ReadyPlanet.com


กลุ้มใจจัง ช่วยทีเถอะค่ะ


มีเรื่อง จะขอความเห็น ผู้รู้ในห้องนี้ ช่วยแนะนำทีค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า.. แต่ก่อน..มีแฟนเป็นคนไทย อยู่ด้วยกันเจ็ดปี มีลูก 2 คน ชายคน หญิงคน พ่อเด็ก ไม่ยอมทำงาน ติดยา เรามีปํญหากัน ดิฉัน ตัดสินใจมาอยู่กะพี่สาวทีต่างประเทศ และมีสามีใหม่ ตลอดเวลา ดิฉัน สงเสีย เลี้ยงดูลูก พ่อเด็กไม่ยอมทำงาน ติดยา (เขาเคยหลบหนีการเป็นทหารด้วย) ไม่สนใจลูกเท่าทีควร ดิฉันต้องการเอาลูกไปอยู่ด้วย เพราะอยู่กะเขา เขาก็ไม่เลี้ยงดู แต่เขาไม่ให้ อ้างว่า รักลูก แต่ เหตุผล เขามันฟังไม่ขึ้น หลาย คนบอกว่า พ่อเด็กอยากได้เงินทีดิฉันส่งมา เลย ยื้อลูกเอาไว้ ในส่วนตัวดิฉัน คิดถึงลูกมากๆ ลูกก็อยากไปอยู่กับดิฉัน ลูกดิฉัน ผู้หญิง 9 ขวบ ชาย 7 ขวบ หนึงปี ดิฉันจะกลับมาเมืองไทย สองครั้ง ทุกครั้งลูกอยากไปอยู่กับดิฉันมาก ร้องไห้ตาม เราเป็นแม่ เจ็บปวดมากๆ เพราะพ่อเขาไม่ยอมเช็น เด็กก็ทำ วีซ่า ทำหนังสือเดินทางไม่ได้ ดิฉันเลย จะทำเรื่อง ฟ้องร้อง ทีนี้มีคนจะช่วย หาทนายให้ เขาบอกว่าเป็นทนาย คนจน ค่าทนายประมาณ 20000 บาท เขาบอกว่า เราจะชนะและได้ลูกมาอยู่ด้วย แน่ๆ คงจะใช้เวลา ประมาณ 2 เดือน ในสิ่งทีเราได้เปรียบ 1.พ่อเด็กติดยา 2. พ่อเด็กไม่มีงาทำ 3. พ่อเด็กเคยหนีทหาร ในปี 2538 ทุกวันนี้ยังหนีอยู่ 4. เมื่อปีทีแล้ว พ่อเด็กเคย โดนตำรวจจับข้อหามียาเสพติดไว้เพื่อเสพ และโดน พากฑัน(ไมรู้เขียนถูกรึเปล่า)
คิดว่าทางชนะนะเรามี แต่อยากถามผู้รู้ในห้องนี้ ว่า..ค่าใช้จ่ายเรื่องทนาย ประมาน 20000 จริงมั้ย ระยะ เวลาในการ วิ่งเรื่องประมาณ 2เดือนกว่าๆ จริงรึป่าว เคยมีเพื่อน ทำคร้ายแบดิฉัน เขาบอกค่าใช้จ่ายประมาณ หมื่นกว่าๆ เดือนเดี่ยวก็เสร็จแล้ว ใครรู้จักทนายดีๆ และ อยากรู้ว่า เราต้องใช้เวลา เท่าไร เสียค่าใช้จ่ายเท่าไรนะค่ะ แนะนำทีค่ะ ถือว่าสงสารเถอะค่ะ ดิฉันอยู่ที่นี่ สงสารลูกมากๆ แต่ก็ไม่ค่อนรู้อะไรมาก ใครมีความเห็นยังงัย ช่วยทีนะค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ


ผู้ตั้งกระทู้ ลักษณ์ :: วันที่ลงประกาศ 0000-00-00 00:00:00 IP :


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (39361)

อันที่จริง ค่าทนาย กับค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี ของทนายความมักจะไม่มีอัตราที่กำหนดไว้แน่นอน ดังนั้น ขึ้นอยู่กับเนื้อหา ของงาน ที่จะต้องทำ ว่า จะมีเนื้อหาของงานมากน้อยแค่ไหน ระยะเวลา จะต้องเป็นอย่างไร  ดังนั้น การจ้างทนายความ จึงต้องเป็นการตกลงกับทนายความเป็นเรื่องๆ ไป  ขึ้นอยู่กับวิธีการดำเนินคดี และการทำงาน ของทนายแต่ละคนว่า จะทำอย่างไร 

