ทุกข์ใจมากๆค่ะ

ทุกข์ใจมากๆค่ะ
สวัสดีค่ะขอเรียนตามตรงเลยนะค่ะ ดิฉันมีเรื่องจะปรึกษานะค่ะ คือ ที่บ้านของดิฉันเปิดธุรกิจบริษัทรับออกเเบบ จัด และตกเเต่งสวนต้นไม้สนามหญ้า ตามบ้านพักอาศัย และโครงการบ้านจัดสรรต่างๆ รวมถึงงานก่อสร้าง ต่อเติมอาคาร โดยมีดิฉันเป็นกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการเเทนบริษัท เเต่พี่ชายของดิฉันจะเป็นผู้ดูเเลทุกสิ่งทุกอย่างในบริษัท ทั้ง ออกเเบบจัดสวน ควบคุมงาน ติดต่อประสานงานกับลูกค้า เรียกได้ว่า คนนอกมักจะมองว่าพี่ชายดิฉันเป็นเจ้าของบริษัทเสียอีก อยู่มาวันหนึ่ง ทางบริษัทรับงานออกเเบบจัดเเละตกเเต่งสวนต้นไม้สนามหญ้าของลูกค้ารายหนึ่ง เป็นงานต่อเติมครัวไทยภายนอก ขนาด 1.50x 1.20 โดยพี่ชายดิฉันจะเป็นคนออกเเบบเอง รวมทั้งวางระบบโครงสร้างเสาเข็มเองเเละงานออกเเบบจัดสวนต้นไม้และสนามหญ้า ราคารวม 160,000 บาท โดยจ่ายเงินค่าดำเนินงานในวันที่ตกลงกัน (ขณะนั้นยังไม่มีการทำสัญญา)เมื่อได้รับเงินมา เราเข้าทำงานตามปกติ ปรับพื้นที่ ตอกเสาเข็ม โดยเปลี่ยนจากเสาเข็ม ตัวหกเหลี่ยมกลวงเป็นเสาเข็มตัวไอ ปรากฎว่าลูกค้าหาว่าเราทำงานไม่มีประสิทธิภาพ ทั้งที่ทราบดีในวงการอยู่เเล้วว่า เสาเข็มตัว ไอ รองรับนำหนักดีกว่า นอกจากนี้ลูกค้ายังต้องการจะให้เราก่อสร้างเพิ่มเติมในส่วนที่เราไม่ได้ออกเเบบโดยให้เราจ่ายค่าก่อสร้างเพิ่มเติมเอง ซึ่งเป็นส่วนที่เราไม่ได้เจรจาตกลง พอเราไม่ยอม ลูกค้าก็ไม่ยอม เราจึงตัดสินใจไม่ทำงานต่อไป โดยสั่งระงับการทำงานทั้งหมด เพราะไม่เเน่ใจว่าจะสามารถทำงานให้กับลูกค้าได้อีก ลูกค้าจึงขู่จะฟ้อง เเละเขาฟ้องจริงๆ โดยอ้างว่า ฉ้อโกง และ ผิดสัญญา ละเมิด เพราะหลังจากเราได้รับเงินแล้ว เราได้จัดทำสัญญาฉบับเเรกไปให้เขาดู โดยประทัปตราสำคัญ ลงลายมือชื่อโดยพี่ชายเป็นคนลงลายมือชื่อเเทน (มีใบมอบอำนาจ) เเละดิฉัน เซ็นในฐานะพยาน เเต่เขาตีกลับโดยโทรมาให้เราเสนอสัญญาใหม มันระบุระยะเวลาชำระหนี้การชำระเงินเร็วไป โดยไม่ส่งคืนสัญญาฉบับเดิม เราจึงทำสัญญาใหม่โดยทำเเบบเดิม เขาก็ตีกลับมาอีกโดยไม่ระบุเหตุผลใด ในฟ้องทางอาญาระบุว่าทางดิฉันเจตนาฉ้อโกง ให้เขาหลงเชื่อว่าพี่ชายเป็นผู้มีอำนาจกระทำการเเทนทั้งที่ไม่มีอำนาจ ทั้งที่ตลอดมาดิฉันยืนยันกับเขาเเล้วว่า พี่ชายมีอำนาจตัดสินใจทุกอย่างในบริษัท คำถามคือ 1. ดิฉันกับพี่ชายผิดฐานฉ้อโกงหรือไม่ค่ะ 2.เเล้วสัญญาที่เขาเอามาอ้างนั้น มันเป็นฉบับเเรกที่ยังไม่ส่งคืนกลับมาให้ฉัน อยุ่ดีๆ เขาเซ็นชื่อเเล้วอ้างขึ้นมาเฉยๆ เขาผิดฐานใช้เอกสารปลอมหรือปล่าค่ะ 3.วิธีการสืบพยานในประเด็นเรื่องพยานเอกสารปลอมจะใช้พยานบุคคลได้หรืปล่าค่
ผู้ตั้งกระทู้ สมประภา :: วันที่ลงประกาศ 2005-04-24 23:05:00 IP :

[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (95249)

