ReadyPlanet.com


ทรัพย์สินหลังการหย่า


ผมหย่ากับภรรยาตั้งแต่ 22เมษายน2548สาเหตุเพราะสงสัยภรรยาแอบไปมีชู้ กับคนงาน ซึ่งมีเรื่องราวจนภรรยาผมไล่ภรรยาของคนงานไป แต่รับคนงานผู้ชายไว้(สงสัยว่าจะเป็นชู้กัน)ผมพยายามจับผิดแต่ไม่ได้ผล แต่มีบุคคลเห็นไปด้วนกันสองต่อสองหลายครั้ง ผมต้องทนทรมาณและทะเลาะกันนานร่วมปี จึงตัดสินใจหย่า อีกทั้งภรรยาก็ท้าผมหย่าหลายครั้ง ไม่เคยสนใจดูแล แม้ยามเจ็บป่วย แต่กับชายชู้ส่งยาถึงบ้าน(เป็นบ้านคนงาน)โดยมีข้อตกลงว่า1.บุตรทั้ง2คนอายุ9ปีและ6ปี อยู่ในความดูแลของผม 2.ทรัพย์สิน มีที่ดิน(ชื่อเป็นของภรรยา ซึ่งซื้อมาหลังสมรส) บ้าน(ผ่อนกับธอส.มาแล้ว 2ปี เป็นของการ***้ร่วม ส่วนของภรรยาเป็น***้ 100 % ของผมโครงการกบข.ของราชการ)และกิจการโรงเตาอิฐมอญ(เช่าที่ดิน คนอื่นทำ โดยตกลงกันด้วยวาจา)ยกให้บุตร 3.อื่นๆ (ไม่มี) เรื่องหนี้สินและทรัพย์สินอื่นๆตกลงกันข้างนอก โดยตกลงว่า บ้านให้ภรรยาผ่อน เพราะผมไม่สามารถเข้าไปอยู่ได้ สาเหตุเกิดจากภรรยาผมมีสามีใหม่โดยยังไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน  ผมพยายามตกลงแบ่งทรัพย์สินแต่ถูกกีดกัน จากญาติ พยายามหาทนายมาสู้เรื่องสินสมรส แต่ขาดทุนทรัพย์ เคยคิดเป็นฆาตรกรหลายครั้งแต่สงสารลูก เลยไม่ทำ ทุกวันนี้ เงินเดือนผมไม่เคยเหลือ ต้องหางานช่วงหลังเลิกงานและวันหยุดเพื่อเลี้ยงตัว บางเดือนต้องหายืมเงินนอกมาจ่าย ผมควรทำอย่างไร คำถาม1.บ้าน หากผมไม่ต้องการอยู่เพราะภรรยาครอบครองกับชายชู้ รวมทั้งญาติของภรรยาก็เกลียดผมกีดกันผม ตั้งแต่ยังไม่ได้หย่ากัน และไม่อยากให้มาหักเงินเดือน (ทางการเงินบังคับ)ควรทำอย่างไร

2.หนี้สิน ร่วม 5แสน ที่ทางภรรยาเพียงแค่เซ็นต์รับรู้ จะฟ้องให้ทางภรรยาช่วยใช้หนี้ได้ไหม ตอนหย่าไม่ได้ลงบันทึกไว้ ควรทำขั้นตอนอย่างไร

3.ทรัพย์สินอื่นๆ(รถยนต์ เป็น ชื่อของผม ทรัพย์สินภายในบ้าน แอร์ ทีวี ตู้เย็น เครื่องเรือนและอื่นๆ) ที่ซื้อหามาหลังสมรส จะฟ้องแบ่งได้ไหม



ผู้ตั้งกระทู้ ผู้ทุกข์ใจจนแทบอยากจะฆ่าตัวตายอยู่แล้ว :: วันที่ลงประกาศ 2006-03-14 11:39:44 IP : 203.113.67.38


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (417507)

-ขอลำดับความตามที่คุณเล่า.....คุณซื้อบ้านเงินผ่อนโดยใช้โครงการเงิน***้ของ กบข.  ต่อมามีปัญหาครอบครัวจึงหย่ากับภรรยาและแยกออกมา...แต่ยังผ่อนบ้านอยู่เช่นเดิม.....ผมเข้าใจถูกต้องหรือไม่........ถ้าเป็นเช่นที่ผมเข้าใจ....

---คุณจำเป็นต้องตัดสินใจครั้งใหญ่ในชีวิตครับ....เมื่อบ้านก็ไม่ได้อยู่...จะมานั่งทนผ่อนชำระอยู่ทำไม.....ควรหาทางติดต่อกับธนาคารแจ้งเหตุผลความจำเป็นว่าคุณไม่สามารถผ่อนชำระกับธนาคารต่อไปได้.....ให้ธนาคารทำการบังคับจำนอง...นำบ้านออกขายทอดตลาดเพื่อใช้หนี้.....ถ้าใช้หนี้ยังไม่หมด...ก็คงคงเหลืออีกไม่มากนัก..คงอยู่ในวิสัยที่คุณจะผ่อนต่อไปได้ไม่ใช่ เป็นหนี้ 5 แสนแล้วยอมก้มหน้าผ่อนไปเป็น 10-20 ปี แต่ไม่มีโอกาสได้เป็นเจ้าของ....

