ReadyPlanet.com


ผู้หญิงฟ้อง


ยังเป็นนักศึกษาพลาดทำผู้หญิงท้อง แล้วเค้าจะฟ้อง เค้าเรียกร้องอะไรได้บ้าง ไม่มีรายได้ต้องส่งเสียค่าเลี้ยงดูบุตรไหม



ผู้ตั้งกระทู้ ชายที่ผิดพลาด :: วันที่ลงประกาศ 2016-02-02 19:01:34 IP : 182.53.229.244


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3936993)

"การถูกดำเนินคดี"

คุณไม่บอกให้ชัดเจนว่า ผู้หญิงมีอายุเท่าไร  เพราะเรื่องอายุจะมีผลต่อความรับผิดทางอาญาแตกต่างกันออกไป  เช่น ถ้ากระทำชำเรา เด็กอายุไม่เกิน 13 ปี จะมีโทษจำคุก 7-20 ปี ปรับ 140,000  - 400,000  บาท หรือจำคุกตลอดชีวิต  ตาม ปอ. ม.277 วรรคสาม ที่แก้ไขใหม่....ถ้าเด็กอายไม่เกิน 15 ปี  แม้เด็กจะยินยอม  มีโทษ 4-20 ปรับ 80,000 - 400,000  บาท ตาม ปอ. ม.277 วรรคแรก...และตาม  ปอ. ม.285/1  ระบุไว้ชัดเจนว่า ผู้กระทำความผิดตาม ม.277 ฯ  ถ้ากระทำต่อเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี  ห้ามอ้างความไม่รู้อายุของเด็กเพื่อให้พ้นจากความผิดนั้น....และคุณยังอาจมีความผิดฐานพรากผู้เยาว์  ถ้าเด็อายุไม่เกิน 15 ปี  ก็มีโทษ  3-15 ตาม ปอ. ม.317 .... ถ้าเด็กอายุเกิน 15 ปี จะมีโทษ 2-10 ปี ตาม ปอ. ม.318 ... ถ้าผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี ไม่เกิน 18 ปี จะมีโทษ  2-10 ปี ตาม ปอ. ม.319  เป็นต้น    อย่างไรก็ตาม  แม้หญิงจะอายุเกิน 18 ปี  ถ้าอ้างว่าถูกข่มขืน  ตาม ปอ. ม.276 จะมีโทษ 4-20 ปี  แต่สามารถยอมความกันได้....ถ้าเด็กมีอายุในช่วงไหน ก็ต้องรับโทษตามที่ยกมาข้างต้น แต่...คดีแบบนี้ แม้จะมีอัตราโทษที่สูง   แต่ในทางปฏิบัติ  ก็มักจะใช้การเจรจากัน  คือฝ่ายชายยอมชดใช้ค่าเสียหาย ตามที่ตกลงกัน คดีคงยุติ....ถ้ามีบุตรเกิดมา   ฝ่ายหญิงก็สามารถฟ้องให้จดทะเบียนรับรองบุตร และเรียกค่าเลี้ยงดูบุตรได้ ตามควร ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น มโนธรรม วันที่ตอบ 2016-02-03 08:32:35 IP : 101.51.180.219


ความคิดเห็นที่ 2 (3938335)

ผมอายุ20ปี หญิงอายุ16 ปี ฝ่ายหญิงได้มาอยู่กับผมก่อน แร้วทั้ง2ฝ่ายรับรู้ อยู่ได้ประมาณ 7เดือน ฝ่ายหญิงก้อได้กลับไปอยู่กับแม่ของเขาผมก้อไปด้วย อยู่ได้ประมาณ 1เดือน ผมอยู่ไม่ได้ผมก้อเลนกลับบ้านของผมโดยไม่ได้บอกแม่เขา ต่อมาแม่ของแฟนผมโทรมาว่าเขาท้องได้ 2เดือนแร้ว พอดีเขาพึ่งตรวจ ม่ของแฟนผมบอกว่าให้เวลา1เดือน ให้เอาเงินมา 40000 ทอง 1บาท แต่ถ้าผมไม่เอาเงินไปให้เขา แร้วผมจะมีความผิดไรบ้างคับ 

ผู้แสดงความคิดเห็น nopporn วันที่ตอบ 2016-02-04 16:03:59 IP : 10.218.71.145


ความคิดเห็นที่ 3 (3938500)

"พรากผู้เยาว์"

