ReadyPlanet.com


จากพยาน กลายเป็นผู้ต้องหาในคดีฟ้องหมิ่นประมาทจะทำอย่างไรดีคะ



ดิฉันได้พูดคุยกับเพื่อน แล้วในระหว่างการสนทนามีการพูดคุย ว่ามีคนกล่าวระเมิดถึงเพื่อนของดิฉัน เพื่อนของดิฉันจึงแจ้งความบุคคลที่สาม ในข้อหาหมิ่นประมาท โดยขอให้ดิฉันเป็นพยานช่วยซัดทอดต่อว่าใครเป็นผู้ปล่อยข่าว แต่ดิฉันไม่ต้องการเป็นพยาน เพราะไม่ต้องการซัดทอดใคร จึงกลายเป็นว่าเพื่อนดิฉันจึงฟ้องร้องดิฉันฐานหมิ่นประมาทซึ่งหน้าแทน และจะฟ้องเพ่งเรียค่าเสียหายอีก 200 ล้านบาท โดยในวันที่คุยกันนั้น เป็นการคุยกันตามลำพัง แต่เพื่อนดิฉันอ้างว่ามีเด็กในบ้านได้ยินการสนทนาในวันนั้นของดิฉันกับเพื่อน และจะให้เด็กในบ้านของเขาเป็นพยานฟ้องดิฉัน  จากพยานดิฉันต้องกลายเป็นผู้ต้องหาในคดีฟ้องหมิ่นประมาทจะทำอย่างไรดีคะ
ดิฉันไปให้การกับตำรวจมาแล้ว รับทราบข้อกล่าวหา แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้พูดหมิ่นประมาทเพื่อน  ดิฉันควรจะทำอย่างไรดีคะ


ผู้ตั้งกระทู้ จุ้ม :: วันที่ลงประกาศ 2005-10-17 14:29:16 IP :


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (260636)

รีบหาทนายเพื่อให้ทนายช่วยเหลือโดยด่วยจะดีกว่า

เพราะว่าหากคดีอาญาผลคำพิพากษาเป็นอย่างไร คดีแพ่งต้องฟังผลตามคดีอาญา

ผู้แสดงความคิดเห็น ผุ้หวังดี วันที่ตอบ 2005-10-17 14:45:25 IP :


ความคิดเห็นที่ 2 (260643)

ดิฉันไม่เป็นผู้กล่าวหมิ่นประมาทเพื่อนเลยนะคะ และที่เพื่อนดิฉันกล่าวอ้างว่าเด็กในบ้านของเขาได้ยินเรื่องที่คุย เด็กของเขาก็เป็นคนในบ้านของเขา

ผู้แสดงความคิดเห็น จุ้ม วันที่ตอบ 2005-10-17 14:51:29 IP :


ความคิดเห็นที่ 3 (260833)

การหมิ่นประมาท และการ ดูหมิ่นซึ่งหน้า  จะแตกต่างกันนะครับ

การหมิ่นประมาท มีผู้เกี่ยวข้องอยู่ 3 คน เป็นการที่ บุคคลที่ 1 ใส่ความ บุคคลที่ 2 ต่อ บุคคลที่ 3 โดยข้อความนั้น จะเป็นการทำให้ บุคคลที่ 2 ต้องได้รับความเสียหายแก่ชื่อเสียง แต่หลักๆ แล้ว การหมิ่นประมาทเป็นการทำร้ายต่อชื่อเสียง ของบุคคลที่ 2

การดูหมิ่นซึ่งหน้า มีผู้เกี่ยวข้องอยู่ 2 คน คือ บุคคลที่ 1 กล่าวต่อ บุคคลที่ 2 ด้วยข้อความอันเป็นการดูหมิ่น ทำให้บุคคลที่ 2 ต้องอับอาย และลักษณะของการกระทำผิดฐานดูหมิ่น นั้น เป็นการทำร้ายต่อความรู้สึก ของบุคคลที่ 2 ครับ

แต่ไม่ว่า จะเป็นการกระทำความผิดฐานใด นั้น บุคคลที่ 1 ซึ่งจะเป็นผู้กระทำความผิดนั้น จะต้องมีเจตนา เช่นนั้นด้วย

กรณีตามปัญหาที่คุณถามมา ผมว่า กรณีของคุณ ไม่น่าจะเข้าทั้งสองกรณี เพราะในกรณีหมิ่นประมาท  คุณเป็นบุคคลที่ 3 ที่รับรู้เรื่องการหมิ่นประมาท  และกรณีดูหมิ่นซึ่งหน้า ก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะประทุษร้าย ความรู้สึก ของ บุคคลที่ 2 เป็นเพียงเล่าเหตุกาณร์ที่พบมาให้ บุคคลที่ 2 ทราบ เท่านั้นครับ

มาตรา 326 ผู้ใดใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสีย

ชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท ต้องระวาง

โทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 393 ผู้ใดดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้าหรือด้วยการโฆษณาต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน

หนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

2180/31 การที่จะเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทนั้นจะต้องเป็นการ

ใส่ความผู้อื่นโดยยืนยันข้อเท็จจริงที่ใส่ความนั้นต่อบุคคลที่สามและการใส่ความ

นั้นน่าจะทำให้ผู้อื่นที่ถูกใส่ความเสียชื่อเสียงดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง

ดังนั้น การที่จำเลยถาม ป. ว่ามีความสัมพันธ์ทางชู้สาวกับโจทก์หรือไม่ จึง

เป็นเพียงการคาดคะเนของของจำเลยเท่านั้น มิใช่เป็นการยืนยันข้อเท็จจริง

อันน่าจะทำให้โจทก์เสียงชื่อเสียงถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชังแต่ประการใด

จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท และข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าจำเลย

กล่าววาจาต่อหน้าโจทก์จึงไม่ใช่เป็นดูหมิ่นโจทก์ซึ่งหน้า จำเลยไม่มีความผิด

ฐานดูหมิ่นซึ่งหน้า

ผู้แสดงความคิดเห็น ปมุข 0-1820-2236 วันที่ตอบ 2005-10-17 17:25:24 IP :


ความคิดเห็นที่ 4 (261593)

ขอบพระคุณมากคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น จุ้ม วันที่ตอบ 2005-10-18 12:55:34 IP :



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.