ReadyPlanet.com


ฟ้องขอแบ่งสินสมรสอีกได้หรือไม่


เรียน

    ผมแต่งงานและจดทะเบียนประมาณปี 2540 มีบุตร 2 คน จนกระทั่ง 12 ก.ค.47 ภริยาขอหย่าเพื่อต้องการเงิน 300,000.-บาท เนื่องจากติดหนี้การพนัน จึงตกลงกันด้วยวาจาว่า ภริยาได้เงินจำนวน 300,000.-บาท และทองคำรวมประมาณ 10 กว่าบาท และผมได้รถยนต์ 1 คัน ส่วนเงินสดที่เหลือและทรัพย์อื่น ๆ ในบ้านยกให้ลูกทั้งสองคน โดยในสัญญาการหย่า ภริยาให้ผมเป็นผู้อุปการะบุตร 2 คน (ขณะนี้อายุ 12 ปี และ 10 ปี) เดือนละ 6,000.-บาท จนกว่าจะจบการศึกษาชั้นสูงสุด โดยให้ภริยาเป็นผู้เลี้ยงดู และพักอาศัยในบ้านได้ (บ้านหลวง) จนกว่าผมจะสละสิทธิ์และย้าย

     ด้วยพฤติกรรมภริยาเป็นคนไม่ชอบทำงานและเล่นการพนัน ทำให้เงิน 300,000.-บาท หมดภายใน 3-4 วัน หลังจากการหย่า และทองคำทะยอยหมดลงภายใน 2-3 เดือนต่อมา ทุกวันนี้อาศัยเงินเดือนลูก 6,000.-บาทกินไปวัน ๆ ด้วยพฤติกรรมที่ชอบเที่ยงเตร่ ดื่ม ปล่อยให้ลูกอยู่บ้านตามลำพังบ่อย ๆ จนทำให้เงินเดือนลูกบางเดือนไม่พอ และก็โทรมาอ้างลูกต่าง ๆ นานาเพื่อขอเงินเพิ่ม จนผมต้องโอนให้เพิ่มไปบ่อย ๆ (ข้อมูลทั้งหมด สืบถามจากบุคคลแวดล้อมได้ ทั้งใน สนง. และนอก สนง.) ครับ

     ต่อมา 1 ก.พ.49 ภริยาให้ทนายยื่นโนตีสเพื่อขอแบ่งรถยนต์ที่เคยได้ตกลงกันว่าเป็นของผม ผมให้เกียรติเขาถึงไม่ทำเป็นหนังสือ ผมเคยปรึกษากับผู้บังคับบัญชาด้านกฎหมายว่า รถยนต์ดังกล่าวเป็นสินส่วนตัวไปแล้วเมื่อครั้งที่หย่ากัน ถึงจะเป็นการตกลงด้วยวาจา ก็สามารถสืบพยานได้ว่า อะไรบ้างที่ใครได้และใช้อะไรไปจริง ถ้าผมจะทวงสิทธิ์ขอแบ่งครึ่งของที่เขาใช้หมดไปบ้าง จะเดือนร้อนกันไปใหญ่ หากผมแบ่งให้ภริยาไปง่าย ๆ พอใช้เงินหมด ก็คงคิดหาทางเอาอะไรอีก สงสารลูกที่ต้องมาเห็นพฤติกรรมอะไรที่ไม่ดี ผมอยากได้ลูกมาเลี้ยงเอง ทุกวันนี้ลูกอยู่ด้วยความหวาดกลัว ถูกภริยาข่มขู่ ไม่ให้พบกับพ่อ ต้องแอบโทรหากัน หากลูกถูกจับได้ ก็จะโดนดุด่าและเฆี่ยนตี สุขภาพจิตลูกตอนนี้ไม่ดีเลย ล่าสุด ผม บุคคลแวดล้อม และพ่อแม่ภริยา-น้องสาวภริยา ต้องร่วมมือกันโกหกว่าโทรศัพท์มือถือที่ผมซื้อให้เพื่อจะได้มีไว้ติดต่อกันเป็นของน้องสาวภริยาซื้อให้ เพราะหากรู้ว่าผมซื้อให้ก็จะไม่ได้ใช้ และก็เป็นจริง เพราะภริยาเอาโทรศัพท์มือถือไปใช้เสียเองแล้ว ขณะนี้ของในบ้านซึ่งตกลงยกให้ลูกก็ทะยอยขายไปหลายรายการแล้วด้วย

     เงินทองภริยาก็หมดไปนานแล้ว ไปหลอกทางบ้านเอาเงิน เอาทองคำ มาขาย เพื่อว่าจ้างทนายให้มาแบ่งรถยนต์ ขู่ด้วยว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด (ลูกแอบฟังระหว่างภริยาคุยกับทนาย) จะทำให้เสียเงิน เสียทองโดยใช่เหตุ อยากให้ภริยามีจริยธรรมและรักษาสัจจะ เงินทองก็น้อยลงทุกที ตายไปก็เอาไปไม่ได้ น่าจะเก็บไว้ให้ลูกให้เขานึกถึงความดีเราดีกว่า

    อยากทราบว่า ภริยาฟ้องขอแบ่งรถยนต์ได้หรือไม่ โดยภริยาจะอ้างว่าเป็นสินสมรส ช่วยกรุณาแนะนำทางออกให้ด้วยครับ ไม่อยากให้ใคร อดีตภริยา โดยเฉพาะลูก ต้องเสียทรัพย์ อับอาย ไปมากกว่านี้ เพราะหากสืบพยานกันแล้ว พฤติกรรมของภริยาจะถูกเปิดเผยในทางที่ไม่ดีเลย

    ขอเน้นย้ำอีกครั้งว่า ทุกคำพูดถ้อยคำ สามารถพิสูจน์ได้ ทั้งพยานแวดล้อม บุคคล หรือแม้กระทั่งพ่อแม่ พี่น้อง ของภริยาเอง

    ขอบพระคุณครับ ที่กรุณาอ่านและให้คำแนะนำครับ

                 Kuhatong......11 ก.พ.49



ผู้ตั้งกระทู้ Kuhatong :: วันที่ลงประกาศ 2006-02-11 09:19:03 IP : 61.19.220.5


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (388218)

---เมื่อสัญญาตอนหย่าว่ารถยนต์เป็นของคุณ...ก็เป็นไปตามสัญญานั้น..ภริยาคงมาเรียกร้องอีกไม่ได้...เขาคงทำสงครามประสาทกับคุณมากกว่า...

---แนะนำให้คุณขออำนาจศาลเพื่อเป็นผู้ปกครองบุตรเพียงผู้เดียว....จะได้ดูแลเลี้ยงดูบุตรได้เต็มที่....

ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เฒ่า วันที่ตอบ 2006-02-13 11:41:48 IP : 203.113.57.41



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.