ReadyPlanet.com


จากกระทู่เดิม "สินสมรสหรือว่านิติกรรมอำพราง (ด่วนค่ะ))


ต่อจากเดิมนะค่ะ คือตอนนี้เค้าให้เงินดิฉัน 70000 บาทเพื่อให้หย่ากับเค้าโดยเค้าจะสลักหลังใบหย่าว่าจะคืนทรัพย์สินและบ้านให้โดยเค้าจะปิดส่วน กบข.เค้าภายในสิ้นปีนี้ ส่วนที่เหลือให้ดิฉันรับผิดชอบ ซึ่งดิฉันบอกว่าถ้าอย่างนั้นให้เค้าปิดหมดเลยเพราะเค้าผิดสัญญากับดิฉันก่อน และเค้าก็บอกว่าถ้าเค้าปิดหมดเค้าจะประกาศสขายบ้านแล้วแบ่งกันคนละครึ่ง ซึ่งอยากเรียนถามว่า ถ้าดิฉันไม่ยินยอมเค้าสามารถที่จะขายได้หรือไม่ โดยให้ทางธนาคารประกาศขาย และถ้าดิฉันจะทำเรื่องฟ้องศาลให้ยกเลิกนิติกรรมที่ทำว่าเป็นนิติกรรมอำพรางดิฉันจะต้องทำอย่างไร และการพิสูจน์ว่าทรัพย์สินตรงนี้ไม่ได้เป็นสินสมรสดิฉันต้องทำอย่างไร และมีหลักฐานอย่างไรบ้างค่ะ


ผู้ตั้งกระทู้ คุณกบ :: วันที่ลงประกาศ 2006-03-15 23:42:43 IP : 203.113.51.68


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (418018)
ช่วยบอกเล่าท้าวความเรื่องเดิมซักนิดนะ .. ขอบคุณนะ เพราะไม่ทราบความเดิม
ผู้แสดงความคิดเห็น nor วันที่ตอบ 2006-03-16 01:47:39 IP : 203.153.173.195


ความคิดเห็นที่ 2 (418144)

ความเดิมนะค่ะ

เดิมทีที่ดินเป็นชื่อของพ่อดิฉันซึ่งติดจำนองธนาคาร ธกส.อยู่ 86000 บาท ต่อมาดิฉันได้แต่งงานกับแฟนซึ่งรับราชการทหารและเราได้ตกลงกันว่าจะไถ่ถอนที่ดินให้พ่อโดยใช้สิทธิ์ กบข. ในการ***้ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ซึ่งมีเงื่อนไขว่าจะต้องทำในลักษณะไถ่ถอนหรือซื้อบ้านและที่ดิน ซึ่งถ้าไถ่ถอนจะได้ตามวงเงินที่นำไปไถ่ถอน แต่สามีอยากได้เงินมาซื้อรถกับปรับปรุงบ้านพร้อมไถ่ถอน (ยืมเงินก้อนมาปิดที่ ธกส.) พ่อดิฉันจึงได้ทำสัญญาในลักษณะซื้อขายบ้านพร้อมที่ดินให้ดิฉันกับสามีโดยชื่อสามี***้ดิฉัน***้ร่วมดังนั้นกรรมสิทธิ์จึงเป็นกรรมสิทธิ์ร่วมกัน โดยตกลงซื้อขายกันที่สำนักงานที่ดินจังหวัดในราคา 120000 ซึ่งเจ้าหน้าที่ก่อนที่จะเสียภาษีสอบถามว่าพ่อขายให้ลูกใช่หรือไม่ดิฉันก็ตอบว่าใช่เพราะจะทำให้เสียภาษีน้อยกว่าราคาที่ธนาคารประเมินไว้ ต่อสามีนอกใจและหาเรื่องหย่ากับดิฉันไม่ว่าจะเป็นการทำร้ายร่างกายจิตใจด้วยวาจาและการกระทำ ไปถึงบุพการีของดิฉัน โดยเค้าบอกว่าถ้าไม่หย่าเค้าจะประกาศขายที่ดินและบ้านของดิฉันแล้วแบ่งกันคนละครึ่ง (เค้าอ้างว่าเป็นสินสมรส) ทั้ง ๆ ที่เป็นมรดกของพ่อดิฉันมา 30 ปีแล้ว และถ้าดิฉันจะฟ้องหย่าเค้าศาลจะตัดสินเรื่องที่ดินบ้านคืนและบังคับให้เค้านำเงินมาปิดเงิน***้ กบข.เค้าได้หรือไม่เพราะทุกวันนี้เค้าก็ไม่กลับเข้าบ้าน ไม่ได้ส่งเสียเลี้ยงดูครอบครัวเลย(ยังไม่มีลูก) และพึ่งทำเรื่อง***้ได้แค่ 9 เดือนเองดิฉันไม่อยากให้เรื่องมันยืดเยื้อสงสารพ่อกับแม่ต้องมานั่งกลุ่มใจตอนแก่

ผู้แสดงความคิดเห็น กบ วันที่ตอบ 2006-03-16 09:13:18 IP : 125.24.90.100


ความคิดเห็นที่ 3 (418614)
-ถ้าเจตนาที่แท้จริงคือคุณพ่อของคุณต้องการโอนบ้านให้คุณ...แต่เพื่อต้องการเงิน***้จากธนาคารจึงทำสัญญาซื้อขายจากคุณพ่อ ...จึงเข้าองค์ประกอบของการทำนิติกรรมอำพราง....สามารถฟ้องศาลเพื่อพิพากษาให้เป็นไปตามเจตนาที่แท้จริงได้..คือการให้....ซึ่งคุณย่อมมีสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว......แต่ต้องมีการดำเนินการทางศาล.....ขอแนะนำให้คุณติดต่อทนายความเพื่อปรึกษาในรายละเอียดอีกครั้งเพื่อจะดำเนินการในทางที่เหมาะสมต่อไป...เรื่องพยานหลักฐานทนายจะให้คำแนะนำคุณเอง.......ลองหาทางติดคุณปมุขดูนะครับ ....       .แต่ถึงอย่างไรเรื่องเงิน***้คุณก็คงต้องรับผิดใช้หนี้ต่อไปตามสัญญาครับ...
ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เฒ่า วันที่ตอบ 2006-03-16 15:21:52 IP : 203.172.255.150


ความคิดเห็นที่ 4 (420136)

ขอบคุณมากค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น กบ วันที่ตอบ 2006-03-18 11:58:25 IP : 125.24.68.187



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.