[ หน้าแรก ] | [ เกี่ยวกับปมุขกฎหมาย ] | [ บริการของปมุขกฎหมาย ] | [ กระดานปรึกษากฎหมาย ] | [รวม Link ที่น่าสนใจ ] |
รบกวนให้ความกระจ่าง | |
เรื่องมีอยู่ว่ามีที่ดินมีโฉนดอยู่แปลงหนึ่งตอนที่ยังไม่ได้ทำอะไรก็ให้ญาติมาอยู่โดยไม่ได้มีการทำสัญญาอะไรทั้งสิ้น และพอเค้ามาอยู่เค้าก็มาทำบ้านเป็นเพิงและก็ได้ไปขอบ้านเลขที่ ณ ที่ดินเปล่าแปลงดังกล่าวเพื่อจะไปขอมิเตอร์ไฟ แต่ไม่ได้มาขอเอกสารยินยอมอะไรจากเราเลย แต่พอเวลาผ่านไปสามปีมีความจำเป็นต้องขายที่ดินแปลงนี้ และได้ทำการบอกกล่าวแต่ยังไม่ได้ทำเป็นลายลักษณ์อักษร(ควรต้องแจ้งจดหมายให้ย้ายออกหรือไม่) ญาติให้ย้ายออกแล้ว แต่เค้าไม่ยอมย้ายออก และทำการต่อลองว่าจะให้เท่าไหร่ถึงจะให้ออกตอนแรกก็จะให้ค่าย้ายเป็นเงินจำนวนหนึ่งเห็นแก่ความเป็นญาติ แต่เค้าโลภเรียกเยอะ เลยไม่เข้าใจว่าเรามีใจให้มาอยู่โดยไม่คิดอะไรแล้วมาทำแบบนี้ พอมีช่องทางอะไรพอจะแนะนำได้รึเปล่าครับ | |
ผู้ตั้งกระทู้ ธนภัทร :: วันที่ลงประกาศ 2011-03-24 14:32:45 IP : 124.122.97.232 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (3240966) | |
ถ้าที่ดินมีเอกสารสิทธิ์เป็นโฉนดที่ดิน ก็ยังพอมีโอกาสได้ที่ดินคืน ก่อนอื่นก็บอกกล่าวด้วยวาจาให้เขาย้ายออกก่อน ไม่จำเป็นต้องบอกกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษรแบบจดหมายลงทะเบียนแบบตอบรับก็ได้ เพราะ เขาอยู่ในที่ดิน โดยไม่มีสัญญาเช่า หรือสิทธิอาศัยใดๆ เพียงให้อยู่เปล่า.... ถ้าเขาขัดขืนจะมาเรียกร้องค่ารื้อถอนหรือค่าขนย้าย ตามประสาคนหัวหมอ ก็จำเป็นต้องฟ้องขับไล่ และเรียกร้องค่าเสียหายได้ เรื่องค่ารื้อถอนหรือค่าขนย้าย ไม่จำเป็นต้องจ่าย เพราะไม่มีกฎหมายว่าจะต้องจ่ายค่ารื้อถอนในกรณีนี้ ที่มีการจ่ายค่ารื้อถอน เป็นเพียงการประนีประนอมกัน เพื่อให้เรื่องยุติลงด้วยดี จึงอาจทำให้บางคนเข้าใจผิดคิดว่า เมื่อไปอาศัยอยู่ในที่ดินของผู้อื่น ถ้าเจ้าของจะให้ย้ายออก เจ้าของที่ดินต้องจ่ายค่ารื้อถอนหรือค่าขนย้าย......เมื่อฟ้องขับไล่ เมื่อศาลให้ขับไล่ออกจากที่ดิน ก็สามารถใช้คำสั่งศาล ออกหมายบังคับคดี ไปรื้อถอนอาคารหรือเพิงพัก โดยให้เขาเสียค่าใช้จ่ายได้......แต่ถ้าที่ดินมีเอกสารสิทธิ์เป็น นส.3 หรือ นส.ก. การที่จะเรียกร้องที่ดินคืนคงมีปัญหาแน่นอน เพราะเขาคงอ้างว่าแย่งครอบครองจากเจ้าของเกินหนึ่งปี เจ้าของไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่ ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง คุณก็ต้องหาทางพิสูจน์ให้ศาลเห็นว่า เขาอาศัยอยู่โดยอาศัยสิทธิของคุณ ไม่ใช่อาศัยอยู่ในฐานะเจ้าของ ซึ่งคงยุ่งยากแน่นอน อีสปเล่านิทานเรื่อง ชาวนากับงูเห่า เพื่อเตือนใจคน นิทานเรื่องนี้ยังใช้ได้เสมอแม้เวลาจะผ่านมาเป็นพันปีครับ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนธรรมดา วันที่ตอบ 2011-03-24 16:55:37 IP : 182.52.29.180 |
ความคิดเห็นที่ 2 (3240984) | |
แล้วเรื่องการฟ้องขับไล่ต้องใช้ระยะเวลานานรึเปล่า ขอบคุณครับ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ธนภัทร วันที่ตอบ 2011-03-24 20:19:51 IP : 124.122.97.232 |
ความคิดเห็นที่ 3 (3241008) | |
การฟ้องคดี มีบุคคลหลายฝ่ายเข้ามาเกี่ยวข้อง อาทิ โจทก์ จำเลย ทนายโจทก์ ทนายจำเลย พยานของทั้งสองฝ่าย และศาล เป็นต้น ถ้าแต่ละฝ่ายสามารถนัดการพิจารณาได้ลงตัวกันทุกนัด การพิจาณาคงไม่นานนัก แต่ในการปฏิบัติจริง มักประสบปัญหาอยู่เสมอ เช่น ฝ่ายหนึ่งพร้อมอีกฝ่ายยังไม่พร้อม ก็มีการขอเลื่อนนัดการพิจารณาออกไป ประกอบกับคดีความที่ขึ้นสู่การพิจารณาของศาลมีจำนวนมาก การเลื่อนนัดแต่ละครั้งเท่าที่เห็นมา มักเลื่อนออกไปเป็นเดือน จึงสรุปแน่นอนไม่ได้ว่า การฟ้องคดี จะสิ้นสุดลงเมื่อไร ถ้ามีการต่อสู้กันถึงสามศาล ก็คงใช้เวลาประมาณ 3-5 ปี ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่มีการเจรจาประนีประนอมกัน โดยยอมชดใช้ให้อีกฝ่ายเพื่อยุติปัญหา.......คดีประเภทนี้เมื่อมีการฟ้องร้อง เบื้องต้นศาลก็มักให้ไกล่เกลี่ยเจรจากันก่อน ถ้าเงื่อนไขที่เขาเสนอมาพอรับได้ไม่หนักหนาจนเกินไป ก็ควรรับไว้ เพื่อให้คดียุติลงโดยเร็ว........แต่สุดยอดของการยุติปัญหาคือ การเจรจากันก่อนมีการฟ้องร้อง โดยมีคนกลางที่เป็นธรรม และเป็นที่เคารพนับถือของทั้งสองฝ่าย ช่วยไกล่เกลี่ยเจรจาให้ ถ้าสามารถใช้ทางออกทางนี้ได้ จะลดความสูญเสียลงได้อย่างมากครับ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนธรรมดา วันที่ตอบ 2011-03-25 08:38:02 IP : 125.26.113.31 |
[1] |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 1088632 |