[ หน้าแรก ] | [ เกี่ยวกับปมุขกฎหมาย ] | [ บริการของปมุขกฎหมาย ] | [ กระดานปรึกษากฎหมาย ] | [รวม Link ที่น่าสนใจ ] |
เช่าที่ดินแต่ปลูกบ้านเองโดนไล่ที่จะสามารถเรียกร้องค่าชดเชยหรือไม่ | |
ครอบครัวของดิฉันได้อาศัยอยุ่ในพื้นที่ของวัดแห่งหนึ่ง ซึ่งเจ้าอาวาสและกรรมการวัดในตอนนั้นอนุญาติให้สร้างบ้านที่อยุ่อาศัยในพื้นที่ของวัดได้แต่มีข้อแม้คือต้องสร้างให้มั่นคง ครอบครัวจึงให้ค่าเช่าทางวัดโดยไม่มีการทำสัญญา ต่อมามีการทำสัญญาภายหลัง และขณะนี้อยู่มาได้ 30 ปีแล้วบ้านมีเลขที่บ้านถูกต้องทุกประการ ต่อมาเจ้าอาวาสได้มรณะภาพจึงมีการแต่งตั้งเจ้าอาวาสคนใหม่พร้อมคระกรรมการชุดใหม่ขึ้นเมื่อประมาณต้นปี 2547 ทางวัดให้ทำสัญญาใหม่คือให้เช่าที่ต่ออีก 6 เดือน หลังจากนั้นเมื่อหมดสัญญาก้ไม่ได้ทำสัญญาต่อ แต่ทางวัดก็เก็บค่าเช่ามาโดยตลอด จนกระทั่งปลายปี 2548 ประมาณเดือน มิถุนายน 2548 สำนักงานกรมทางหลวงในพื้นที่ ได้รับงบประมารในการขยายถนนที่ผ่านบริเวณพื้นที่ของวัด จึงมาขอใช้พื้นที่ของวัดจำนวน 90 ตารางวา แต่เนื่องจากงบประมาณไม่เพียงพอและไม่ได้จัดงบสำหรับการเวณคืนที่ดิน จึงขอใช้พื้นที่ ร่วมกับของวัดจำนวน 40 ตารางวาเพื่อขยายถนนและแจ้งว่าจะใช้อีก 50 ตารางวาที่เหลือ เมื่อได้รับงบประมาณใหม่ และจะให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการเวรคืนที่ดิน ซึ่งจากพื้นที่ที่กรมทางหลวงต้องการใช้นั้นจะตัดผ่านบริเวณด้านหน้าบ้านของดิฉันพอดี จากบ้านหากวัดระยะห่างออกไปจนถึงบริเวณที่กรมทางฯจะทำการปรับนั้นห่างประมาณ 15 เมตร ทางวัดได้แจ้งให้ดิฉันรื้อถอนบ้านออกไปจากพื้นที่โดยทันที เมื่อประมาณเดือน พ.ย.48 แต่ทางบ้านมีปัญหาเพราะไม่มีที่อยู่อาศัยที่อื่น ไม่มีที่ดินของตนเอง มีเพียงเงินเก็บไม่ถึง6000 บาท และบ้านเป็นบ้านปูนทั้งหลังหากทำการรื้อถอนจะต้องใช้เงินและไม่สามารถนำชิ้นส่วนใดๆมาใช้ได้อีก และทางบ้านได้ทำกิจการค้าโลงศพทำให้มีสินค้าอยุ่ภายในบ้าน หากจะไปเช่าบ้านที่อื่นๆอยุ่ก้ไม่มีที่ใดให้เช่าเพราะไม่ต้องการให้นำสิ้นค้าไปไว้ที่บ้านเช่า อยากเรียนถามดังนี้ 1. ในกรณีนี้สามารถเรียกร้องให้ทางวัดจ่ายค่ารื้อถอนบ้านได้หรือไม่ 2. เคยร้องขอทางวัดให้ช่วยในการจัดหาที่อยู่ไหม่หรือขอรับค่ารื้อถอนจำหนวนหนึ่งแต่ทางวัดปฏิเสธที่จะให้การช่วยเหลือใดๆ ประกอบกับ คณะกรรมการวัดบางท่านได้ทำการกระจายข่าวให้ชาวบ้านบริเวณนั้นทราบว่าครอบครัวของข้าพเจ้าขัดขวางการพัฒนาวัดทำให้เป็นที่ไม่พอใจ และจากการประชุมชาวบ้านเมื่อวันที่ 5 ก.พ 49 ที่ผ่านมา ทางวัดมีมติในที่ประชุมให้ครอบครัวข้าพเจ้ารื้อถอนบ้าน ย้ายออกจากพื้นที่ภายในวันที่28 กพ.49 นี้ หากดิฉันไม่ได้ทำการรื้อถอนหรือย้ายออกไปตามกำหนดจะมีความผิดหรือไม่และควรทำอย่างไร 3. เนื่องจากบ้านหลังนั้นได้ดำเนินการปลูกสร้างเองโดยไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆจากทางวัด และอยุ่มานาน 30 ปี ตามกฏหมายแล้วสามารถอ้างสิทธิ์เป็นเจ้าของทรัพย์(บ้าน)ได้หรือไม่และมีสิทธิ์ที่จะได้รับค่าชดเชยในการรื้อถอนหรือไม่ 4. จากมติที่ประชุมในวันที่ 5 กพ 49 มีผู้ที่มาร่วมประชุมไม่ถึง 1ใน3 ของ ชาวบ้าน หากจะนับไปแล้วมีประมาณ 1500คนซึ่งผุ้ที่มาประชุมมีเพียง200คน และในการสรุปมติของที่ประชุม เป็นการสรุปโดยเร่งรัดเพราะแจ้งว่าผุ้ใดเห้นด้วยให้ครอบครัวข้าพเจ้าออกไปจากพื้นที่ และทำการสรุปเลยว่าที่ประชุมลงมติให้ย้ายออก โดยไม่พิจารณาทั้งๆที่มีบางกลุ่มคัดค้าน และไม่ได้มีการสนใจพิจารณาในคำคัดค้าน และมีบางคนได้ทำการด่าทอกลุ่มที่คัดค้านการรื้อถอนบ้านของครอบครัวดิฉัน หากเป็นเช่นนี้ถือได้ว่ามติที่ประชุมเป็นโมฆะ ได้หรือไม่เนื่องจากผู้เข้าร่วมประชุมไม่ถึง 1 ใน 3 ของสมาชิกทั้งหมด อีกประการหนึ่งในการลงชื่อเข้าร่วมประชุม มีคณะกรรมการเพียงคนเดียวเป็นผู้รับลงชื่อและผุ้เข้าประชุมไม่ได้เซนชื่อกำกับไว้เป็นหลักฐาน(เป็นไปได้หรือไม่ว่า..จะมีการนำชื่อของผู้ที่ไม่ได้มาประชุมเขียนเพิ่มเติมในภายหลังเพื่อให้ครบองค์ประชุม) 5. ได้มีคณะกรรมการบางท่านมาข่มขู่ให้รีบย้ายออกหากไม่เช่นนั้นจะดำเนินคดี ดิฉันควรตอบโต้เช่นไร และเอาผิดกับผู้มาข่มขู่ได้หรือไม่ 6. จากกฏหมายที่ดินจำไม่ได้ว่าเป็นหมวดหรือมาตราใดที่ว่า บุคคลใดครอบครองที่ดินและได้ทำประโยชน์ในที่นนั้นๆ(ที่ดินของคนอื่น)เกินกว่า5ปีหรือ10ปี ใหถือว่าบุคคลนั้นได้กรรมสิทธิ์ ไม่ทราบว่าดิฉันจะอ้างสิทธิ์ได้หรือไม่ เคยอ่านเจอแต่ไม่แน่ใจ 7.หากทางวัดทำการฟ้องร้องให้ข้าพเจ้าออกไปจากพื้นที่วัดดดยที่ทางวัดจะไม่ยอมช่วยเหลือใดๆ จะกระทำได้หรือไม่และข้าพเจ้าควรแก้ไขอย่างไรเพราะ ที่ดินเช่าที่วัดก็จริง แต่บ้านที่อาศัยเป็นของครอบครัวดิชั้น และหากออกไปก้ไม่ทราบว่าจะไปอยู่ที่ใด ตอนนี้กลุ้มใจมากคะเพราะไม่มีทั้งเงินและไม่มีที่ไปเสียดายบ้านบ้านด้วยเพราะกว่าจะสร้างและอยู่มาขนาดนี้ใช้เงิไปไม่น้อย(ประมาณ 3 แสน +ทองอีก 25 บาท ซึ่งตอนนั้นทอง บาทละ 4000เท่านั้นเอง) ไม่ทราบว่าจะร้องเรียนหรือขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานไหนได้บ้างคะ | |
ผู้ตั้งกระทู้ แอม :: วันที่ลงประกาศ 2006-02-08 16:29:46 IP : 203.185.146.150 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (384441) | |
1.สามารถเรียกร้องได้ตามสมควรแก่เหตุ 2. กรรมการวัดสามารถมีมติให้รื้อถอนบ้านออกไปได้... 3.คุณก็มีกรรมสิทธิ์ในตัวบ้านอยู่แล้ว...แต่ไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน 4. ต้องดูสัญญาเช่า...ว่าระบุไว้อย่างไร....ถ้าหมดสัญญาเช่า...กรรมการวัดย่อมมีอำนาจบอกให้คุณรื้อถอนออกไปได้...เรื่องจำนวนคนที่เข้าร่วมประชุมมากน้อยเพียงใดไม่น่าจะใช้มาเป็นหลักในการพิจารณา.....