การจ้างทำของ (สร้างบ้าน)

  แม้ตามกฎหมายไม่จำเป็นต้องมีสัญญาเป็นหนังสือ  เพียงตกลงกันด้วยวาจา ก็ใช้บังคับได้   แต่การจ้างสร้างบ้าน  มักมีปัญหาในทางปฏิบัติค่อนข้างมาก   ดังนั้นควรทำสัญญาให้รัดกุม คือต้องแบ่งเนื้องานออกให้ให้ชัดเจนว่าในแต่ละงวด  ผู้รับเหมาต้องทำงานอะไร เช่น แบ่งเนื้องานออกเป็น 6 งวด  เมื่อทำงานเสร็จในแต่ละงวด ก็จ่ายเงิน 1 แสนบาท เป็นต้น   ถ้าไม่มีการระบุเนื้องานในแต่ละงวดชัดเจน ย่อมเกิดปัญหาว่าจะจ่ายเงินกันอย่างไร....ท้ายสัญญาต้องแนบแบบแปลนที่สร้างบ้าน  ที่คู่สัญญาลงชื่อกำกับไว้...

ข้อ 1.สัญญาระบุไว้ เมื่อครบสัญญางานไม่แล้วเสร็จ ผรม.จะถูกปรับวันละ 1,000บาท ผมจะดำเนินตามสัญญาโดยไม่ต้องบอกกล่าวได้หรือไม่ เพราะผมเคยให้โทรบอกผรม. ให้ช่วยสร้างบ้านให้เสร็จไปหลายครั้ง เพราะไม่อยากมีปัญหากับ ผช.กำนันซึ่งเคยโทรเชิงข่มขู่ว่าจะเข้าไปรื้อโน่นนี่ถึง 2 ครั้ง ถ้าไม่ส่งเงินให้ก่อน ทั้งที่งานตามงวดนั่นๆยังไม่แล้วเสร็จอีกมาก

ตอบ...ถ้างานไม่แล้วเสร็จ ในแต่ละงวด ก็ไม่ต้องจ่ายเงิน  หรือจ่ายตามเนื้องาน  ....ส่วนค่าปรับ   เป็นเรื่องท่างแพ่ง  ถ้าเขาไม่ยินยอมจ่ายค่าปรับ ก็ต้องฟ้องร้องกันยืดยาว  ซึ่งตามกฎหมาย การจ้างทำของไม่ต้องมีสัญญา  ก็มีทั้งข้อดีข้อเสีย....ข้อดี  ก็ไม่กังวลว่าจะทำสัญญาไม่ครบถ้วนรัดกุม มาตกลงเจรจากันเพิ่มในภายหลังก็ได้  ข้อเสีย   ถ้าผู้รับเหมาเล่นเกม  อ้างว่า  แม้ในสัญญาเขียนไว้แบบนี้   แต่ตามที่ตกลงกันนั้น ตกลงกันต่างจากสัญญา ถ้ามีพยานบุคคลมายืนยันว่า ได้ตกลงกันแตกต่างจากที่ทำสัญญาไว้  ก็ใช้บังคับได้  เพราะการจ้างทำของ ไม่บังคับว่า ต้องทำสัญญาเป็นหนังสือ  จึงนำพยานมานำสืบได้ว่า  ตกลงแตกต่างจากในสัญญาอย่างไรก็ได้ ครับ

ข้อ 2.ถ้าผรม.ยังคงผลัดงานดึงงานช้าๆออกไป ผมจะเปลี่ยนช่างทันที โดยไม่ต้องบอกกล่าวผรม.คนเดิม เพราะสัญญาได้สิ้นสุดลงแล้ว ได้หรือไม่?

ตอบ...บอกเลิกสัญญาเป็นหนังสือ   และหาผู้รับเหมาคนใหม่มาทำงานต่อไป

ข้อ 3.(ตามข้อ 2.) ผรม.เคยบอกว่ากระเบื้องปูพื้นได้ซื้อมาแล้วเป็นเงิน 2 หมื่นบาท แต่ช่างปูยังไม่ว่าง ตอนนี้สัญญาสิ้นสุดไปเดือนกว่า ถ้าผมตัดสินใจจ้างช่างคนใหม่มาสานงานส่วนที่เหลือต่อให้แล้วเสร็จ ผรม.จะให้ผมชดใช้ค่ากระเบื้องที่เขาซื้อเตรียมไว้แล้ว ได้หรือไม่ ?

ตอบ....เมื่อบอกเลิกสัญญา   ก็ต้องมาเจรจากันว่า  เนื้องานที่เขาทำไปเป็นเงินเท่าไร  การผิดสัญญาผู้รับเหมา  ต้องถูกปรับเท่าไร  ก็นำมาหักกลบลบหนี้กัน   ฝ่ายใดยังติดค้างอยู่ก็จ่ายเพิ่ม....กระเบื้องที่ผู้รับเหมาซื้อมาก็เช่นกัน  ก็ใช้วิธีหักกลบลบหนี้กันเช่นกัน  ถ้าผู้รับเหมา  ยังติดค้าง ก็ยึดกระเบื้องไว้  เท่าที่เสียหายจริง

ข้อ 4.ผมใคร่ขอให้ท่านมโนช่วยชี้แนะทางออกอื่นๆให้ผมด้วยครับ

ตอบ...เป็นเรื่องความรับผิดทางแพ่ง  ต้องใช้การเจรจากันเป็นหลัก  บางทีอาจต้องยอมเสียเปรียบบ้าง  เพราะถ้าจะฟ้องร้องกันก็คงไม่คุ้ม   และยังมีข้อบาดหมาง  กับผู้รับเหมา  และ  พรรคพวก  การดำเนินชีวิตในบ้านย่อมไม่เป็นปรกติสุข  ครับ

ขอบคุณมากครับที่กรุณาชี้แนะ

โดยเฉพาะข้อสุดท้ายที่ท่านกรุณาเตือนสติผม

(เพราะผมกะใช้ไม้แข็งตามสัญญาแล้ว)

".....บางที่อาจต้องยอมเสียเปรียบบ้าง เพราะถ้าจะฟ้องร้องกันก็คงไม่คุ้ม  

และยังมีข้อบาดหมาง  กับผู้รับเหมา  และ  พรรคพวก 

การดำเนินชีวิตในบ้านย่อมไม่เป็นปรกติสุข  ครับ"

ผมจะทำตามท่านครับ แม้ก่อนหน้านี้ผมถอยมามากแล้ว

เช่นจ่ายเงินก่อนงวดสุดท้ายให้ก่อนทั้งที่เนื้องานตามงวดเสร็จไปแค่ 60-70%

หรือตัดรายการบัวกันน้ำตรงขอบหน้าต่างบนออกไป เพราะสัญญาลืมระบุไว้

และค่าปรับวันละ 1,000 ผมก็จะไม่เอ่ยถึง

เพียงขอให้บ้านแล้วเสร็จในเร็ววันนี้

เมื่อวานและวันนี้โทรไป10 กว่าครั้ง ผรม.ยังไม่ยอมรับสาย

ส่วนผช.กำนันก็เช่นเดียวกัน

จนผมเริ่มกังวลใจ

เพราะกลัวว่าเขาจะดึงงาน(ดองงาน)...แต่ไม่ทิ้งงาน

ขอขอบพระคุณท่านมโนธรรมอีกครั้งครับ