ดังนั้น เรื่องค่าทนายความ ในแต่ละที่ จึงไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้ครับ บางทีต้องจ้างทนายแพง กว่า นิดหน่อย แล้ว ได้ผลงานที่ได้รับกลับน่าประทับใจ หรือ ทำให้ผู้ว่าจ้างหมดความวิตกกังวลไปได้ 

บางแห่งทนายที่ทำงานคนเดียว ก็อาจจะคิดค่าทนาย ถูกกว่า ทนายคนที่ ทำงานเป็นทีม เพราะ ทนายที่ทำงานกันเป็นทีม ต้องมีค่าใช้จ่ายในการทำคดีที่ มากกว่า เช่น ในการทำงานแต่ละคดี จะต้องมีทนายที่ปรึกษา มีทนายที่ปฏิบัติงาน มีทีมงานผู้ช่วย ที่จะคอยให้การสนับสนุน ให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายที่กำหนดไว้ ดังนั้นเรื่องราคา จึงไม่อยาก ให้นำมาเปรียบเทียบกันครับ แต่อยากจะแนะนำ หากจะจ้างทนายให้ทำงานให้ในแต่ละเรื่อง ว่า ควรจะ สอบถาม ทนายหลายๆ ที่ และก็ ลองสอบถามราคา ค่าบริการ ขั้นตอนวิธีการดำเนินงานเป็นอย่างไร  และทางที่ดี ลองไปที่สำนักงานเค้าก็ได้ แล้วประเมินดูว่า ทนายคนที่เราจะว่าจ้าง มีความสามารถพอที่จะทำงานให้เราได้หรือไม่ หรือลองขอดูผลงานเก่าๆ  ที่ผ่านมา ของทนายดู ดีกว่า มุ่งจะสอบถามในเรื่องของค่าทนาย มากกว่าครับ

เรื่องระยะเวลาในการดำเนินคดี ก็อยากจะยกตัวอย่างให้เห็นภาพ ชัดเจนยิ่งขึ้นนะครับ

อย่างกรณีที่คุณนำมาถาม เป็นเรื่องของ การฟ้องขอเพิกถอนอำนาจปกครองบุตร และขอให้ ผู้ปกครองเด็ก ให้ความยินยอม ในการนำเด็กออกนอกประเทศ ซึ่งขั้นตอนการทำงาน ของทนายความจะมีด้วยกัน สองลักษณะ คือ

๑. ดำเนินคดีไปตามกฎหมายทุกขั้นตอน แบบนี้ จะใช้เวลาประมาณ ๖-๑๒ เดือน

๒. ดำเนินคดีแบบใช้วิธีไกล่เกลี่ย แบบนี้ จะใช้เวลาประมาณ ๑-๖ เดือน

 

๑) การทำคดีแบบแรก คือ ทำตามขั้นตอนของกฎหมายทุกขั้นตอน   ก็จะมีตั้งแต่การจัดทำคำฟ้อง ไปยื่นต่อศาล  เมื่อศาลรับฟ้อง ก็จะมีคำสั่งให้คุณไปรายงานตัว ต่อ ผู้อำนวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็ก เพื่อให้ทำรายงานเสนอต่อศาล และในขณะเดียวกัน ก็ต้องส่งหมายเรียก ให้แก่บิดาเด็ก ซึ่งเป็นจำเลย ยื่นคำให้การต่อศาล และไปรายงานตัว เหมือนคุณ  และเมื่อ สถานพินิจ ทำรายงานเสร็จแล้ว ศาลก็จะต้องให้มีการสืบพยานทั้งโจทก์ และจำเลย ซึ่งจะเห็นได้ว่า หากมีการดำเนินงาน ตามที่กฎหมายกำหนดแล้ว จะมีขั้นตอนการดำเนินงานดังนี้ คือ

   ๑. ทำฟ้อง

   ๒. ยื่นฟ้อง

   ๓. นำส่งหมายให้แก่จำเลย (บิดาเด็ก)

   ๔. ไปรายงานตัวต่อ สถานพินิจ

   ๕.ไปให้การสอบสวน ต่อสถานพินิจ โดยนำเด็กไปด้วย

   ๕.บิดาเด็กไปรายงานตัว

    ๖.สถานพินิจทำความเห็น

    ๗.ศาลนัดสืบพยานโจทก์  โจทก์ต้องมีการจัดเตรียมพยานหลักฐาน เสนอศาล

     ๘.ศาลนัดสืบพยานจำเลย โจทก์ต้องไปซักค้านพยานจำเลย

     ๙.ศาลพิพากษา

    ๑๐. หากไม่มีการอุทธรณ์ฎีกาคดี เป็นอันเสร็จ และมีการบังคับคดีไปตามคำพิพากษา

    ๑๑. หากศาลตัดสินไม่เป็นที่พอใจแก่คู่ความ อาจต้องมีการอุทธรณ์-ฎีกา

 ซึงจะเห็นได้ว่า ขั้นตอนของการทำงานในเรื่องนี้ ก็จะมีดังที่เห็น ซึ่งระยะเวลาในการดำเนินการทั้งหมด จะต้องใช้เวลา ประมาณ ๖-๑๒  เดือน เป็นอย่างน้อย อย่างมาก ก็เป็นสองสามปี เลยครับ และค่าใช้จ่ายก็จะมากขึ้นด้วย ตามเนื้อหาของงานที่ต้องทำ

