[ หน้าแรก ] | [ เกี่ยวกับปมุขกฎหมาย ] | [ บริการของปมุขกฎหมาย ] | [ กระดานปรึกษากฎหมาย ] | [รวม Link ที่น่าสนใจ ] |
ปรึกษาหน่อยค่ะ^^ | |
คือเรื่องมันมีอยู่ว่า.... พี่น้องของพ่อดิฉันมีทั้งหมด 6 คน เสียชีวิต 2 คน เหลือ 4 คน ซึ่งพ่อของดิฉันได้เสียชีวิตแล้ว แล้วมีที่ดินอยู่ผืนหนึ่งซึ่งมีไม่มาก เป็นที่ดินของปู่ของดิฉันซึ่งยังไม่ได้แบ่ง แต่ที่ดินผืนนั้นมีบ้านของพ่อของดิฉัน และบ้านฉัน รวมทั้งบ้านของน้องของปู่อยู่ที่นั่น ทีนี้พ่อของดิฉันเสียชีวิต บ้านของพ่อดิฉันไม่มีใครอยู่ ดิฉันจึงคิดว่าจะรื้อบ้านของพ่อไปปลูกอยู่ที่ที่ดินของแม่ของดิฉัน แต่พอดีว่าลุงของดิฉัน ซึ่งเป็นพี่ชายคนโตของพ่อไม่ยอม บอกว่าบ้านหลังนั้นเป็นบ้านของปู่ ดิฉันไม่มีสิทธิ์ที่จะรื้อ แต่แม่ของฉันไม่ยอมก็เลยตกลงกันว่าจะรื้อโดยได้บอกผู้หลักผู้ใหญ่รวมทั้งญาติของเขาไว้แล้ว แต่มีเขาคนเดียวที่ไม่ยอม ตอนนี้ได้รื้อไปครึ่งหนึ่งแล้ว แล้วเขาก็ไปแจ้งตำรวจเพื่อเอาผิดกับแม่ของดิฉันข้อหาบุกรุก ตำรวจจึงมาสั่งระงับไว้ แล้วตอนนี้ร้อยเวรนัดเคลียร์วันจันทร์ ท่านคิดว่าเรื่องราวทั้งหมดใครถูกใครผิดค่ะ..ขอคำแนะนำด้วยค่ะ...ขอขอบคุณล่วงหน้ามาณ โอกาสนี้ด้วยค่ะ
| |
ผู้ตั้งกระทู้ เครียดมาก- -* :: วันที่ลงประกาศ 2010-12-11 13:05:02 IP : 180.180.50.77 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (3228523) | |
ในเมื่อที่ดินเป็นของปู่ เมื่อปู่เสียชีวิตที่ดินจึงเป็นมรดกตกทอดแก่ทายาท คือลูกๆของปู่ทั้งหกคน ส่วนผู้เสียชีวิต ก็ตกทอดไปยังบุตร คือที่ดินแบ่งเป็นหกส่วนเท่าๆกันและแบ่งบุตรของปู่รับไปทั้งหกคน(ถ้าย่าเสียชีวิตแล้ว) เช่นกรณีของคุณได้รับมรดกในส่วนของพ่อ (รับมรดกแทนที่)..... -กรณีคุณ พ่อของคุณ สร้างบ้านบนที่ดินของปู่ ถ้ามีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่าพ่อเป็นผู้สร้างโดยปู่ยินยอมให้สร้างบนที่ดิน คุณพ่อของคุณย่อมเป็นเจ้าของบ้าน(แต่ไม่รวมที่ดิน) เมื่อพ่อเสียชีวิต มรดกบ้านย่อมตกทอดไปยังแม่ของคุณและตัวคุณ รวมพี่น้องทุกคน.....แต่ในเมื่อพ่อเสียชีวิต พี่น้องของพ่อคงอ้างว่าบ้านเป็นส่วนควบของที่ดิน พี่น้องทั้งหกคนย่อมมมีสิทธิได้รับมรดก...เมื่อแจ้งตำรวจ ถ้าไม่สามารถตกลงกันได้ ตำรวจก็คงแนะนำให้ไปใช้สิทธิฟ้องร้องทางศาลก่อน ถ้าฝ่ายของคุณสามารถพิสูจน์ได้ว่า พ่อเป็นผู้สร้างบ้าน บ้านย่อมเป็นมรดกของคุณและแม่เท่านั้น พี่น้องของพ่อคนอื่นๆไม่มีสิทธิในตัวบ้าน......