ReadyPlanet.com


คดีข่มขืน


บังเอิญว่ามีคดีความเกี่ยวกับคนในครอบครัวครับ จึงขอรบกวนปรึกษาเพื่อหาความยุติธรรมให้กับทั้งผู้เสียหายและผู้กระทำผิด

เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อ 3 วันก่อน หลานชายผม (อายุ 15) แอบไปจัดงานวัดเกิดอยู่กระท่อมปลายนาในช่วงกลางคืน กับเพื่อนผู้ชายที่เรียนด้วยกัน (อายุ 15) อีก 2 คน และอายุ13 อีก 1 คน รวมทั้งหมด 4 คน

แล้วจู่ๆ ไม่รู้เขานึกยังไง ดันให้เพื่อนไปตามเพื่อนนักเรียนหญิง (อายุ 13 แต่ตัวโตมาก เหมือนอายุ 16 เลยทีเดียว) ที่แอบชอบเขาอยู่ (ผู้หญิงส่งจดหมายมาหาเขาบ่อยๆ หลักฐานที่เป็นจดหมายก็ยังมีอยู่) ให้มาร่วมงานด้วยครับ ซึ่งการไปตามครั้งแรกยายของเด็กก็ไม่ให้ออกมา แต่สักครู่เด็กผู้หญิงคนนั้นก็แอบหนียายตามออกมาหาที่กระท่อนที่เกิดเหตุเอง

เหตุการณ์ที่หลานผมเล่าผมคือ เพื่อนคนหนึ่งพยายามลวนลามเด็กหญิงคนนั้นโดยการไซร์ซอกคอ แต่หลานผมได้เข้าไปห้ามและตัวเขาเองไม่ได้ทำอะไรเด็กหญิงเลย แต่ก็ไม่มีอะไรกันมากไปกว่านั้น สุดท้ายหลานผมก็พาเด็กหญิงกลับไปส่งที่บ้าน และมาทราบภายหลังว่าหลังจากที่ส่งกลับถึงบ้านแล้ว เด็กหญิงยังได้แอบออกมาเที่ยวนอกบ้านต่อ

3 วันต่อมา ยายของเด็กหญิงพาหลานสาวมาแจ้งความว่า โดนเพื่อนคนนั้นกับหลานผมข่มขืน โดยที่เพื่อนเริ่มก่อน แต่ไม่สำเร็จ หลานผมเป็นคนที่สองแต่ทำสำเร็จ อีก 2 คนที่อยู่ด้วยไม่เกี่ยวข้อง

ลักษณะที่เขามาแจ้งความคือ แจ้งว่า 2 คนคือหลานผมกับเพื่อนอีกคนข่มขืน เรียกร้องเงิน 5 แสนบาท (จริงๆแล้ว ในตระ***ลของยายคนนี้ก็เคยมีคดีแบบนี้และเรียกเงินไปได้ 1 แสนบาทมาแล้ว ถึงรุ่นหลานยายร้องขอถึง 5 แสนบาทเลยทีเดียว) สอบถามคนแถวบ้านนั้นก็ทราบว่าพฤติกรรมของเด็กหญิงก็ไม่ธรรมดา ออกเที่ยวกลางคืนบ่อยๆครับ

แต่ตกลงกันไม่ได้ เพราะหลานผมปฏิเสธ และเพื่อนที่กอดจูบและไซร์ซอกคอ ยอมรับว่ามันได้ไซร์ซอกคอจริง (รอยที่คอก็ยังปรากฏอยู่ถึงวันนี้) แต่ไม่ได้ทำอะไรมากกว่านี้

เมื่อพนักงานทำการสอบสวนสอบสวนหลานผมก็ให้การปฏิเสธ และเพื่อนที่ไซร์ซอกคอ ให้การยอมรับว่าได้ไซร์ซอกคอจริง แต่ไม่ได้ทำอะไรมากกว่านี้ เช่นกัน