1.น่าจะไม่มีความผิดฐานฉ้อโกง เป็นเรื่องโต้แย้งกันในสัญญาจ้างซึ่งเป็นคดีแพ่ง

2. ไม่ค่อยเข้าใจคำถาม แต่...ถ้าเขาเอาสัญญาที่เราไม่ได้ทำขึ้นมาฟ้องน่าจะเข้าข่ายใช้เอกสารปลอมได้

3.จะพิสูจน์ว่าเอกสารปลอมหรือไม่ หลักฐานสำคัญคือ เอกสารที่เขานำมากล่าวอ้าง สำหรับพยานบุคลถ้าเขาสามารถยืนยันได้ว่ามีการปลอมแปลงเอกสารอย่างไรก็สามารถนำเป็นมาพยานได้

้--การจัดสวนเป็นการจ้างทำของ แม้ไม่มีสัญญาก็สามารถนำสืบโดยใช้พยานบุคคลหรือนำสืบเพื่อหักล้างข้อความในสัญญาได้ เรื่องพี่ชายคุณมีอำนาจหรือไม่จึงไม่น่าจะมีประเด็นให้เขากล่าวอ้างได้ คุณจึงไม่น่าจะมีความผิดฐานฉ้อโกง

ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เฒ่า วันที่ตอบ 2005-04-25 16:43:09 IP :

ความคิดเห็นที่ 2 (96441)

การจัดการกิจการภายในบริษัท กรรมการจะทำเอง หรือมอบหมายให้บุคคลอื่นไปทำแทน ก็ได้ครับ การกระทำการแทนนั้น จะทำอย่างไร ถูกต้องกับ ข้อบังคับของบริษัท หรือกิจการของบริษัท และจะผูกพันกลับบริษัท หรือไม่ ก็เป็นเรื่องภายใน ระหว่าง บริษัทฯ กับตัวแทน ที่จะต้องว่ากล่าวกันเอง

กรณีที่คุณถามมานั้น พี่ชายคุณถือว่า เป็นตัวแทน บริษัทฯในการติดต่อกับผู้ว่าจ้าง ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก ครับ เมื่อ มีการรับเงิน และทำสัญญา ต่อมา บริษัทฯ ก็ได้จัดส่งคนงานไปทำงาน ตามที่ตัวแทนได้ไปตกลงกันไว้ ก็ถือว่าเป็นการให้สัตยบัน แก่การกระทำของตัวแทนแล้ว สัญญาจ้างดังกล่าว ย่อมมีผลผูกพัน กับบริษัท ฟังดูแล้ว ก็เป็นเรื่องของการ ดำเนินการโดยปกติของการดำเนินกิจการครับ ไม่น่าจะเป็นการฉ้อโกงได้

การฉ้อโกง คือการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความที่ควรบอก ทำให้บุคคลอื่นหลงเชื่อ เพื่อให้ได้ไปซึ่งทรัพย์สินของผู้ถูกหลอกลวง แต่ที่สำคัญ คือต้องมี เจตนาทุจริต

คำว่ามีเจตนาทุจริต หมายความว่า เป็นการแสวงหาประโยชน์โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

1. ดิฉันกับพี่ชายผิดฐานฉ้อโกงหรือไม่ค่ะ

ตอบ ฟังดูไม่ใช่ครับ , เป็นเรื่องของการ ที่ส่งมอบงานผิดแบบ แล้ว ผู้ว่าจ้างหยิบยกเอาเรื่องอำนาจกรรมการ มาหาเหตุในการดำเนินคดี ครับ

2.เเล้วสัญญาที่เขาเอามาอ้างนั้น มันเป็นฉบับเเรกที่ยังไม่ส่งคืนกลับมาให้ฉัน อยุ่ดีๆ เขาเซ็นชื่อเเล้วอ้างขึ้นมาเฉยๆ เขาผิดฐานใช้เอกสารปลอมหรือปล่าค่ะ

ตอบ เอกสารเป็นของจริง เพียงแต่มีการยกเลิกไม่ใช้แล้ว เค้านำมากล่าวอ้าง ถ้าจะผิดคงเป็นเรื่องของการฟ้องเท็จ ครับ คือ รู้อยู่แล้วว่า ไม่ได้เป็นเรื่องฉ้อโกง แล้วมาทำให้เป็นเรื่องฉ้อโกง , เกี่ยวกับสัญญาที่มีการยกเลิกไปแล้วนั้น ถ้าดูดีๆ ผู้ว่าจ้างอาจจะมีความผิด ฐาน "เอาไปเสียซื่งเอกสาร.." ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188 ครับ

3.วิธีการสืบพยานในประเด็นเรื่องพยานเอกสารปลอมจะใช้พยานบุคคลได้หรืปล่าค่ะ

ตอบ เอกสารดังกล่าวไม่ได้ปลอมครับ ,เพียงแต่ว่า มีการยกเลิก และใช้สัญญาฉบับใหม่แทนแล้ว การนำสืบพยานของฝ่ายจำเลยโดยนำพยานบุคคลมาสืบพยาน ทำได้อยู่แล้วครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ปมุข 0-1820-2236 วันที่ตอบ 2005-04-27 11:42:53 IP :

[1]

แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *

ผู้แสดงความคิดเห็น *
อีเมล
	ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล