1.คุณน่าจะไม่มีความผิด  แต่...สิ่งที่น้องคุณและคุณกระทำลงไป  ค่อนข้างล่อแหลมว่าเป็นการรับของโจร  ถ้าน้องเขยคุณเอาเรื่องจริงคุณก็คงต้องเหนื่อยแน่

2.  น้องสาวคุณโอนรถให้คุณ    สามีเขากล่าวหาว่าลักทรัพย์หรือยักยอกทรัพย์  เขาสามารถกล่าวอ้างได้ แม้เป็นกรรมสิทธิ์ของน้องสาวคุณ  เพราะความสามีภรรยากันย่อมยากที่จะแยกได้ว่าส่วนไหนของส่วนตัวหรือส่วนไหนเป็นสินสมรส  เมื่อคุณรับไว้ก็เข้าองค์ประกอบว่าคุณรับของโจรพอดี   คุณคงต้องหาทนายดีๆไว้ต่อสู้อย่าทำเป็นเล่นไปนะ  แต่ผมยังมีความเห็นว่าคุณไม่ผิด  แต่..ต้องพิสูจน์กันในชั้นศาล ถ้าเขาเรื่องคุณจริง

3.  เรื่องฟ้องกลับผมว่าคุณอย่าเพิ่งคิดเลย ตอนนี้หาทางเอาตัวรอดก่อนดีที่สุด

ข้อเสนอแนะ   ลองใช้วิธีเจรจากันดีๆ  ยอมลดทิฐิกันบ้างเรื่องน่าจะจบลงด้วยดี  โชคดีครับ

ข้อหารับของโจร พูดง่ายๆคือ คนรับต้องรู้ก่อนว่าของนั้นเป็นของโจร และ ของนั้นต้องเป็นของโจรจริงๆ เช่น ของที่ขโมยมา,ของที่ยักยอกมา เป็นต้น 

   จากข้อเท็จจริงที่คุณเขียนมานั้น ผมคิดว่า การที่น้องสาวคุณ ชำระหนี้เงิน***้ยืมด้วยรถนั้นเป็นการชำระหนี้ที่ชอบด้วยกฎหมายอยู่แล้ว และการที่น้องเขยจะบอกว่า น้องสาวยักยอกสินสมรสมาชำระหนี้ก็ไม่น่าจะได้ เพราะ การ***้ยืมเงินนั้นเกิดในขณะที่สมรสแล้วด้วย ดังนั้น หนี้นั้นก็เป็นหนี้ระหว่างสมรส การชำระหนี้ก็เป็นการชำระหนี้ในระหว่างสมรสด้วย ดังนั้น การชำระหนี้ก็ชำระหนี้ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ได้มีการยักยอกสินสมรสแต่อย่างใด

   นอกจากนั้น เหตุผลอีกอย่างคือ โดยสามัญสำนึกแล้ว คุณลองคิดดูสิว่า ถ้าเกิดสามารถฟ้องร้องเพราะกรณีดังกล่าวได้จริงล่ะก็ อนาคตเวลาผัวเมีย ทะเลาะกัน และ จะหย่ากัน สงสัยคงต้อง แจ้งความจับกันวุ่นวายแน่นอน   อีกอย่าง  ผัวเมียจะไม่สามารถทำอะไร(นิติกรรม สัญญา) ที่เกี่ยวกับทรัพย์สินได้เองตามลำพังได้เลย เพราะต้องคอยถาม คู่สมรสตัวเองตลอดเวลา

ดังนั้นสรุปก็คือ ผมว่าคุณไม่น่าจะต้องรับผิดข้อหา รับของโจร  และแม้แต่น้องสาวคุณก็ไม่น่าจะผิด ข้อหายักยอกทรัพย์ด้วย   ส่วนเรื่องที่คุณจะแจ้งความกลับนั้น ก็อย่าทำเลยเพราะ ผมคิดว่า เค้าก็แจ้งความจับคุณ เพราะตามความเข้าใจของเค้า เค้าคิดว่าคุณมีความผิด แสดงว่าเค้าก็ทำไปโดยสุจริต ไม่ได้ แจ้งความเท็จ ดังนั้น คุณจะแจ้งความกลับ เค้าก็คงสู้คดี จนชนะอีก   เสียเวลาเปล่า เสียเงินค่าทนายปล่าวครับ