-เรื่องนี้คงไม่เป็นเรื่องยักยอก     แต่.....ในทางปฏิบัติเจ้าของทรัพย์มักแจ้งความเอาผิดกับผู้ผ่อนเสมอ แม้ไม่เป็นการยักยอกคุณก็ต้องมีภาระไปชี้แจงกับตำรวจทำให้เสียเวลาไม่น้อย     และถ้าเขามีข้อมูลยืนยันได้ว่าคุณเคยมีพฤติกรรมผ่อนของแล้วเบี้ยวคุณอาจเข้าข่ายมีความผิดฐานยักยอกฉ้อโกงได้

-คำแนะนำ  ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงให้คุณผ่อนเขาต่อไปจนหมดหนี้จะปลอดภัย  ถ้าเงินผ่อนค่อนข้างสูงคุณอาจต่อรองลดลงได้  ดีกว่าหยุดผ่อนไปเฉยๆ

เรียนท่านผู้เฒ่าค่ะ ...................ดิฉันจะโดนทั้ง ยักยอก และฉ้อโกงเลยหรือค่ะ .มีหนังสือว่าผ่อนกัน8งวด งวดละ30000บาท ผ่อนไปแล้ว3งวด แล้วไม่มีเงินผ่อนต่อค่ะ( เป็นยักยอก/ฉ้อโกงเลยหรือค่ะ) ไม่เหมือนการผ่อนรถยนต์ หรือสินค้าอื่นหรือค่ะ................ และถ้าหากคุณ ผู้เฒ่า ...........เป็นทนายดิฉันไม่ทราบว่าจะมีทางสู้คดีได้หรือเปล่าค่ะ?................ขอบคุณมากสำหรับคำแนะนำด้านล่างค่ะ ........

.คำแนะนำ  ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงให้คุณผ่อนเขาต่อไปจนหมดหนี้จะปลอดภัย  ถ้าเงินผ่อนค่อนข้างสูงคุณอาจต่อรองลดลงได้  ดีกว่าหยุดผ่อนไปเฉยๆ

ถ้าดิฉัน สามารถผ่อนได้หรือตกลงได้... คงไม่เขียนมารบกวนท่านปมุข และรบกวนคุณ ผู้เฒ่าหรอกค่ะ............................คนที่เข้ามาในเวปท่านปมุขนี้ต้องการข้อต่อสู้ทางกฏหมายน่ะค่ะ  เพราะคิดว่าคงจะมีปัญหาด้านกฏหมายค่ะ  ขอบคุณมากน่ะค่ะ        คุณ ผู้เฒ่า

รบกวนท่านปมุขด้วยน่ะค่ะ ............. 

ตามคำถามของคุณเป็นการซื้อขายที่ยังมีเงื่อนไขการชำระเงินกันยังไม่ครบถ้วนโดยคู่สัญญาตกลงกันชำระเป็นงวดๆ ดังนี้เข้าลักษณะกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยเรื่องสัญญาเช่าซื้อ โดยกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน(ทองหรือสร้อย)ยังไม่โอนไปยังผู้ซื้อ ดังนั้น หากผู้ซื้อผ่อนเงินไปสักระยะหนึ่งแล้วไม่มีปัญญาผ่อนต่อ ตามกฎหมายแล้วมีหน้าที่ต้องคืนทรัพย์ตามสภาพที่ดีเหมือนเดิม โดยผู้ขายมีสิทธิยึดเงินที่จ่ายมาก่อนหน้านี้ทั้งหมด แต่หากไม่คืนผู้ขายก็มีสิทธิ์ที่จะติดตามเอาทรัพย์คืนจากผู้ซื้อได้ โดยการทวงถาม ซึ่งหากทวงถามแล้วผู้ซื้อไม่คืนผู้ขายก็ต้องบอกเลิกสัญญาเสียก่อนแล้ว ผู้ขายก็ต้องไปใช้สิทธิทางศาลฟ้องเป็นคดีแพ่ง เว้นเสียแต่ว่าผู้ซื้อมีเจตนาที่จะยักยอกทรัพย์นั้นจึงจะสามารถดำเนินคดีทางอาญาได้เช่น ผู้ซื้อนำทรัพย์นั้นไปจำนำเอาเงินมาใช้โดยไม่มีเจตนาที่จะไถ่คืนหรือเจตนาเบียดบังเอาทรัพย์นั้นเป็นของตนเป็นต้น ดังนี้ผู้ขายจึงดำเนินคดีอาญาแจ้งความข้อหายักยอกทรัพย์ได้

อยากทราบว่าถ้าต้องการซื้อทอง 1สลึงและก็จี้อะค่ะแต่เราไม่มีบัตรอะไรเลยสามารถเอาเงินมาผ่อนซื้อทองได้หรือเปล่าค่ะและต้องทำสัญญาด้วยหรือเปล่าค่ะ

