1.มองดูรูปการณ์แล้ว ที่ดินข้างเคียงเขามีจุดประสงค์เพื่องุบงิบในเชิงแลกเปลี่ยนที่ดินกัน ใช่ไหม

ตอบ...เรื่องเจตนาที่แท้จริง  คงไปเดาใจเขาไม่ได้....ถ้าคุณรอบคอบแต่แรก  โดย ปักเสาคอนกรีต ตาม แนวเขตที่ดินเป็นระยะๆ  ห่างกัน 1-2 เมตร  โดยไม่ต้องใส่ลวดหนามก็ได้   ซึ่งคงไม่ต้องไปลงทุนมากนัก   ปัญหาเรื่องบุกรุกที่ดินคงทำได้ลำบากขึ้น ครับ

2.การกั้นรั้วเช่นนี้เมื่อครบ 10 ปีถือเป็นการรุกล้ำอย่างเปิดเผยเป็นการครอบครองโดยปรปักษ์ ใช่ไหม

ตอบ... ถ้าเขามีเจตนารุกล้ำมาในที่ดิน  เพื่อยึดถือเป็นเจ้าของ  เมื่อเกิน 10 ปี  ก็ยกเรื่องการครอบครองปรปักษ์ขึ้นต่อสู้   เพื่อให้ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดิน   ส่วนที่รุกล้ำได้ ครับ

3.(ต่อเนื่องจากข้อ 2)เนื้อที่ครอบครองปรปักษ์ กฏหมายนับเฉพาะที่ดินบริเวณที่แนวรั้วรุกล้ำเข้ามา  ใช่ไหม

ตอบ..ใช่ ครับ

4.ถ้าผมจะรังวัดใหม่ ถ้าเขาไม่ยอมลงชื่อรับรอง(เพราะได้บอกเขาแล้ว แต่เขาดื้อรั้นไม่ยอมโดยบอกว่ามันเลย 10 ปีแล้ว...แต่ผมมีสัญญาเช่าเป็นหลักฐานแค่ 8 ปี)

ตอบ...แม้เขาไม่ยินยอมลงลายมือชื่อรับรองแนวเขต  เจ้าพนักงานที่ดิน  ก็สามารถดำเนินการรังวัดได้  ถ้าเห็นว่าไม่เป็นการขัดต่อกฏหมาย  ถ้ามีการคัดค้าน   ก็ให้เจรจาไกล่เกลี่ยกัน   ถ้าตกลงกันไม่ได้  ก็ต้องไปฟ้องศาล  ตาม ป.กฎหมายที่ดิน ม.69 ทวิ ครับ

5.ถ้าสุดท้ายรังวัดเสร็จแล้ว ถ้าผมจำใจต้องแลกกัน เพราะค่าที่ดินระหว่างหน้ากับหลังหักลบกันแล้วไม่เกิน แสนบาท เพื่อตัดปัญหาเพราะค่าใช้จ่ายเดินทางการฟ้องศาล และเครียด กว่าจะจบไม่ต่างกันมาก แต่ที่ดินติดถนนผมจะหน้าแคบลง(ซึ่งเสียหายตรงนี้) ที่จะเรียนถามท่านต่อคือ

5.1 ถ้าจำใจยินยอมกัน คู่กรณีต้องเซ็นต์บันทึกเป็นหลักฐานไว้อย่างใด

ตอบ...ถ้าตกลงกันได้  ก็ต้องให้เจ้าหน้าที่รังวัดว่า แต่ละฝ่ายถูกรุกล้ำไปเท่าไร  และ แต่ละฝ่ายก็ต้องลงลายมือชื่อโอนที่ดินของตน ในส่วนที่ถูกรุกล้ำ  ให้แก่อีกฝ่ายหนึ่ง ทำนองแลกเปลี่ยนกัน  ต้องไปทำเรื่องโอนที่สำนักที่ดิน  ครับ

5.2 ขณะรังวัด จนท.รังวัดต้องเป็นคนกลางในการไกล่เกลี่ย และร่วมลงชื่อรับรู้ด้วย หรือไม่

ตอบ...ใช่ ครับ

5.3 แล้วหลักหมุดที่ดิน ณ 2 จุดนั่นๆ รวมทั้งใบโฉนดที่ดินต้องมีการเปลี่ยนเป็นฉบับใหม่ หรือไม่

ตอบ....ก็ต้องรังวัดใหม่  ส่วนที่แลกเปลี่ยนกันก็รังวัดล้ำเข้าไป ตามความเป็นจริง  คงไม่ต้องไปเปลี่ยนโฉนดใหม่  แต่ต้องแก้ไขแผนที่ที่ดินใหม่ ของทั้งของคุณ และโฉนดของที่ดินของคู่กรณี ให้ถูกต้องตามความเป็นจริง  ครับ

6. ค่าทนายรวมทั้งหมดตามที่เล่ามานี้ประมาณเท่าใดครับ(ผมยังลังเล 50-50 ว่าจะฟ้อง เพราะติดถนนหน้าแคบลง)

ตอบ....เรื่องค่าทนายความ ต้องตกลงกันเอาเอง  คงประมาณ  5,000-30,000  บาท

7.อย่างนี้ฟ้องคดีอาญาฐานจงใจบุกรุกที่ดินได้หรือไม่(เพื่อขู่เขาในวันนั่น) และต้องฟ้องภายในกี่เดือน

ตอบ....ก็แจ้งข้อหาบุกรุกได้    แต่เขา  ก็คงแย้งว่า  บุกรุกมาเกิน 10 ปีแล้ว  จึงแจ้งความไม่ได้  เพราะคดีขาดอายุความ   ส่วนคุณบอกว่าไม่ถึง 10 ปี  ก็ต้องหาพยานหลักฐานมาพิสูจน์กัน  ใครปั้นพยานได้เก่งกว่า ย่อมได้เปรียบ  พยานก็ได้แก่   เจ้าของที่ดินข้างเคียง  ผู้ใหญ่บ้าน  และผู้เช่าเป็นต้น  ซึ่งคุณอยู่ห่างไกล  ความผูกพันกับพยานเหล่านี้ อาจมีน้อย   การที่เขาจะเบิกความให้เป็นประโยชน์ต่อคุณนั้น  บางทีก็หวังยากหน่อย  ไม่ต้องมาก   ถ้าพยานเบิกความตรงกันว่า  ก็เห็นรั้วสังกะสีมานานแล้ว 10 กว่าปี  คุณย่อมเสียเปรียบ   เพราะคุณประมาทเลินเล่อ ไม่ทำตามข้อ 1 แต่ต้น ดังนั้นการไกล่เกลี่ยประนีประนอม  จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด ครับ