ดิฉันมีประสงค์จะใคร่ขอคำปรึกษาดังนี้ ดิฉันได้ทำการซื้อตึกหลังหนึ่ง มาจากบุคคลหนึ่งเมื่อ 13 ปีที่แล้ว โดยที่ตึกหลังนี้ ขายต่อกันมาเป็นทอดๆ 4-5 ผู้ซื้อ ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนการเป็นเจ้าของตึกและสิทธิครอบครองสิ่งปลูกสร้าง  ตึกหลังนี้ถูกสร้างบนที่ดินของวัด (วัดไผ่โรงวัว ต.บางตาเถร อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี) อยู่ข้างๆวัด ที่ดินเป็นพื้นที่ส่วนบุคคลถวายให้วัดเมื่อ 50 กว่าปีที่แล้ว ตัวตึกที่ถูกสร้างขึ้นบนที่ดินของวัด  มีเนื้อที่ไม่มากนัก เป็นที่ดินแปลงเล็กๆอยู่ใกล้โรงเรียนและเขตชุมชน นับอายุตึกถูกสร้างมาประมาณ  40 ปี ซึ่งที่ดิฉันได้ซื้อต่อมา และทำการค้าขายของชำที่ตึกหลังนี้ มาประมาณ 13 ปี ตอนที่ซื้อตึก ตึกหลังนี้ถูกไฟไหม้สภาพเก่าทรุดโทรม ซึ่งหลังจากที่ดิฉันได้ซื้อตึกมาก็ได้ทำการบูรณะซ่อมแซมหมดเงินไปหลายล้าน ต่อมาปีนี้ 2559 ทางวัดได้ส่งกรรมการวัด มาพูดคุยเรื่องจะมาขอยึดกรรมสิทธิ์การครอบครองตัวตึก จากตัวบุคคล ให้ตัวตึกตกเป็นของวัด ซึ่งที่ผ่านมาดิฉันก็เสียแค่ค่าเช่าหน้าดินให้ทางวัดด้วยดีมาโดยตลอด แต่มาปีนี้วัดจะมายึดสิทธิความครอบครองตึกส่วนบุคคล ให้สิทธิการครอบครองตกไปเป็นของวัด อ้างสิทธิที่ว่าตึกถูกสร้างบนที่วัด ตึกต้องเป็นของวัดตามกฎหมายใหม่ปีนี้ 2559 ซึ่งดิฉันเองก็ไม่รู้กฎหมายตัวนี้ว่ามีจริงหรือป่าวหรือเป็นแค่คำข่มขู่แล้วกล่าวอ้างของกรรมการวัด ซึ่งเหตุการณ์เดียวกันนี้เคยเกิดขึ้นแล้วเมื่อปี 2533 ทางวัดเคยทำการฟ้องร้องกับศาลเพื่อที่จะยึดสิทธิการครอบครองในตัวตึกหลังนี้ แต่ศาลยกฟ้อง โดยให้เหตุผลว่า ตึกต้องเป็นของผู้สร้าง ผู้ที่ออกเงินค่าก่อสร้าง หิน ดิน ทราย และอุปกรณ์ก่อสร้าง วัดไม่สามารถที่จะครอบครองกรรมสิทธิ์ตัวตึกได้ วัดทำได้แค่เก็บค่าหน้าดินเท่านั้น แต่ตอนนี้ ปีนี้ 2559 ก็เกิดข้อพิพาทกรณีเดิมขึ้นมาอีกครั้ง ดิฉันไม่รู้จะทำยังไงดี วัดมีเงินมากกว่าดิฉัน วัดมีอำนาจมากกว่าดิฉัน วัดมีพวกพร้องมากกว่าดิฉัน คนธรรมดา ทำมาหากินโดยสุจริตมาโดยตลอด ควรทำยังไงดีค่ะ ขอผู้มีเมตตาช่วยเหลือดิฉันในประเด็นดังกล่าวด้วยค่ะ