ตำรวจเลยให้ส่งผู้เสียหายไปตรวจหาร่องรายการข่มขืนที่โรงพยาบาล ปรากฏว่า โรงพยาบาลแจ้งว่าตรวจไม่ได้เพราะเลย 3 วันแล้ว ก็เลยจะส่งเข้าไปที่โรงพยาบาลในตัวจังหวัด (ซึ่งผมคิดว่า คงตรวจไม่เจอ เพราะถ้าเจอร่องรอย อะไรบ้าง หมอก็น่าจะบอก แต่นี่ตรวจแล้ว หมอเพียงบอกว่า เครื่องมือไม่พอไม่สามารถชี้ชัดได้ ประมาณนี้)

จริงๆแล้วตอนเริ่มคดีที่น่าสังเกตุคือมีตำรวจนายหนึ่งประกบกับทางผู้เสียหายตลอดและพยายามมาพูดให้ทางฝ่ายผมยอมท่าเดียว กล่าวถึงโทษต่างๆที่หลานผมจะได้รับคือพยายามให้ทางฝ่ายผมยอมรับและเสียเงินให้ผู้เสียหายไป ซึ่งจริงๆแล้วตำรวจนายนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีนี้แต่อย่างใด แต่วางตัวเหมือนเป็นทนายของผู้เสียหายเลยทีเดียว ไปรับไปส่งดำเนินการเหมือนเป็นญาติของผู้เสียหายเลยทีเดียวครับ รวมถึงการไปตรวจหาร่องรอยที่โรงพยาบาลก็พาไปโดยตำรวจนายนี้

ที่ผมต้องการตอนนี้คืออยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนกฎหมาย ถ้าหลานผมผิดก็ยอมรับ ให้เขารับโทษไป แต่นี่เขายืนยันว่าไม่มีอะไรจริงๆ ดังนั้นจึงคงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรม

จึงอยากรบกวนเรียนถามท่านว่า

1. คดีเดินทางมาลักษณะนี้แล้ว น่าจะรอผลการตรวจร่างกายครั้งที่ 2 เพื่อเป็นการชี้ชัดใช่ไหมครับ

ถ้ามีร่องรอยการข่มขืน จะพิสูจน์ออกมาได้หรือไม่ว่า ใครเป็นคนทำ เพราะเหตุการณ์ผ่านเลยมา ถึง 3 วันแล้ว และดูจากส่วนประกอบต่างๆ เช่น กลับไปส่งที่บ้านแล้ว แต่เด็กก็ยังออกมาเที่ยวต่อ หรือ การที่เขาสามารถสร้างหลักฐานขึ้นมาเพื่อให้เห็นเป็นร่องรอยว่ามีการข่มขืน จะสามารถบ่งชี้หรือสรุปได้ไหมว่าใครเป็นคนทำ ?

2. ถ้าไม่มีร่องรอยการข่มขืน ความเสียหายในส่วนของ อนาจาร (ไซร์ซอกคอ) น่าจะมีอยู่ แต่การเรียกร้องเงิน 5 แสนบาทนั้น มันมากเกินไป ควรจะหาทางออกยังไงดี เด็กก็ยังเรียนหนังสืออยู่ทุกคน ?

3. ถ้าสรุปว่าไม่ได้ข่มขืน เราสามารถฟ้องกลับยายฐานหมิ่นประมาทได้ไหมครับ (เพราะเขายืนยันที่จะแจ้งความว่าโดนหลานผมข่มขืน) และลักษณะยายในตอนนี้เหมือนกำลังร่วมมือกับตำรวจนายนั้น ใช้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ มาหาเงินจากตรงนี้อย่างชัดเจน ?

