กรณีฟ้องขับไล่และเรียกค่าเสียหาย ซึ่งศาลชั้นต้นตัดสินยังไม่พิจารณาค่าชดเชยในส่วนที่ผู้เช่าซื้อขอเข้ามาอยู่ก่อนทำสัญญา โดยมีการโอนเงินมัดจำและพยานบุคคลหลายคนรับรู้ ซึ่งส่วนนี้โจทก์เห็นว่าไม่เป็นธรรม และแจ้งกับทนายแล้ว แต่ทนายอ้างว่าโจทก์จะอุทธรณ์ยื่นหลักฐานการโอนเงินมัดจำเพิ่มเติมไม่ได้แล้ว ต้องยื่นตั้งแต่แรกที่ส่งฟ้อง  แลถบอกให้โจทก์ยอมตัดผลประโยชน์ส่วนนั้นไป คดีจะได้จบเร็วๆ ซึ่งโจทก์เพิ่งทราบภายหลังว่าถ้าจะอุทธรณ์ต้องทำภายใน 1​เดือน แต่จนถึงตอนนี้เลยมา 4 เดือน แล้วทนายคนนี้ยังไม่ไปดำเนินการบังคับคดีให้โจทก์เลย

ขอสอบถามดังนี้นะคะ

1. ถ้าโจทก์ต้องการเรียกร้องค่าชดเชยการขาดประโยชน์ช่วงที่โอนเงินมัดจำค่าบ้าน 20%  แล้วขอเข้ามาอยู่ในบ้านก่อนที่จะเรียกมาทำหนังสือสัญญาซื้อขายกันเป็นลายลักษณ์อักษรในปีที่ 7 โดยมีหลักฐานการโอนเงินมัดจำและพยานบุคคลรับทราบ  โจทก์สามารถเรียกร้องความเสียหายช่วงที่ผู้ซื้อเข้ามาอาศัยก่อนทำสัญญาได้หรือไม่ เพราะหลังทำสัญญาแล้วก็จ่ายไม่มีกี่งวดแล้วไม่จ่ายอีกเลย และไม่ยอมย้ายออกไป ซึ่งครอบครองมากว่า 10 ปี, เมื่อฟ้องคดีศาลชั้นต้นตัดสินแล้ว โจทก์ไม่ทราบว่าสามารถอุทธรณ์ได้ภายใน 1 เดือน  อยากทราบว่าโจทก์สามารถตั้งเรื่องส่งฟ้องเป็นคดีใหม่ได้หรือไม่คะ  หรือควรทำอย่างไร? 

2. เนื่องจากทนายของโจทก์ไม่มีความกระตือรือร้นในการต่อสู้คดี ไม่ยื่นเรื่องอุทธรณ์ให้โจทก์  รวมถึงไม่ติดตามบังคับคดี ปล่อยเวลาล่วงเลยไป 4 เดือนหลังจากศาลชั้นต้นตัดสินโดยไม่ดำเนินการต่อให้เสร็จสิ้น ทั้งๆที่รับเงินค่าจ้าง 70% แล้ว  ควรจะดำเนินการกับทนายแบบนี้อย่างไรคะ ขอคำแนะนำด้วยค่ะ