นี่ไงครับ   เห็นยัง  มีแต่คนจ้องจะชักดาบ

   นายทุนเงิน***้ทั้งหลาย เลิกซะเถิดครับ อาชีพนี้

     เลิกซะเถิดครับอาชีพนี้  นอกจากถูกสังคมตราหน้าว่าเอารัดเอาเปรียบ    ยังอาจถูกทางการยึดทรัพย์ด้วย

 และตอนนี้   ลูกหนี้  มองท่าน ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วนะครับ     เมื่อก่อนเค้าอาจจะมองท่านว่ามีบุญคุณกับเค้าแต่ตอนนี้   จ้องจะชักดาบ   จ้องจะแจ้งจับท่านฐานเรียกดอกเกินร้อยละ 1.25 ต่อเดือน   ( อัตรานี้ปล่อยให้เค้าไปหาหยิบยืมไป***้ที่ไหนได้ก็ให้เค้าไปหาเถิดครับ)

    ตอนนี้ดอกเบี้ยธนาคารเป็นขาขึ้นแล้ว     พยายามเก็บเงินขึ้นมา เอาไปฝากธนาคารดีกว่า ไม่มีใครประนามด้วย   ถึงจะได้น้อยกว่า  ปล่อย***้ แต่ ไม่เสี่ยงครับ

 ระยะยาว ผมว่าน่าจะได้ถึงร้อยละ 8 ต่อปีนะครับ

    เชื่อผม เลิกซะตอนนี้   ดีกว่า ช้ากว่านี้เดี๋ยวไม่ทันนะครับ     ไม่เชื่อลองดูกระทู้ในนี้ซิ มีแต่ลูกหนี้  จ้องจะแจ้งความจับเจ้าหนี้ทั้งนั้นเลย  แค่ร้อยละ 2 ร้อยละ3ซึ่งเมื่อก่อนถือว่าถูกมาก  ใครให้***้ราคานี้ถือว่ามีพระคุณ  แต่เดี๋ยวนี้  ไม่ใช่แล้วนะครับ

ต้องขอโทษด้วยค่ะที่ไม่ได้แจ้งวัตถุประสงค์ของการตั้งกระทู้ตั้งแต่แรก จึงขอให้รายละเอียดดังนี้นะคะ คือว่า เป็นเจ้าหน้าที่ของสถาบันการเงิน และต้องการรายละเอียดเพื่อประกอบการประเมินความเสี่ยงหรือผลกระทบที่อาจมีต่อสถาบันการเงิน สำหรับการเปลี่ยนแปลงกฎหมายดังกล่าวค่ะ...ขอบคุณค่ะ

ผมก็ต้องขอโทษเจ้าของกระทู้ด้วยครับ     เข้าใจผิดไป

  คิดว่าจะถามเพื่อหวังจะชักดาบเจ้าหนี้

 ยังไงก็ตาม  เห็นบอกว่า เป็นเจ้าหน้าที่สถาบันการเงิน

  ผมก็ขอแนะนำ  ให้ลาออก แล้วไปหางานอื่นทำดีกว่าครับ    เพราะลูกหนี้   จะพลอยเกลียดคุณ ซึ่งทำงาน เกี่ยวกับการให้สินเชื่อไปด้วย และจะถูกตราหน้าว่า ทำงานกับบริษัท ที่เอารัดเอาเปรียบประชาชน     และฝากบอกไปถึงเจ้าของบริษัท ด้วยครับว่าเลิกเถอะ  ครับให้คนติดหนี้  หรือให้สินเชื่อ  เนี๊ยะ         ปล่อยให้เค้าไปหาหยิบยืมพ่อแม่พี่น้องหรือคนใจดี ใจบุญดีกว่าครับ

   ดีกว่ามาเป็นหนี้บริษัท คุณ    เพราะคุณต้องคิดดอกเบี้ยเค้า         อยากให้พร้อมใจกันเลิกทั้งประเทศเลยครับ     คนจนจะได้ไม่ต้องเป็นหนี้      แล้วก็จะพากันรวยในที่สุดครับ

ดูเหมือนคุณ "ผมเลิกแล้วครับ" จะลืมไปแล้วว่าเราอยู่ในโลกทุนนิยม สถาบันการเงินเค้าไม่ได้มีมาเพื่อที่จะขูดเลือดขูดเนื้อจากลูกหนี้ และลูกหนี้เค้าก็ไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาที่จะชักดาบกันซะทั้งหมด ทุกอย่างในโลกนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสียค่ะ หากลูกหนี้รู้จักการบริหารเงิน ขอสินเชื่อไปเพื่อการลงทุนประโยชน์ที่ลูกหนี้ได้รับคือกำไร ประโยชน์ที่สถาบันการเงินได้รับก็คือดอกเบี้ย มันก็ WIN-WIN ค่ะจริงไหม แต่ถ้าเป็นไปในทางตรงกันข้ามแสดงว่าทั้ง 2 ฝ่ายประเมินสถานการณ์ผิด มันก็จำเป็นต้องมีกฎกติกามารยาทซึ่งก็คือกฎหมายที่จะเป็นตัวตัดสินว่าใครควรจะรับผิดชอบต่อความเสียหายเท่าไหร่ อยากให้คุณ "ผมเลิกแล้วครับ" ทำใจให้กว้าง ชีวิตจะได้มีความสุขบ้าง ....ขอบคุณค่ะ

   ผมเข้าใจในทุกอย่างที่คุณ ว่ามาครับ เข้าใจแบบถ่องแท้เลยครับ       เพียงแต่ตอนนี้ภาพลักษณ์ หรือทัศนคติ ที่คนทั่วไปมีต่อ "เจ้าหนี้"   มันเปลี่ยนแปลงไปในทางลบ ครับ    เพราะมีคนพยายามทำเป็นว่ายืนอยู่ฝ่ายลูกหนี้    ว่าฉันเป็นพวกเดียวกับเธอนะ  อย่าไปยอมมันนะ มันเอาเปรียบนะ      ฉันช่วยเธอ     แล้วคราวหน้าเธอเลือกฉันนะ