โจทก์ฟ้องว่า  เมื่อวันที่  19  ตุลาคม  2546  เวลากลางคืนก่อนเที่ยง  จำเลยได้ละเมิดลิขสิทธิ์ในงานดนตรีกรรมเพลง "ยาใจคนจน"  อันเป็นลิขสิทธิ์ของบริษัทจี เอ็ม เอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ผู้เสียหาย 

โดยจำเลยได้นำงานดังกล่าวมาดัดแปลง  ทำซ้ำในหน่วยความจำของเครื่องคอมพิวเตอร์  แล้วนำเพลงที่บันทึกไว้ดังกล่าวออกเผยแพร่ต่อสาธารณชนที่เป็นลูกค้ามาใช้บริการในร้านอาหารของจำเลย  ชื่อ  "เปตองคาราโอเกะ" 

สร้างสรรค์ตามฟ้องของผู้เสียหาย  โดยการนำตู้เพลงคาราโอเกะแบบหยอดเหรียญให้บริการลูกค้าภายในร้านแสงหล้าคาราโอเกะ  เลือกและร้องเพลงตามที่จำเลยได้จัดรายการเตรียมไว้  โดยจำเลยได้กระทำเพื่อการค้า  อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย 

เหตุเกิดที่ตำบลแม่ขรี   อำเภอตะโหมด  จังหวัดพัทลุง
เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยจอมอนิเตอร์  1  จอ  และซีพียู  คอมพิวเตอร์  1  เครื่อง  เป็นของกลาง

ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537  มาตรา  4, 6, 8, 15, 27, 30, 69, 75  และ 76
ประมวลกฎหมายอาญา  มาตรา  33  ริบของกลาง  และให้จ่ายเงินค่าปรับกึ่งหนึ่งให้แก่ผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์

                           จำเลยให้การรับสารภาพ

                            ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง  พิจารณาแล้ว  พิพากษาว่า 
จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537  มาตรา  27 (1) (2) (ที่ถูก มาตรา 27 (1))  ประกอบมาตรา  69  วรรคสอง   ฐานละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่นเพื่อการค้า  ให้ลงโทษปรับ  100,000  บาท

จำเลยให้การรับสารภาพ  เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา  มีเหตุบรรเทาโทษ  ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา  มาตรา  78  คงปรับ  50,000  บาท  ไม่ชำระค่าปรับ ให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา  มาตรา  29  และ 30 

ให้จ่ายเงินค่าปรับที่ได้ชำระตามคำพิพากษาฐานละเมิดลิขสิทธิ์เป็นจำนวนกึ่งหนึ่งให้แก่ผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์  และริบจอมอนิเตอร์  1  จอ  และซีพียู คอมพิวเตอร์  1  เครื่อง ของกลาง

                            จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

                             ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว 
คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยว่า  กรณีมีเหตุสมควรที่จะลดโทษปรับให้แก่จำเลย  หรือไม่

เห็นว่า  ข้อหาความผิดตามมาตรา  27 (1) ประกอบมาตรา  69  วรรคสอง  แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์  พ.ศ. 2537  นั้น  ในส่วนของโทษปรับกฎหมายกำหนดโทษให้ปรับตั้งแต่  100,000  บาท  ถึง  800,000  บาท

ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง กำหนดโทษจำเลย  ให้ปรับ  100,000  บาท  แล้วลดโทษปรับให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา  มาตรา  78  คงปรับ  50,000  บาท  เป็นการลงโทษปรับขั้นต่ำสุดของกฎหมายแล้ว  จึงไม่อาจลงโทษปรับในสถานเบากว่านี้ได้  อุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น

                        พิพากษายืน.

นายจิระ             โชติพงศ์
นายสุวัฒน์         วรรธนะหทัย
นายวีระศักดิ์       รุ่งรัตน์