ตามข้อเท็จจริง   คุณมีความผิดฐานพรากผู้เยาว์ ตาม ปอ.ม.319 มีโทษจำคุก 2-10 ปี  แม้ผู้เยาว์จะเต็มใจไปกับคุณ  ก็มีความผิด  ดังที่แสดงความเห็นแต่แรก   คดีนี้ แม้ยอมความไม่ได้   แต่ในทางปฏิบัติ  เมื่อยอมชดใช้ค่าเสียหาย   เรื่องคงจบลงได้ด้วยดี  ในเมื่อฝ่ายหญิงเสนอค่าชดใช้มา   ในจำนวนที่ไม่สูงเกินไป  ต้องขวนขวายหามาชดใช้หรือต่อรองเพื่อให้เรื่องจบๆลง   ถ้ามีการแจ้งความ   ตาอยู่คงมาขอส่วนแบ่งด้วย  คงต้องใช้เงินเพิ่มเป็นสองเท่า จึงจะปิดคดีได้  ถ้าตาอยู่ไม่พึงพอใจ  สรุปสำนวนส่งอัยการ  เพื่อฟ้องศาล  คุณก็มีความเสี่ยงสูง   ถ้าศาลให้จำคุก  ย่อมเสียประวัติและเสียอนาคต  ของฟรีไม่เคยมีในโลก ชายที่คิดว่าหญิงเป็นเพียงทางผ่าน  ต้องประสบชะตากรรม ที่ต้องจดจำมิอาจลืม มามากต่อมาก   ก็หญิงเขามีพ่อแม่พี่น้อง คงไม่ปล่อยให้ชายลอยนวลไปง่ายๆ และถ้าถูกฟ้องข้อหาพรากผู้เยาว์  กว่าคดีจะถึงที่สุด  คงใช้เวลาหลายปี   คุณผู้ถูกฟ้อง(จำเลย) ก็มีหน้าที่ต้องไป พบตำรวจ พบอัยการ ไปศาล  ครั้งแล้วครั้งเล่า  และต้องคอยลุ้นว่า  ศาลจะลงโทษอย่างไร   เสียทั้งเงิน  เสียเวลาทำมาหากินและสียสุขภาพจิต   ดังนั้น  ค่าเสียหายที่ฝ่ายหญิงเรียกมา คำนวณแล้ว คงไม่เกินหนึ่งแสนบาท  ต้องกัดฟันทนหามาให้ได้  ถ้าเรื่องถึงตำรวจ  คงต้องจ่ายมากอีกหลายเท่า ด้วยความปรารถนาดี  ครับ

 

มาตรา 319 ผู้ใดพรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไป เสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากำไรหรือเพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงสิบปี และ ปรับตั้งแต่สี่พันบาทถึงสองหมื่นบาท

 

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4465/2530

    ผู้เสียหายอายุ 16 ปีเศษ ยังอาศัยและอยู่ในความอุปการะเลี้ยงดูของบิดามารดา แม้ผู้เสียหายจะไปเที่ยวที่ไหน กลับเมื่อใดก็ได้ผู้เสียหายก็ยังอยู่ในอำนาจปกครองของบิดามารดา การที่จำเลยพบกับผู้เสียหายที่งานบวชพระแล้วพาผู้เสียหายไปกระทำชำเราด้วยความสมัครใจของผู้เสียหายย่อมเป็นการล่วงอำนาจปกครองของบิดามารดาจึงเป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 319 การพรากผู้เยาว์กฎหมายบัญญัติเป็นความผิดไม่ว่าผู้เยาว์จะเต็ม ใจไปด้วยหรือไม่ โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตาม ป.อ. มาตรา 318 แต่ทางพิจารณาฟังได้ว่าจำเลยกระทำความผิดตามมาตรา 319 ศาลย่อมปรับบทลงโทษตามมาตรา 319 ได้ มิใช่เป็นเรื่องข้อเท็จจริงในทางพิจารณาแตกต่างกับฟ้อง.


โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้พรากนางสาว ก.อายุ 16 ปีเศษ ไปเสียจากนาย จ. บิดาเพื่อการอนาจาร โดยใช้มีดปลายแหลมขู่บังคับให้นางสาว ก.ไปกับจำเลย และจำเลยได้ข่มขืนกระทำชำเรานางสาว ก. 2 ครั้งโดยนางสาว ก. ไม่เต็มใจไปด้วย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 318

จำเลยให้ปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 318 วรรคสาม ให้จำคุก 3 ปี