ก็เป็นความผิดพลาดของพ่อ ที่ปลูกบ้านบนที่ดินที่ตนยังไม่มีกรรมสิทธิ์ จึงมีปัญหาตามมาให้ลูกต้องลำบากในการแก้ไข.....ขอแนะนำให้ใช้วิธีไกล่เกลี่ยเจรจากัน โดยมีผู้ใหญ่บ้านหรือกำนัน หรือนายอำเภอเป็นคนกลางช่วยไกล่เกลี่ย การฟ้องร้องทางศาลควรเป็นทางเลือกสุดท้าย เพราะอาจไม่คุ้มค่า ถ้าสภาพบ้านดูแล้วมีราคาไม่มากมายนัก ก็ปล่อยให้เป็นมรดก ให้ญาติๆของพ่อแบ่งกันไปเถอะ ส่วนคุณและแม่ ก็ขอรับเพียงส่วนแบ่งหนึ่งในหกส่วน ก็น่าจะเพียงพอเพื่อยุติปัญหา......แต่ถ้าคุณพ่อและคุณแม่ของคุณ ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน การได้รับส่วนแบ่งมรดกคงเลือนลางเต็มที | |
ผู้แสดงความคิดเห็น อนัตตา วันที่ตอบ 2010-12-12 12:04:08 IP : 125.26.111.38 |
ความคิดเห็นที่ 2 (3228527) | |
ตอนนี้พ่อกับแม่ของดิฉันได้หย่ากันก่อนที่พ่อจะเสียชีวิตแล้ว...แล้วแม่ของดิฉันจะมีสิทธิ์ในตัวบ้านหรือปล่าวค่ะ..มันไม่ใช่สินสมรสหรอค่ะ(ก่อนที่จะปลูกบ้านหลังนี้ขึ้นมา ปู่ได้อยู่กระต๊อบหลังเล็กๆ..แต่พอพ่อสมรสกับแม่ของดิฉันก็ได้สร้างบ้านหลังนี้ขึ้นมา ซึ่งแม่ของดิฉันก็มีหลักฐานในการสร้างบ้านโดยมีรายละเอียดสิ่งของ ราคาชัดเจน และไม่มีส่วนของบ้านของปู่สักชิ้น)..แต่พี่ชายคนโตบอกว่าเป็นบ้านที่พี่น้องทุกคนมีสิทธิ์ที่จะอยู่...ก็เลยไม่อยากให้รื้อ ...อีกอย่างพ่อและแม่ของดิฉันเป็นคนเลี้ยงปู่มาโดยตลอดโดยที่ลูกคนอื่นๆไม่ค่อยสนใจดูแลเลย..ทุกคนในหมู่บ้านก็รู้ก็เห็นมาตลอด..แล้วอย่างนี้ไม่มีสิทธิ์ที่จะอยู่..จะสั่งรื้อบ้านนั้นเหรอค่ะ?? ....แล้วเรื่องบ้านตอนนี้ดิฉันเขียนคำร้องขอให้ทางผู้ใหญ่บ้านรับรู้แล้วว่าต้องการรื้อโดยให้พี่น้องทางพ่อเซ็นรับทราบ 3 คน น้องของปู่อีกคนเป็น 4 คนเหลือแต่พี่ชายคนโตของพ่อที่ไม่ยอมเซ็นต์แล้วอย่างนี้พอจะเป็นหลักฐานได้หรือปล่าวค่ะ...อีกทั้งตอนนี้ก็ทุบบ้านทิ้งไปครึ่งหนึ่งแล้ว...เนื่องจากถูกตำรวจสั่งระงับชั่วคราวรอไกล่เกลี่ยวันจันทร์อ่ะค่ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น เครียดมาก- -* วันที่ตอบ 2010-12-12 12:37:24 IP : 118.172.20.233 |
ความคิดเห็นที่ 3 (3228530) | |
ตอนแรกก่อนที่พ่อของดิฉันจะเสียชีวิตแม่ของดิฉันก็ได้มีการพูดคุยเรื่องที่ดินกันว่าจะให้พี่น้องของพ่อคนละ 5000 บาทเพื่อนเซ็นต์โอนที่ดินให้เป็นชื่อของดิฉัน..แต่ลุงคนนั้นไม่ยอม..ก็เลยไม่มีการโอนใดๆเกิดขึ้น...