--ทรัพย์สินอื่นๆในบ้านเช่น  แอร์  ทีวี  ตู้เย็น  ......แม้เป็นสินสมรสคุณมีส่วนเป็นเจ้าของด้วย.....ขอแนะนำให้คุณตัดใจสละไปเถอะครับ..อย่าไปห่วงอาลัยของนอกกายเหล่านี้เลย  ถ้าคิดจะฟ้องร้องยิ่งทำให้คุณชอกช้ำใจมากกว่า...เพราะคงต้องมีประเด็นโต้แย้งกันนัวเนีย..คุณอาจทำใจไม่ได้..อาจตัดสินใจอะไรผิดๆไป...น่าจะไม่คุ้ม.....ไม่ตายคงหาใหม่ได้ครับ.....แนะนำให้คุณหลีกหนีปัญหาไปให้ไกลตา..อย่ามัวมานั่งพะวงกับเรื่องเก่าๆจะทำให้เสียสุขภาพตจิตเปล่าๆ.....ถ้าสามารถทำได้ควรหาทางย้ายที่ทำงานอาจทำให้สภาพจิตใจขึ้นดีขึ้นครับ.....ด้วยความปรารถนาดี

ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เฒ่า วันที่ตอบ 2006-03-15 15:11:40 IP : 203.172.255.150


ความคิดเห็นที่ 2 (422713)

ฮืมผมก็โดนแบบเดียวกับเจ้าของกระทู้ครับแต่ยังไม่มีลูก  เมียจะไม่รับผิดชอบหนี้สินจะทิ้งไว้ให้ผมคนเดียว   และทนายก็แนะแบบว่าให้ทำใจครับ    แต่ผมอยากบอกว่าถ้าเป็นเงิน 50,000-100,000  ไม่เป็นไรครับ  แต่นี่ 500,000 กว่าครับรับคนเดียวเลย แล้วจู่ๆทนายมาบอกให้ตัดใจทำใจอย่างนี้  ผมรับไม่ได้หรอกครับ  500,000 นะครับไม่ใช่5 บาท  ลมปากกินแทนข้าวไม่ได้ครับ เงินซื้อข้าวได้ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น โจ วันที่ตอบ 2006-03-21 12:44:07 IP : 58.10.84.133


ความคิดเห็นที่ 3 (424139)

-ขอเรียนท่านว่ากฎหมายไม่ใช่แก้วสารพัดนึกที่จะสามารถแก้ปัญหาชีวิตได้ในทุกๆเรื่อง  เปรียบเสมือนคนไข้หนักแม้จะมีเงินกองท่วมหัวจ้างหมอดีดีมารักษาก็ใช่ว่าจะช่วยชีวิตเขาได้เสมอไป...คุณก็คงได้พบได้เห็นเป็นประจำในชีวิตประจำวันอยู่เนืองๆ...

-ดังนั้นบางครั้งจำเป็นต้องเอาหลักธรรมะมาช่วยแก้ไขปัญหาชีวิตครับ....คือการปล่อยวาง  ไม่ยึดมั่นถือมั่นจนเกินไป  คนส่วนใหญ่ในโลกเขาจึงต้องมีศาสนาเป็นที่พึ่งทางใจ.....เมื่อให้ทำใจคุณรับไม่ได้..ถ้าคุณคิดว่าคุณเสียสิทธิคุณก็สามารถฟ้องร้องได้...ที่เขาให้ทำใจเพราะเขาพอมองออกว่ามันไม่คุ้มค่าในการฟ้องร้อง....แต่ถ้าคุณไม่เชื่อถือคุณก็ดำเนินการไปตามที่ต้องการได้.....ลมปากบางทีกินแทนข้าวไม่ได้...แต่ลมปากจากผู้หวังดีอาจจะทำให้เงินในกระเป๋าของคุณที่มีอยู่ไม่มากนัก....ช่วยคุณต่อชีวิตของคุณไปได้อีกหลายวันก็เป็นได้......

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เฒ่า วันที่ตอบ 2006-03-22 15:58:32 IP : 203.172.255.150


ความคิดเห็นที่ 4 (2949640)
ไอ้ห่า คำตอบแต่ละอย่าง ไม่เคลีย
ผู้แสดงความคิดเห็น เป็น วันที่ตอบ 2008-12-14 07:14:55 IP : 58.137.214.6


ความคิดเห็นที่ 5 (4197468)

สิ่งที่ควรคำนึงในการเลือกซื้อกล่องดิจิตอลทีวี มีดังนี้
1.เลือกกล่องที่มีมาตรฐานของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ โดยมีสัญลักษณ์ "น้องดูดี"ด้วย คือ คู่มือการใช้งานและรีโมทต้องมีเมนูภาษาไทยเพื่อช่วยลดความสับสนการใช้งานและใส่ใจหลังการขายและระยะรับประกันกล่องทีวีเป็นเวลาอย่างน้อย 3 ปี
2.เลือกที่มีปุ่ม ปิด-เปิด และปุ่มเปลี่ยนช่อง บนกล่องทีวีตอนรีโมทหายและใช้adapterภายนอก

ผู้แสดงความคิดเห็น ดิจจี้ วันที่ตอบ 2017-07-03 12:57:47 IP : 223.207.251.19



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.