-สิทธิเก็บกิน ทำให้ผู้ทรงสิทธิเก็บกินมีอำนาจจัดการทรัพย์สินได้เท่ากับเจ้าของทรัพย์

-กรณีถ้าคุณได้จดทะเบียนเป็นทรงสิทธิเก็บกินในบ้านและที่ดินที่มีเพื่อนเป็นเจ้าของ  ....คุณสามารถเข้าอยู่อาศัย นำออกเช่าและเก็บค่าเช่าได้  เสมือนคุณเป็นเจ้าของ  แต่คุณก็ต้องมีภาระดูและรักษาทรัพย์และเสียภาษีอากรถ้าพึงมี....

-สิทธิเก็บกินถ้าไม่กำหนดเวลาไว้  ให้ใช้ได้ตลอดชีวิตผู้ทรงสิทธิเก็บกิน..  ถ้ากำหนดเวลาให้กำหนดได้ไม่เกิน 30ปี...

-ถ้าเพื่อนคุณถึงแก่กรรมลง  แน่นอนทรัพย์(บ้านและที่ดิน)ย่อมกลายเป็นมรดกตกทอดไปยังทายาทตามที่กฎหมายกำหนด  ทายาทที่ได้รับมรดกย่อมสามารถบอกยังเลิกสิทธิเก็บกินได้ถ้ากรณีไม่กำหนดเวลาไว้

-พินัยกรรมสามารถระบุให้ทรัพย์ของตนที่มีอยู่ก่อนเสียชีวิต ให้ตกเป็นของผู้ใดก็ได้ไม่ต้องเป็นญาติ  หรือทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้เพื่อนก็สามารถทำได้ ถ้าทำถูกตามแบบก็ใช้บังคับได้

คำแนะนำ  คุณไม่เห็นมีความจำเป็นต้องโอนบ้านและที่ดินให้เพื่อน  แม้คุณจะเป็นผู้ทรงสิทธิเก็บกินมีอำนาจจัดการทรัพย์ได้หลายอย่าง  แต่..ก็คงไม่มีกรรมสิทธิ์เกินกว่าการเป็นเจ้าของหรอก

-การทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้คุณป้องกันไว้ อาจจะทำให้คุณตายใจว่า  ไงๆทรัพย์ก็ไม่มีทางหลุดมือไปไหน แต่...ถ้าเขาแอบทำพินัยกรรมลับฉบับล่าสุด  ยกบ้านและที่ดินให้บุคคลอื่น  พินัยกรรมกรรมที่คุณนอนกอดไว้ก็ต้องถูกเพิกถอนโดยอัตโนมัติ  ประสบการณ์ของคนแก่คนหนึ่งที่ผ่านชีวิตมาแสนนานที่พบพานเรื่องพลิกไปพลิกมาอยู่เสมอจึงมาเล่าสู่กันฟัง  ถ้าคิดว่าเป็นการระแวงเกินกว่าเหตุก็แล้วแต่จะตรองดูเถิด......