 ดิฉันมีคำถามค่ะบ.ปมุขกฏหมายการที่เราให้ลูกค้่าผ่อนสินค้าเป็นทองคำรูปพรรณรายวันโดยคิดราคาทองขึ้นลงต่อวันในรูปแบบทองคำและจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนฯโดยระบุในหนังสือรับรองว่าซื้อขายทองคำรูปพรรณเงินผ่อนทอง,เงิน,นาก..และมีสัญญาซื้อขายแบบมีเงื่อนไขและให้สินค้าจริงๆมีหลักฐานยืนยันทุกอย่างเราผิดกฏหมายไมค่ะเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ตั้งข้อกล่าวหาหรือป่าวค่ะ

 ดิฉันมีคำถามค่ะบ.ปมุขกฏหมายการที่เราให้ลูกค้่าผ่อนสินค้าเป็นทองคำรูปพรรณรายวันโดยคิดราคาทองขึ้นลงต่อวันในรูปแบบทองคำและจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนฯโดยระบุในหนังสือรับรองว่าซื้อขายทองคำรูปพรรณเงินผ่อนทอง,เงิน,นาก..และมีสัญญาซื้อขายแบบมีเงื่อนไขและให้สินค้าจริงๆมีหลักฐานยืนยันทุกอย่างเราผิดกฏหมายไมค่ะเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ตั้งข้อกล่าวหาหรือป่าวค่ะ

คือดิฉันทำทองผ่อนแต่ดิฉันได้เอาหนังสื่อเงินกู้มาใช่ในการทำทอวผ่อนโดยทีรู้เท่าไม่ถึงการ พอถึงเวลามีปัญหากับลูกค้าดิฉันกลับถูกกล่าวหาว่าดิฉันทำเงินกู้เกิดเหตุการแบบนี้ดิฉันจะพูดและอธิบายกับตำรวจอย่างงัยคะ

 ดิฉันเปนคนนึงที่ผ่อนทองค่ะแล้วไม่มีกำลังผ่อนต่อค่ะเมื่อผ่อนมาแล้วก้อนำไปจำนำค่ะแต่ไม่มีเจตนาฉ้อโกงนะค่ะเมื่อมีดิฉันก้อส่งไปสัญญาผ่อนวันล่ะ320ค่ะ101วันขาดส่งไปประมานเดือนกว่าๆแล้วมาส่ง400ค่ะมีพนักงานมาทวงที่บ้านบอกจะแจ้งความอยากรู้ว่าจะร้ายแรงหรือจะติดคุกไหมค่ะถ้าติดจะติดนานไหมค่ะเพราะไม่มีจ่ายจิงๆค่ะขอจ่ายเดือน2000เขาก้อไม่ยอม

 อยากทราบค้ะผ่อนทอง2สลึ่งไม่มีกำลังจะจ่ายตอนนี้ก็เหลือ6พันกว่าบาทจะโดนแจ้งข้อหาไหมค้ะ

 การตกลงทำสัญญาซื้อขายโดยการตกลงราคาโดยการจ่ายเป็นเงินครบตามจำนวน หรือ แบ่งจ่ายเป็นงวดๆแล้วแต่ตามที่จะตกลงกันนั้น เป็นเจตนารมณ์ที้ตรงกันระะหว่างคู่สัญญา มีผลบังคับใช้ในสัญญาที่ระยุการซื้อขาย ถ้าสัญญาซื้อขายมีเงื่อนไขในเรื่องกรรมสิทธิ์ หรือ สัญญาเช่าซื้อเมื่อคุณชำระค่าสินค้าไม่ครบถ้วนตามที่เงื่อนไขได้ตกลงกันไว้ หรือ ไม่มีความสามารถที่จะชำระตามจำนวนได้ไม่ว่ากรณีใดๆ ผู้ชายหรือผู้ให้เช่า มีสิทธิที่จะเรียกค่าสินค้าหรือทรัพย์ ซึ่งยังมิตกเป็นของผู้ซื้อหรือผู้เช่าโดยเด็ดขาดนั้นได้ หากผู้ซื้อนำสินค้าออกไปจำหน่าย จ่าย โอน ให้กับผู้อื่นโดยไม่สามารถนำทรัพย์นั้นมาคืนแก่ผู้ขายได้ ผูขายมีสิทธิ นำหลัก ป.อาญา มาตรา 352 ฐานยักยอกทรัพย์ ขึ้นมาบังคับใช้กับคู่สัญญาได้

 การทำทองผ่อนผิดกฎหมายหรือเปล่าค่ะ โดยใช่สัญญาซื้อขายเงินผ่อน

 เจตนาของผู้ให้ผ่อนทอง​ระบุเป็นจำนวนเงินที่ต้องคืน​ตามวันและเวลาที่กำหนดและคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฏหมายกำหนดแสดงให้เห็นถึงเจตนา​ว่ามิได้อยากได้การชำระหนี้เป็นทองคืน​แต่ต้องกาาเป็นตัวเงิน

กรรมสิทธิ์​ในทองก้อน่าจะตกเป็นของผู้ผ่อนทองไมค่ะ​แต่ไม่ผ่อนให้ครบตามจำนวนเงินที่กำหนดไว้ในสัญญา​ น่าจะเป็นความผิดในคดีแพ่งหรือไม​