หากเป็นจริงตามที่ท่านได้กล่าวมา ถือว่าท่านได้รับความเสียหาย จากการที่ท่านได้นำรถไปซ่อมที่ร้านแห่งหนึ่ง ตามกรณีดังกล่าวนี้เป็นสัญญาจ้างทำของ กล่าวคือ ท่านได้ว่าจ้างให้ร้านแห่งหนึ่งซ่อมเพียงแต่ส่วนหนึ่ง แต่ทางร้านได้ทำการเกินอำนาจที่ได้ว่าจ้างจากผู้ว่าจ้าง โดยไปซ่อมในส่วนที่ยังคงใช้การได้ดีอยู่อีก โดยไม่ถามผู้ว่าจ้าง อีกทั้งค่าซ่อมแพงกว่าปกติที่ควรจะเป็น

     ซึ่งสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในการแก้ปัญหาก็คือ พยานหลักฐาน ต่างๆที่จะแสดงว่าท่านเป็นฝ่ายสุจริต โดยปกติแล้ว ท่านควรจะตกลงกับช่างว่าต้อง ใช้งบประมาณในการซ่อมเท่าใด หรือ หากประมาณไม่ได้ควรให้ช่างกะงบประมาณอย่างสูง ก่อนที่จะมีการซ่อม อีกทั้งเมื่อตกลงใจซ่อมแล้ว ควรจะให้ทางร้านเขียนรายการซ่อมแซมโดยระบุชิ้นส่วน หรือ ส่วนที่จะซ่อม ในใบรับสินค้า(ใบรับรถหลังจากซ่อมเสร็จแล้ว) และราคาที่ตกลงจะซ่อมทั้ง 2 ฝ่าย จึงจะเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาตามมาครับ

     จึงสรุปดังนี้ ท่านต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าท่านได้ว่าจ้างให้ช่างซ่อมเพียงเฉพาะส่วนเท่านั้น และ การกระทำของช่างเป็นการกระทำเกินอำนาจการว่าจ้าง ซึ่งท่านก็ย่อมไม่ต้องรับผิดในกรณีที่แพงขึ้น เพราะเปลี่ยนส่วนที่ยังคงใช้การได้อยู่โดยไม่ได้ถามผู้ว่าจ้าง

      ซึ่งผมมีความสามารถที่จะตอบได้เพียงเท่านี้ซึ่งต้องขออภัย และหากผู้รู้ท่านอื่นมีหนทาง ได้โปรดกรุณาแสดงความคิดเห็น ชี้แนะเพิ่มเติม เพื่อ เป็นประโยชน์ต่อผู้เดือดร้อนโดยตรงครับ