การพา ผู้ต้องหา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ  เป็น การดำเนินการของพนักงานสอบสวน ครับ เพื่อป้องกัน การกลับคำให้การในชั้นศาล ส่วนการขอ ขอขมา พ่อแม่ ผู้เสียหาย ส่วนใหญ่เท่าที่ทราบมา มักจะเป็นความประสงค์ ของผู้ต้องหา มากกกว่า ทั้งนี้ เป็นเพราะ บางที่ผู้ต้องหา อยากแสดงให้เห็น ว่า สำนึกในการกระทำความผิดแล้ว อยากให้ พ่อแม่ ผู้เสียหาย ให้อภัย  หรือ อาจจะมีการเสนอให้ เงิน เพื่อเป็นการบรรเทาผลร้าย ที่ตนเองได้กระทำไป  แล้วนำเอา เรื่องดังกล่าวมา เสนอต่อศาล เพื่อ เป็นการแสดงเหตุอันควรปรานี ให้ศาลพิพากษา ลงโทษสถานเบา กว่าปกติได้ครับ  ซึ่งเท่าที่ผ่านมา ในการตัดสินคดี ที่จำเลยรับสารภาพ และมีเหตุอันควรปรานี ในลักษณะที่มีการสำนึกกระทำความผิด และได้บรรเทาผลร้ายแล้ว ศาลก็มีเหตุในการลงโทษสถานเบาได้ครับ  อย่างคดี หนึ่ง ที่ จ.พิษณุโลก ที่ นายแพทย์ คนหนึ่ง ฆ่า แพทย์หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นแฟน  แล้วร่วมกับแพทย์หญิงอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นแฟนใหม่ ในการทำลายศพ  ก็มีการขอขมา และให้เงิน เพื่อบรรเทาผลร้าย แก่ แม่ผู้ตาย จนผู้ตายไม่ติดใจเอาเรื่อง  ศาลก็มีเหตุในการลงโทษสถานเบา คือ จาก อัตราโทษประหารชีวิต ลดลงมาเหลือจำคุก 35 ปี 4 เดือน   ซึ่งความจริงแล้วความผิดดังกล่าว คือ ประหารชีวิตสถานเดียว เมื่อรับสารภาพ ศาลก็ลดโทษได้แค่ จำคุกตลอดชีวิต เท่านั้น   แต่ เมื่อมีการขอขมา โดยสำนึกผิด และมีการบรรเทาผลร้าย ให้เก่ผู้เสียหาย ศาลเลยมีเหตุลดโทษได้อีกครับ ซึงเรื่องของการ นำเอาเรื่อง การขอขมา และบรรเทาผลร้าย มาวินิจฉัย จะปรากฏในคำพิพากษาด้วยครับ  

ตำรวจที่พา ไป ก็เป็นไปตามความประสงค์ของผู้ต้องหาครับ คงไม่มีความผิด ,  แต่ ผู้ทำร้าย หากผู้ห้องหา จะเอาเรื่อง ก็มีความผิดครับ และก็เคยมีหลายเรื่องแล้วครับ