ต้องยึดสัญญาเช่าเป็นหลัก... 5.ถ้าข่มขู่จนทำให้หวาดกลัวต่อชีวิต...ก็เป็นความผิดทางอาญาได้ครับ....แต่การที่จะเอาความผิดก็ใช่ว่าจะกระทำได้ง่ายๆ..เพราะต้องมีพยานหลักฐานแน่นหนาพอสมควร....ถ้าไม่มีพอเพียงอาจต้องเสียเวลาเปล่าครับ เรื่องถูกไล่ที่ก็หนักอกพอแรง...ถ้ามามีคดีเรื่องนี้อีก....การเปิดแนวรบหลายแนวพร้อมกัน..ไม่เป็นผลดีต่อชีวิตและครอบครัวแต่อย่างใดครับ.. 6.แม้คุณจะอยู่นานเท่าใดก็ตามคุณไม่มีโอกาสได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินครับ....เพราะคุณอยู่ในฐานะผู้เช่าและยอมจ่ายค่าเช่าเสมอมา......และที่สำคัญที่วัดเป็นทรัพย์สมบัติของแผ่นดิน....กฎหมายห้ามยกอายุความต่อสู้ในการครอบครองทรัพย์ของแผ่นดินครับ..... 7.ถ้าคุณไม่ยอมรื้อถอนออกไปแต่โดยดี....แน่นอนวัดคงต้องฟ้องคุณให้รื้อถอนออกไปแน่นอน.....คุณก็สามารถเรียกร้องค่ารื้อถอนได้ตามสมควร......แต่ผลจะเป็นอย่างไรคงเป็นดุลยพินิจของศาล..... --คำแนะนำ...อยากให้คุณตัดใจรื้อถอนบ้านออกไปเถอะครับ....เห็นใจคุณที่ต้องพลัดที่อยู่ที่อาศัยย่อมเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสแน่นอน....แต่การมีคดีกับวัด....สังคมไทยรับไม่ได้...ปู่ย่าตายายสอนไว้....แม้ทรายในที่วัดถ้าติดรองเท้าไปเพียงเม็ดเดียวก็ถือว่าเป็นบาป...จึงมีประเพณีก่อเจดีย์ทรายในวัดเพื่อเป็นการไถ่บาป....คุณอยู่มากว่า 30 ปี นับว่านานเกินพอน่าจะหาทางขยับขยายไปได้.....ถ้ายังขืนอยู่ต่อไป....แน่นอนครอบครัวคุณคงเหมือนนอนอยู่ในกองไฟ..ต้องร้อนรุ่มกายใจไม่มีที่สิ้นสุด.....แผ่นดินไทยไม่ไร้เท่าใบพุทรา......คนขยันขันแข็งน่าจะไม่สิ้นไร้ไม้ตอกจนจะหาที่ซุกหัวนอนไม่ได้.....ไปตายเอาดาบหน้าดีกว่า.....ถูกคนประณามหยามหมิ่น....ติติงด้วยความปรารถนาดี
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เฒ่า วันที่ตอบ 2006-02-09 13:28:24 IP : 203.172.255.150 |
ความคิดเห็นที่ 2 (384835) | |
ขอบคุณที่แนะนำคะ ความจริงแล้วดิฉันไม่ต้องการกรรมสิทธ์ในที่ดินนั้นหรอกคะ ตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ทำประโยชน์ให้กับวัดมาโดยตลอด ช่วยกิจการงานของวัดมาโดยตลอด ไม่เคยคิดจะทำให้วัดเสื่อมเสียหรือขัดขวางการพัฒนาวัดหรอกคะ เพียงแต่ขณะนี้มีปัญหาว่าสินค้าที่มีในบ้านไม่ทราบจะเอาไปไว้ที่ใดเพราะไม่มีบ้านเช่าที่ไหนยอมรับหรือให้เช่าและหากรื้อบ้านแบบไร้ที่อยู่แบบนี้ก้ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไรเพราะเงินเก็บก้ไม่มี ค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนอีก จึงอยากเรียกร้องขอรับเงินช่วยเหลือส่วนหนึ่ง เพราะหากออกโดยไม่เรียกร้องอะไรดิฉันต้องรับภาระหนี้สินอีกเกือบ2แสนบาท (สินค้าที่มีอยู่ประเมินแล้วเกือบ2แสน5หมื่น บาท