๒.การทำคดีโดยใช้วิธีไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ซึ่งจะช่วยให้ระยะเวลาดำเนินการเร็วขึ้น คือ เมื่อมีการยื่นฟ้อง ก็จะมีการขอเจรจากับจำเลย โดยทันที โดยชี้ให้เห็นถึงข้อดี และข้อเสีย ของการดำเนินการต่างๆ โดยอาจจะเสนอทีจะเพิ่ม หรือลดเงื่อนไข บางอย่างให้แก่จำเลย   ซึ่งหาก จำเลยเห็นด้วยกับข้อเสนอ ดังกล่าวแล้ว ก็ทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อศาลได้ และให้เป็นไปตามข้อตกลงดังกล่าวนั้น ซึ่งจะใช้เวลาที่เร็วกว่า  แต่ทั้งนี้ ก็คือ ต้องทำให้จำเลยสมัครใจ และยินยอม ที่จะไกล่เกลี่ย ด้วยนะครับ   ซึงจะเป็นได้ว่า แบบนี้ ระยะเวลา ก็จะน้อยกว่าขั้นตอนก็จะน้อยกว่า ค่าใช้จ่ายก็จะน้อยกว่า แต่ไม่สามารถบังคับจำเลย ให้ยินยอม ไกล่เกลี่ย ได้ครับ

จะเห็นได้ว่า วิธีการทำงาน ทั้งสองแบบ จะแตกต่างกัน แบบแรก จะใช้เวลามาก และค่าใช้จ่ายก็จะมาก , แบบหลังระยะเวลาน้อย ค่าใช้จ่ายก็น้อย กว่า ดังนั้น  ทนายความที่ทำงาน ในแต่ละอย่างก็จะมีระยะเวลา และค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันครับ

ไม่ทราบว่า เป็นคำตอบที่ต้องการหรือเปล่าครับ

   

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ปมุข 0-1820-2236 วันที่ตอบ 2005-01-21 07:14:00 IP :


ความคิดเห็นที่ 2 (39629)
ขอบคุณค่ะ สำหลับ คำแนะนำ ได้ ความรู้ขึ้นอีกแยะเลยค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น ลักษณ์ วันที่ตอบ 2005-01-21 17:57:00 IP :


ความคิดเห็นที่ 3 (40057)

ขอแสดงความคิดเห็นหน่อยค่ะ   การรับเด็กไปเลี้ยงที่ต่างประเทศเป็นสิ่งที่ดีต่อเด็กในอนาคต  แต่ว่า เด็กจะมีปัญหาเรี่องภาษาอย่างมาก เพราะฉนั้นเวลา นี้ควรอย่างยิ่งที่ต้องให้เด็กเริ่มเตรียมตัวเรื่องภาษาบ้างพอสมควร  เด็กสามารถพัฒนาได้เร็ว    และการปรับตัวกับสภาพแวดล้อมใหม่ๆๆ   ในช่วงปิดเทอม คุณควรจะไปรับเขามาเที่ยวดูก่อน  แล้วค่อยหาช่องทางที่ จะขอลูกมาเลี้ยงดูเอง     ดิฉันก็เป็นคนนึ่งที่ รับหลานมาเลี้ยง ที่ญี่ปุ่น  เขามาตอนนั้น ห้า ขวบ   แต่ตอนนี้  สิบ ขวบแล้ว    อ้อ...มีอีกอย่างหนึ่งที่คุณ ควรศึกษาเกี่ยวกับ กฏหมายของประเทศที่คุณอยู่    อย่างเพิ่งไปรีบร้อน ให้เสร็จ เรื่องนี้มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน  ต้องค่อยเป็น ค่อยไป  คุณไม่ลองให้คุณปมุข  เป็นที่ปรึกษาทางกฏหมาย ละคะ   คุณจะได้คุยปัญหาทางเมล์   และขอคำแนะนำต่างๆๆ ได้โดยไม่ ต้องโทรศัพท์  เพราะจะช่วยละค่าใช้จ่ายได้มากเลยค่ะ    ขอเอาใจช่วยก็แล้วกันน่ะค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พร วันที่ตอบ 2005-01-22 14:26:00 IP :



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.