แม่คุณโอนกรรมสิทธิไปแล้ว และมีการจำนอง  กับธนาคาร หาก ไม่มีสัญญาอะไรต่อกัน เช่น สัญญาว่าจะโอนคืน ให้แม่คุณไว้ ก็ไม่สามารถฟ้องได้ครับ  เพราะ แม้คุณโอนกรรมสิทธิ์ไปแล้ว  หาก ต้องการป้องกัน ก็ควรจะทำสัญญา หรือบันทึกข้อตกลงกันไว้ครับ ว่า พี่สะใภ้จะโอนที่ดินคืน ให้แก่แม่คุณ หรือทายาท เมื่อปลอดหนี้จำนอง

 ตามกฎหมายการโอนกรรมสิทธิ์บ้านและที่ดิน หากจะสมบูรณ์ต้องกระทำต่อหน้าเจ้าพนักงานที่ดินและทั้งผู้โอนและผู้รับการโอนต้องสุจริตหรือเสียค่าตอบแทนกรณีของคุณอยากรู้นั้น การโอนที่ดินและบ้านของแม่นั้น(เข้าใจว่าโอนแบบการให้)เจตนาก็เพื่อให้พี่สะใภ้นำไปจำนองธนาคารเพื่อนำเงินมาซื้อบ้านหลังใหม่ การโอนที่ดินและสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวเป็นการโอนที่ผู้โอนไม่มีเจตนาที่จะโอนบ้านและที่ดินให้แก่ผู้รับโอนจริงๆ ดังนั้น จึงสามารถเพิกถอนนิติกรรมได้ "ตามหลักกฎหมายผู้รับโอนไม่มีสิทธิดีกว่าผู้โอน" การเพิกถอนต้องกระทำภายใน 1 ปี แต่ผู้ที่จะเพิกถอนต้องเป็นผู้มีส่วนได้เสียในที่ดินและบ้าน ขณะนี้คุณไม่อยู่ในฐานะผู้มีส่วนได้เสียใดๆในที่ดินและบ้านคุณจึงไม่มีสิทธิใดๆเลย และเมื่อพี่สะใภ้คุณนำไปจำนองกับธนาคารก็สามารถกระทำได้เพราะมีชื่อเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินมีโฉนดธนาคารก็รับจำนองไว้โดยสุจริตและเสียค่าตอบแทน ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกไม่รู้เรื่องกับพวกคุณด้วยกฎหมายก็คุ้มครองสิทธิเขา พี่สะใภ้คุณจ่ายเงินหมดเขาก็ถอนจำนองให้ก็เท่านั้น หากไม่จ่ายธนาคารก็บังคับจำนองนำเงินมาใช้หนี้

หากในอนาคตแม่คุณตาย(ขอโทษนะ) โดยขณะมีชีวิตไม่ได้ขอเพิกถอนนิติกรรมดังกล่าว บ้านและที่ดินก็มิใช่ทรัพย์มรดกของแม่คุณที่จะนำมาแบ่งปันแก่ทายาทได้เพราะขณะมีชีวิตอยู่ได้โอนกรรมสิทธิ์ให้พี่สะใภ้คุณไปแล้ว ดังนั้นบ้านและที่ดินก็เป็นกรรมสิทธิ์ของพี่สะใภ้คุณแล้ว ไม่สามารถฟ้องร้องได้