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงเบื้องต้นฟังได้ตามที่คู่ความนำสืบรับกันว่า นางสาว ก. ผู้เสียหายผู้เยาว์มีอายุกว่าสิบสามปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปี ก่อนเกิดเหตุคดีนี้ผู้เสียหายเคยได้เสียกับจำเลยมาก่อน 2 ครั้ง ครั้งแรกผู้เสียหายว่าถูกจำเลยใช้มีดขู่บังคับ ครั้งที่สองผู้เสียหายยินยิมสมัครใจปัญหาวินิจฉัยว่า จำเลยกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 318ตามที่โจทก์ฟ้องหรือไม่ คดีได้ความจากผู้เสียหายว่า วันเกิดเหตุคดีนี้ผู้เสียหายกับนาง ร. พากันไปเที่ยงงานบวชพระด้วยรถจักรยานขากลับปรากฏว่ายางในรถจักรยานแตก ผู้เสียหายได้นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานกลับกับจำเลย คงให้นาง ร. จูงรถจักรยานกลับบ้านกับเพื่อนบ้าน ระหว่างทางจำเลยได้จอดรถและใช้มีดพกจี้ที่คอผู้เสียหายพาไปข่มขืนกระทำชำเราที่เพิงนาข้างถนนรวม 2 ครั้ง แล้วจำเลยหลับไป ในข้อที่ว่าจำเลยได้ใช้มีดจี้พาผู้เสียหายไปข่มขืนกระทำชำเราหรือไม่นั้น ผู้เสียหายเบิกความยืนยันว่าจำเลยได้ขืมขืนกระทำชำเราผู้เสียหายรวม 2 ครั้ง แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่า ผู้เสียหายเคยได้เสียกับจำเลยด้วยความสมัครใจของผู้เสียหายมาก่อนแล้ว และการที่ผู้เสียหายไม่ยอมกับบ้านพร้อมนาง ร. โดยให้ นาง ร. กลับบ้านไปก่อนทั้ง ๆ ที่ไม่มีความจำเป็ต้องไปกับจำเลยนั้น แสดงว่าผู้เสียหายมีอุบายที่จะกลับบ้านพร้อมจำเลยมากกว่า จากพฤติการณ์ดังกล่าวจึงฟังไม่ได้ว่า จำเลยได้ใช้มีดจี้คอผู้เสียหายพาไปข่มขืนกระทำชำเรา แต่เกิดจากความสมัครใจยินยอมของผู้เสียหายให้จำเลยกระทำชำเราเอง การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 318 มีปัญหาที่จะวินิจฉัยต่อไปมีว่า จำเลยกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 319 หรือไม่ เห็นว่า ผู้เสียหายมีอายุเพียง 16 ปีเศษ ยังอาศัยและอยู่ในความอุปการะเลี้ยงดูของบิดามารดาด้วย ผู้เสียหายจึงอยู่ในอำนาจปกครองของบิดามารดา การกระทำของจำเบยต่อผู้เสียหายขณะที่ผู้เสียหายยังอยู่ในอำนาจปกครองของบิดามารดาจะต้องได้รับความยินยอมจากบิดามารดาเสียก่อน มิฉะนั้นย่อมถือว่าการกระทำเช่นนั้นเป็นการล่วงอำนาจปกครองของบิดามารดา ที่จำเลยกระทำต่อผู้เสียหาย แม้ผู้เสียหายจะสมัครใจยินยอม ก็ถือไม่ได้ว่าได้รับความยินยอมเห็นชอบจากบิดามารดา และทำให้กระทบกระเทือนต่ออำนาจปกครองของบิดามารดา ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่เห็นว่าแม้บิดามาราผู้เสียหายจะให้อิสระแก่ผู้เสียหายที่จะไปเดที่ยวที่ไหนและกลับเมื่อใด ไม่เคยสนใจสอบถามหรือห้ามปราม ผู้เสียหายก็ยังคงอยู่ในอำนาจปกครองของบิดามารดา การกระทำของจำเลยจึงเป็นการพรากผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้เยาว์ไปเสียจากบิดามารดาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 319 การพรากผู้เยาว์กฎหมายบัญญัติว่าเป็นความผิดไม่ว่าผู้เยาว์จะเต็มใจไปด้วยหรือไม่ แม้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 318 แต่ทางพิจารณาฟังได้ว่าจำเลยกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 319 ศาลย่อมปรับบทลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 319 ได้ มิใช่เป็นเรื่องข้อเท็จจริงในทางพิจารณาแตกต่างกับฟ้อง แต่เมื่อพิเคราะห์พฤติการณ์ที่บิดามารดาผู้เสียหายปล่อยปละละเลยขาดการเอาใจใส่ดูแลความประพฤติผู้เสียหายทำนองยอมให้ผู้เสียหายมีอิสระจะปฏิบัติอย่างไรก็ได้ เมื่อเกิดเหตุขึ้นแล้วบิดาผู้เสียหายรับว่า ฝ่ายจำเลยมาสู่ขอผู้เสียหายตามประเพณีเพียงแต่ตกลงเรื่องเงินค่าสินสอดไม่ได้เท่านั้นจึงเกิดเหตุเป็นคดีนี้ขึ้น นับว่าจำเลยควรได้รับความปรานี

   พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 319จำคุก 3 ปี ปรับ 6,000 บาท คำให้การจำเลยนับว่าเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาเป็นเหตุบรรเทาโทษ จึงลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 2 ปี ปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยต้องโทษจำคุกมาก่อนและมีเหตุอันควรปรานี โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 มีกำหนด 2 ปีไม่ชำระค่าปรับให้บังคับตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30.

ผู้แสดงความคิดเห็น มโนธรรม วันที่ตอบ 2016-02-05 08:00:00 IP : 101.51.167.27


ความคิดเห็นที่ 4 (3938867)

 1. แร้วถ้าเขาแจ้งความแร้ว ผมต้องเสียเงินให้ฝ่ายหญิงตามเรียกร้องมาไหมคับ

2.แร้วถ้าผมติดคุกออกมาต้องเสียค่าเลี้ยงไหมครับ 

ผู้แสดงความคิดเห็น nopporn วันที่ตอบ 2016-02-06 09:06:28 IP : 10.154.90.153



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.