ในเวลาต่อมา..บ้านหลังนั้นก็ไม่มีใครอยู่..แล้วแม่ก็จะให้คนมาเช่าเดือนละ 500 ทีนี้ลุงคนนี้ก็ไม่ให้เช่าอีก..บอกว่าแม่ของดิฉันไม่มีสิทธิ์.โดยพูดจารุนแรงใส่..แล้วบอกว่าถ้าแม่ของดิฉันรื้อก็จะฟ้องตำรวจให้ดำเนินคดีข้อหาบุกรุก.และเค้าก็ไม่เคยนึกถึงดิฉันซึ่งเป็นหลานแม้แต่น้อย..แล้วแม่ของดิฉันก็เลยไม่ยอมเลยจ้างคนมารื้อโดยบอกทางผู้ใหญ่หมดแล้วเหลือแต่ลุงคนนี้..พอถึงวันรื้อมาเขาก็มาที่บ้านแล้วเห็นว่าบ้านถูกรื้อเขาก็ไปแจ้งตำรวจ สักพักตำรวจก็มาแล้วสั่งระงับ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น เครียดมาก- -* วันที่ตอบ 2010-12-12 12:58:19 IP : 118.172.20.233 |
ความคิดเห็นที่ 4 (3228637) | |
เรื่องพ่อแม่ของคุณเลี้ยงดูปู่มาตลอด ผลทางกฎหมายแทบไม่มีอะไรเลย คือในเมื่อที่ดินเป็นของปู่ เมื่อปู่เสียชีวิต ที่ดินย่อมกลายเป็นมรดกตกทอดไปยังทายาททุกคน รวมทั้งบ้านด้วย ถ้าแม่ของคุณจะรื้อบ้านก็คงมีปัญหาตามมา ถ้าตกลงกันไม่ได้ ก็ต้องฟ้องร้องเพื่อพิสูจน์ว่า พ่อแม่เป็นผู้สร้างบ้าน บ้านไม่ได้เป็นส่วนควบกับที่ดิน แต่การฟ้องร้องน่าจะไม่คุ้มค่า.....คุณจะไปเครียดทำไม ถ้ามันยากเย็นนักก็ปล่อยไป การที่แม่ให้เช่าแสดงว่า คุณและแม่มีบ้านพักอาศัยอยู่แล้วต่างหาก ก็อย่าไปห่วงใยมรดกที่มีปัญหาชิ้นนี้ให้มากเกินไป จะเป็นทุกข์ไม่รู้จบสิ้น | |
ผู้แสดงความคิดเห็น อนัตตา วันที่ตอบ 2010-12-13 12:07:22 IP : 180.180.30.90 |
ความคิดเห็นที่ 5 (3229201) | |
แต่ตอนนี้บ้านได้รื้อไปครึ่งหนึ่งแล้วอ่ะค่ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น - -* วันที่ตอบ 2010-12-16 14:51:54 IP : 202.28.249.180 |
[1] |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 1088137 |