เป็น สามีภรรยา กัน ไม่ควร ทำถึงขนาด ถึงคุก ถึงตารางเลยครับ ฟังดูแล้ว เป็นคดียักยอก ทรัพย์ด้วย และนอกจากเป็น ยักยอกทรัพย์แล้ว เป็นความผิด ฐานปลอมเอกสารสิทธิ , และแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน , และใช้เอกสารปลอม นะครบั ข้อหายักยอกทรัพย์ นะถอนได้ แต่ข้อหาอื่น ถอนแจ้งความไม่ได้นะครับ  

อยากให้คิดดี ๆ และตัดสินใจก่อนจะดำเนินคดีอาญา กัน ครับ  เพราะหากดำเนินคดีไปแล้ว แก้ไขลำบาก จะเสียใจกันที่หลัง

ตามปัญหาของคุณ ที่ว่า จะแก้ไขอย่างไรได้

ในขณะนี้ ควรที่ จะ ดำเนินการตามนี้ก่อนครับ

๑. ไปตรวจสอบและคัดเอกสารที่ สำนักงานที่ดิน โดยให้รับรองมาทั้งหมด สำเนาโฉนดเที่ดิน เอกสารในสารบบการจดทะเบียนที่ดิน

๒. ทำเรื่องขออายัดที่ดิน คือ การขอให้เจ้าพนักงานที่ดิน ระงับการจดทะเบียนในที่ดินดังกล่าว ไว้ เพื่อไปดำเนินการทางศาล ก่อน  เป็นการป้องกัน เพื่อไม่ให้ผู้รับโอนที่ดินไปโอนที่ดินต่อ หรือจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงใดๆ ในที่ดินครับ

๓. ฟ้องต่อ คือ ฟ้องภรรยาและ คนที่รับโอน  ต่อศาลเพื่อขอให้ศาลมีคำพิพากษาให้เพิกถอน นิติกรรม การโอนขายที่ดินดังกล่าว ครับ  แต่เหตุในการขอเพิกถอน ตอบตอนนี้ยังไม่ได้ต้องมาดู ในรายละเอียดอีก นะครับ เพราะว่า คนซื้อ เค้าจะมีข้อต่อสู้ได้ ว่า เค้ารับโอนโดยสุจริต และเสียค่าตอบแทน

ไม่ทราบว่าเป็นคำตอบที่ต้องการหรือเปล่าครับ

 ผมมีภรรยาแต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส พอดีว่าเขาเอาบัตรเอทีเอ็มไว้ที่ผมแล้วเขาก็เอารหัสไว้ให้ แล้วผมก็ได้กดออกมาใช้ แต่พอเขากลับมาจากต่างประเทศ แล้วเขาก็แจ้งความผมในคดียักยอกทรัพย์ ผมอยากทราบว่าคดีนี้ศาลจะตัดสินว่าอย่างไรครับ