่อไว้เป็นสำคัญ (4) ข้อความที่กรมการอำเภอจดไว้นั้น ให้กรมการอำเภอลงลายมือชื่อและลงวัน เดือน ปี ทั้งจดลงไว้ด้วยตนเองเป็นสำคัญว่า พินัยกรรมนั้นได้ทำขึ้นถูกต้องตาม (1) ถึง (3) ข้างต้น แล้วประทับตราตำแหน่งไว้เป็นสำคัญ 4 พินัยกรรม แบบที่เรียกว่า เอกสารลับ คือ (1) ผู้ทำพินัยกรรมต้องลงลายมือชื่อในพินัยกรรม (2) ผู้ทำพินัยกรรมต้องผนึกพินัยกรรมนั้น แล้วลงลายมือชื่อคาบรอยผนึกนั้น (3) ผู้ทำพินัยกรรมต้องทำพินัยกรรมที่ผนึกนั้นไปแสดงต่อกรมการอำเภอ และพยานอีกอย่างน้อยสองคน และให้ถ้อยคำต่อบุคคลทั้งหมดเหล่านั้นว่าเป็นพินัยกรรมของตน ถ้าพินัยกรรมนั้นผู้ทำพินัยกรรมมิได้เป็นผู้เขียนเองโดยตลอดผู้ทำพินัยกรรมจะต้องแจ้งนามและภูมิลำเนาของผู้เขียนให้ทราบด้วย (4) เมื่อกรมการอำเภอจดถ้อยคำของผู้ทำพินัยกรรมและวัน เดือน ปี ที่ทำพินัยกรรมมาแสดงไว้บนซองนั้นและประทับตราตำแหน่งแล้ว ให้กรมการอำเภอผู้ทำพินัยกรรมและพยานลงลายมือชื่อบนซองนั้น
หมายเหตุ ถ้าไม่เข้าใจ ให้อ่าน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1655 - 1672 นะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น nor วันที่ตอบ 2006-04-04 21:44:26 IP : 203.153.172.224 |
ความคิดเห็นที่ 2 (439288) | |
-บุตรของสามีคุณย่อมมีสิทธิรับมรดกของสามีคุณในฐานะทายาทโดยธรรม คุณสามารถทำพินัยกรรมยกทรัพย์สมบัติของคุณให้ใครก็ได้ตามที่มีผู้แนะนำข้างต้น ........แต่ทรัพย์สินส่วนที่ไมใช่ของคุณ.....คุณไม่สามารถทำพินัยกรรมยกให้ใครได้ ตัวอย่างง่ายๆ...ถ้าคุณและสามี...มีทรัพย์สินรวมกัน 10 ล้านบาท ถ้าสามีเสียชีวิต คุณในฐานะภรรยาจะได้รับส่วนแบ่ง 5 ล้านในฐานะคู่สมรส ---อีก 5 ล้านบุตรจากภรรยาเก่าและตัวคุณก็มีสิทธิได้รับส่วนแบ่งคนละเท่าๆกัน....ส่วนญาติของสามีคงไม่มีสิทธิได้รับมรดกแต่อย่างใด.....ถ้าไม่ต้องการให้บุตรจากภรรยาเก่ามีสิทธิได้รับมรดก...คุณและสามีของคุณต้องทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินให้บุคคลที่คุณต้องการ....ถ้าทำพินัยกรรมเฉพาะคุณผู้เดียว...ผลย่อมเป็นดังที่ยกตัวอย่าง......สมบัติผลัดกันชม...อย่าไปคิดห่วงอาลัยให้มากเกินควร.....ตายไปแล้วใครจะเอาไปไหนก็แล้วแต่บุญกรรมของแต่ละคน.....ทำวันนี้ให้ดีที่สุดน่าจะเพียงพอ...... | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เฒ่า วันที่ตอบ 2006-04-08 13:03:04 IP : 203.113.57.37 |
[1] |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 1088200 |