1.ทำไมคนที่ไม่เคยติดต่อกับสำนักงานกฎหมายต่างๆ เหมือนดิฉัน กลับไม่ถูกติดตามจากสำนักงานกฎหมาย (มีแต่จ.ม.ส่งมา) ส่วนดิฉันพอติดต่อไป 1 ที ก็มีตามมาอีกหลายบัตรเลย

ตอบ เป็นเรื่องของการติดตามหนี้ ของเจ้าหนี้ครับ ซึ่ง ทางเจ้าหนี้ หรือสำนักงานกฎหมาย อาจมีการแลกเปลี่ยนฐานข้อมูลลูกหนี้กันครับ

2.กรณีได้รับหมายศาลแล้วไม่ได้ไป ศาลสามารถพิจารณาส่งเรื่องไปที่กรมบังคับคดีได้เลยใช่หรือไม่ (เพราะพี่สาวดิฉันเคยได้รับผลแบบนี้คะ)

ตอบ ใช่ครับ เค้าเรียกว่า การพิพากษาไปโดยจำเลยขาดนัด (ยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา)  ทางแก้ของจำเลย คือ ไปขอให้ศาลพิจารณาคดีใหม่ ซึ่งจะทำให้ การดำเนินการที่กรมบังคับคดี ต้องระงับครับ

 3.เพื่อนดิฉันมีญาติเป็นทนายบอกว่าไม่ต้องไปศาลและไม่ต้องสนใจ ไม่ต้องติดต่อ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนี้น ดิฉันเลยไม่เข้าใจว่า คนที่พยายามติดต่อประนอมหนี้เท่านั้นใช่ไหมคะ ที่จะถูกศาลพิจารณาจนถึงบังคับคดี **ส่วนคนที่ไม่เคยติดต่ออะไรเลย ก็ไม่ต้องได้รับการพิจารณาจากศาล (ใช่หรือเปล่าคะ?)

ตอบ  ไม่ใช่หรอกครับ , เมื่อลูกหนี้เป็นหนี้ และผิดนัด เจ้าหนี้ก็ต้องติดตาม ทวงถาม และดำเนินคดีไปตามขอบเขตที่กฎหมายกำหนดและให้อำนาจไว้ ไม่ว่า จะช้า หรือเร็ว ตราบใด ที่ลูกหนี้ยังไม่ชำระหนี้ เจ้าหนี้เค้าก็ต้องดำเนินการให้ได้  เพียงแต่ว่า วิธีการของเจ้าหนี้แต่ละคน จะแตกต่างกันออกไป หรือ เหมือนกัน ก็ได้ครับ

4.ทราบว่าบัตรเครดิตมีอายุความ 2 ปี แต่พี่สาวดีฉัน เรื่องผ่านมา 7 ปีแล้ว ยังถูกติดตามจากสำนักงานกฎหมายอยู่ และจากยอดหนี้บัตร เหลือไม่ถึง 1หมื่นบาท ปัจจุบันถูกเรียกจากธนาคาร 7 หมื่นบาท จะต้องทำอย่างไรคะ

ตอบ  น่าจะทำเฉยๆ นะครับ อย่าไปจ่าย หรืออย่าไปตกลงใด ๆ เพราะจะทำให้หนี้ที่ขาดอายุความไปแล้วสะดุดหยุดลงครับ

5.หากนิ่งเฉยไม่ผ่อนชำระหนี้บัตร จะติด black list ไปตลอด ไม่สามารถทำธุรกรรมกับธนาคารใดๆ ได้เลยใช่หรือไม่คะ

ตอบ  ไม่ใช่เสมอไปครับ คนที่ติด Black list หมายความว่า มีการบันทึกประวัติไว้ ในฐานข้อมูลกลาง ว่า คนๆนี้ มีประวัติเสียหายทางการเงิน เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลให้ สถาบันการเงินต่างๆ มานำไปใช้ประกอบการพิจารณาให้สินเชื่อครั้งต่อไป  ดังนั้น ไม่แน่เสมอไปครับว่า คนที่ติด  Black list  จะทำธุรกรรม กับธนาคารไม่ได้  เพราะอย่างเช่น ติด หนี้บัตรเครดิต ธนาคาร A อยู่ 20,000 บาท  และต่อมาลูกหนี้ ได้นำที่ดินราคา 20,000,000 บาท ไปขอ***้เงินกับธนาคาร B  จำนวน 1 ล้านบาท ซึ่งจะเห็นได้ว่าธนาคาร B จะได้ผลตอบแทน เป็นดอกเบี้ย สูงกว่า จำนวนหนี้ที่ลูกหนี้ค้างชำระกับธนาคาร A ด้วย และธนาคาร B ก็ ยังมีหลักประกันเป็นที่ดินที่ราคาสูงว่า จำนวนหนี้ใหม่ ถึง 20 เท่า แบบนี้ การทำธุรกรรมก็ไม่น่าจะมีปัญหานะครับ เพราะ ธนาคาร B อัตราเสี่ยงในหนี้สูญจะน้อยลง ดังนั้น Black list  จึงไม่น่าจะมีผลสักเท่าใด ครับ

ไม่ทราบว่าเป็นคำตอบที่ตอ้งการหรือเปล่าครับ 

ปรึกษาเรืื่องหมายศาล

              ดิฉันเป็นหนี้บัตรกดเงินสดของ KTC ณ.วันนี้ได้มีหมายศาลครั้งแรงส่งมาที่บ้าน แต่ดิฉันไม่สามารถไปตามวันที่ศาลนัดได้

แต่ตั้งใจเอาไว้แล้วจะเจรจาขอผ่อนชำระเป็นรายเดือน

             กรณีนี้ ดิฉันสามารถโทรไปเจรจาขอผ่อนชำระกับ KTC โดยตรง โดยที่ไ่ม่ต้องไปขึ้นศาล จะได้หรือเปล่าค่ะ

หมายเหตุ : เคยทราบว่าถ้าไ่ม่ได้ไปขึ้นศาลด้วยตนเอง ก็ให้ทนายไปแทน ไม่มีทนายไปแืทนค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