ถ้าเราทำผิดจริงก็ยินดีชดใช้และรับโทษครับ ถ้าไม่ได้ทำผิดก็อยากเรียกร้องความยุติธรรมเช่นกัน

เมื่อคดีได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว ผมรบกวนขอความคิดเห็นจากท่าน ถึงทางออกที่ดีที่สุดครับ



ผู้ตั้งกระทู้ ยุทธนา :: วันที่ลงประกาศ 2005-10-28 16:12:54 IP : 58.136.199.39


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (271937)

เรื่องที่สอบถาม มา ก็เป็นเรื่อง การพิสูจน์ ว่า ไม่ได้กระทำความผิด ตามที่ถูกกล่าวหา

ซึ่ง ในความผิดเรื่องข่มขืน กระทำชำเรา นั้น ศาลจะลงโทษ  ได้ก็ต่อเมื่อ มีหลักฐานที่ชี้ชัดได้ว่า มีการข่มขืน กระทำชำเรา ฝ่ายหญิง จริง  หมายถึงหลักฐานใดๆ ที่ พิสูจน์ได้ว่า ได้มีการรุกล้ำ เข้าไปในช่องคลอดของฝ่ายหญิง

 หาก มีการกระทำ หรือไม่ได้กระทำ สามารถตรวจหา หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ได้ไม่ยาก ครับ  เรื่องที่ถามมา ดูแล้วฝ่ายคุณ ไม่น่าหนักใจเท่าไหร่ หากไม่ได้ข่มขืน จริง เพราะ กว่า ตำรวจจะสรุปสำนวน ส่งฟ้อง คงต้องมีหนักฐานประกอบการพิจารณาสั่งฟ้องพอสมควร เช่น รายงานการตรวจพิสูจน์ อวัยวะเพศ ของผู้หญิง  และต้อง พาผู้หญิงไป ชี้ที่เกิดเหตุ (สถานที่ถูกข่มขืน) มีการตรวจและเก็นหลักฐาน จากที่เกิด เหตุ เช่น คราบอสุจิ ในที่เกิดเหตุ เพื่อประกอบการ ส่งไปให้พนักงานอัยพิจารณาว่า จะฟ้องหรือไม่ หาก ไม่ มีหลักฐานเช่นว่า นั้น ทางฝ่าย ผู้หญิง ก็น่าจะลำบากครับ เพราะไม่มีหลักฐานอื่นใด เลย ที่จะชี้ชัดได้ว่า มีการข่มขืน จริง นอกจากคำกล่าวอ้างของเด็กหญิง เท่านั้น  ซึ่งจะต้องพิสูจน์ ในการดำเนิน กระบวนการยุติธรรม เช่น นำมาเบิกความต่อศาล และให้ ฝ่ายจำเลยถามค้าน  ครับ

หาก หลานคุณไม่ได้กระทำผิดจริง ก็ปฎิเสธไปก่อน ทุกข้อหา ครับ  แล้วอาจจะไปร้องขอความเป็นธรรม ต่อ พนักงานอัยการ เพื่อขอให้สั่งไปฟ้อง ในภายหลัง ก่อนเรื่องจะสู่ศาล ได้ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ปมุข 0-1820-2236 วันที่ตอบ 2005-10-29 07:01:10 IP : 58.136.3.229


ความคิดเห็นที่ 2 (3239878)

ดิฉันเป็นทนายความฝึกใหม่และได้คดีบุกรุกกระทำชำเรามาค่ะ

แต่ข้อเท็จจริงมีอยู่ว่าทั้งจำเลยและผู้เสียหายเป็นญาติกันเข้าออกบ้านขอ่งผู้เสียหายและค้างคืนบ้านผู้เสียหายเป็นปกติ

ผู้เสียหายอ้างว่าจำเลยได้กอดจูบ ลูบคลำและใช้มือล่วงลำเข้าไปในอวัยวะเพศของผู้สียหายหลายคร้งแล้วค่ะ

และผู้ปกครองของผู้เสียหายเรียกเงิน  5  หมื่นบาท  จำเลยปฎิเสธที่จะไม่รับทุกข้อหา 

อยากทราบว่าจะสืบพยานโจทก์ให้แตกอย่างรัยได้บ้างคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อิญ วันที่ตอบ 2011-03-13 18:14:08 IP : 101.109.91.3



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.