ซึ่งสินค้าที่มีก็ไม่สามารถนำไปคืนเจ้าของเดิมได้ถึงแม้จะเป็นแบบรับมาขายก่อนแล้วรวบรวมเงินให้เจ้าของเราได้กำไรจากการขายเพียงเล็กน้อย) 1. ดิฉันไม่ทราบว่ามีโอกาสที่ศาลจะตัดสินให้ดิชั้นได้รับค่าชดเชยหรือค่ารื้อถอนบ้านบ้างหรือไม่ มากน้อยแค่ไหน(ไม่ได้หมายถึงเงินคะแต่หมายถึงโอกาสที่ศาลจะตัดสินให้ได้รับค่าชดเชย) ขอความกรุณาช่วยตอบด้วยคะ 2. เคยร้องขอให้ทางวัดช่วยซื้อสินค้า(โลงศพ) ในราคาทุนไว้บริจาคให้คนยากไร้ เพื่อดิฉันจะได้นำเงินคืนเจ้าของสินค้าไปและจะได้ออกไปอย่างที่ไม่ต้องรับภาระหนี้สินจำนวนมาก ไม่ทราบว่าดิชั้นจะร้องขอเช่นนี้ได้หรือไม่ หากไม่ต้องการค่ารื้อถอนหรือค่าชดเชย เพียงแต่ไม่อยากมีหนี้สินติดตัวออกไปมากขนาดนั้น ดิฉันอาจจะถามแบบไม่เข้าใจนักเพราะไม่มีความรู้ด้านกฏหมายเลย และเรียนจบแค่ ป.4 พออ่านออกเขียนได้เล็กน้อย ตอนนี้ก็อายุจะ52 แล้วคะพ่อดิชั้น 81ปีแล้วช่วยเหลือตัวเองอะไรไม่ได้ ดังนั้นการที่จะเริ่มต้นสร้างตัวไหม่ เป็นเรื่องที่ลำบากมากสำหรับดิชั้น ต้องขอรบกวนท่านผู้รู้แนะนำด้วยคะว่าควรจะขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานหรือที่ใดได้บ้าง
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น แอม วันที่ตอบ 2006-02-09 19:05:58 IP : 203.114.122.251 |
ความคิดเห็นที่ 3 (385239) | |
1เรื่องดุลยพินิจของศาลคงตอบได้ลำบากครับ
2. เป็นความคิดที่ดีที่คุณจะหาทางออกวิธีนี้...ขอแนะนำให้คุณหาคนที่น่าเชื่อถือ...ให้ช่วยเจรจาต่อรองกับวัดดู.....หลักการเจรจาที่สำคัญคือต้อง...อดทนต่อสถานการณ์ทั้งหลายทั้งปวงที่มากระทบ.....และที่สำคัญคือต้องยอมรับการสูญเสีย.....การที่จะเรียกร้องได้เต็มที่ตามสิทธิ์คงเป็นไปได้ยาก....ขอให้คุณโชคดี...... | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เฒ่า วันที่ตอบ 2006-02-10 08:15:15 IP : 203.172.255.150 |
ความคิดเห็นที่ 4 (3895683) | |
สอบถามค่ะ...ตินนี้พ่อกับแม่เคลียดมาก...ที่บ้านได้รับมรดกที่ดินมา1แปลง...แต่ที่ดินแปลงที่ได้รับมานั้นมีบ้านขอป้าอาศัยอยู่.วันหนึ่งพอได้ทำการยกที่ดินแปลงนั้นให้ลูก(ฉัน) วันนี้ฉันอยากสร้างบ้านของตัวเอง เลยต้องการให้ป้าย้ายบ้านไปในที่ดินของเขาเอง..เลยอยากถามว่าป้าสามารถเรียกค่ารื้อถอนกับเราได้มัย... | |
ผู้แสดงความคิดเห็น wasana.p2527 วันที่ตอบ 2015-11-08 17:47:14 IP : 1.47.129.190 |
ความคิดเห็นที่ 5 (4324250) | |
เช่าที่เดือนล่ะ300บาท นานพอสมควร อยู่ๆเจ้าของทีกับไร่ ทางเราจะเรียกร้องเอาค่ารื้นถอนได้ไหมค่ะ พอมีใครช่วยตอบหน่อยได้ไหมค่ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น อ (Apichaya7986-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2019-08-16 09:15:08 IP : 182.232.197.193 |
[1] |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 1086858 |