ReadyPlanet.com


สินสมรสหรือว่านิติกรรมอำพราง (ด่วนค่ะ)


เดิมทีที่ดินเป็นชื่อของพ่อดิฉันซึ่งติดจำนองธนาคาร ธกส.อยู่ 86000 บาท ต่อมาดิฉันได้แต่งงานกับแฟนซึ่งรับราชการทหารและเราได้ตกลงกันว่าจะไถ่ถอนที่ดินให้พ่อโดยใช้สิทธิ์ กบข. ในการ***้ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ซึ่งมีเงื่อนไขว่าจะต้องทำในลักษณะไถ่ถอนหรือซื้อบ้านและที่ดิน ซึ่งถ้าไถ่ถอนจะได้ตามวงเงินที่นำไปไถ่ถอน แต่สามีอยากได้เงินมาซื้อรถกับปรับปรุงบ้านพร้อมไถ่ถอน (ยืมเงินก้อนมาปิดที่ ธกส.) พ่อดิฉันจึงได้ทำสัญญาในลักษณะซื้อขายบ้านพร้อมที่ดินให้ดิฉันกับสามีโดยชื่อสามี***้ดิฉัน***้ร่วมดังนั้นกรรมสิทธิ์จึงเป็นกรรมสิทธิ์ร่วมกัน โดยตกลงซื้อขายกันที่สำนักงานที่ดินจังหวัดในราคา 120000 ซึ่งเจ้าหน้าที่ก่อนที่จะเสียภาษีสอบถามว่าพ่อขายให้ลูกใช่หรือไม่ดิฉันก็ตอบว่าใช่เพราะจะทำให้เสียภาษีน้อยกว่าราคาที่ธนาคารประเมินไว้ ต่อสามีนอกใจและหาเรื่องหย่ากับดิฉันไม่ว่าจะเป็นการทำร้ายร่างกายจิตใจด้วยวาจาและการกระทำ ไปถึงบุพการีของดิฉัน โดยเค้าบอกว่าถ้าไม่หย่าเค้าจะประกาศขายที่ดินและบ้านของดิฉันแล้วแบ่งกันคนละครึ่ง (เค้าอ้างว่าเป็นสินสมรส) ทั้ง ๆ ที่เป็นมรดกของพ่อดิฉันมา 30 ปีแล้ว และถ้าดิฉันจะฟ้องหย่าเค้าศาลจะตัดสินเรื่องที่ดินบ้านคืนและบังคับให้เค้านำเงินมาปิดเงิน***้ กบข.เค้าได้หรือไม่เพราะทุกวันนี้เค้าก็ไม่กลับเข้าบ้าน ไม่ได้ส่งเสียเลี้ยงดูครอบครัวเลย(ยังไม่มีลูก) และพึ่งทำเรื่อง***้ได้แค่ 9 เดือนเองดิฉันไม่อยากให้เรื่องมันยืดเยื้อสงสารพ่อกับแม่ต้องมานั่งกลุ่มใจตอนแก่



ผู้ตั้งกระทู้ มรกต :: วันที่ลงประกาศ 2006-02-18 01:46:36 IP : 203.113.51.68


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (392929)

---คุณก็ต้องหาทางพิสูจน์ให้ศาลเห็นว่า....ที่จริงบ้านและที่ดินพ่อยกให้คุณ...คุณย่อมมีกรรมสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว......แต่ทำนิติกรรมการซื้อขายอำพรางเพื่อประโยชน์อย่างอื่นคือเพื่อให้ได้เงินมาซื้อรถ...ถ้ามีหลักฐานที่น่าเชื่อถือศาลคงให้คุณมีกรรมสิทธิ์ในบ้านและที่ดินแต่เพียงผู้เดียว....แต่การจะดำเนินการเรื่องนี้ก็ใช่ว่าเป็นเรื่องง่ายๆ....คุณต้องสำรวจดูตัวเองก่อนว่ามี อาวุธยุทโธปกรณ์ และกำลังพอเพียงหรือไม่...ก่อนที่จะเปิดแนวรบที่ต้องต่อสู้กันค่อนข้างยาวนาน.....

--คำแนะนำ....อยากให้คุณอยู่เฉยๆไปก่อน..แม้ตอนนี้บ้านและที่ดินอยู่ในสภาพสินสมรส....สามีและและภรรยาต้องการทรัพย์สินร่วมกัน...ถ้าคุณไม่ยินยอมลงลายมือชื่อในการซื้อขาย..เขาก็คงขายไม่ได้ง่ายๆ....เขาไม่กลับบ้านก็ปล่อยเขาไปก่อน......แต่ที่สำคัญคุณต้องอาศัยอยู่ในบ้านในฐานะที่เป็นเจ้าของอย่างเต็มภาคภูมิ..อย่าได้ทำน้อยใจหนีออกจาหกบ้านอีกคน  ไงๆก็กอดเสาบ้านจนวันตายไว้ก่อน......ความอดทนจะทำให้คุณชนะทุกสิ่งทุกอย่าง......ขอให้โชคดีครับ.....

ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เฒ่า วันที่ตอบ 2006-02-18 13:08:03 IP : 203.113.16.250


ความคิดเห็นที่ 2 (394033)

ขอบคุณมากค่ะ..เพราะตลอดเวลาฉันกลุ่มใจมากจนเครียดจนบางครั้งเคยทำร้ายตัวเองมา 2 ครั้งแล้ว ขอบคุณมากค่ะที่แนะนำคงต้องกอดเสาบ้านไม่ปล่อยแน่นอนค่ะ... ขอปรึกษาอีกนะค่ะว่าในกรณีที่เค้าไปมีหญิงอื่นเราสามารถที่จะทำอะไรเค้าได้ไหมค่ะถ้าเราสามารถพิสูจน์ได้ว่าเค้ามีหญิงอื่น เค้ารับราชการทหารเนื่องจากเค้าไม่ได้ส่งเงินมาเลี้ยงดูดิฉันและครอบครัวซึ่งเค้ารับปากว่าจะดูแลพ่อแม่ดิฉันนะค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น มรกต วันที่ตอบ 2006-02-20 01:55:48 IP : 203.113.16.250


ความคิดเห็นที่ 3 (396823)

--การที่เขามีหญิงอื่นก็มีทางดำเนินการได้เช่น ร้องเรียนผู้บังคับบัญชาให้ว่ากล่าวตักเตือนเขา....ถ้าเขามีความเกรงกลัวอาจกลับตัวกลับใจก็เป็นได้.....

---คำแนะนำ....ผมว่าคุณอดทนอยู่ในสภาพเช่นนี้ไปก่อนจะดีกว่า....ถ้าไปฟ้องร้องเขาอาจยิ่งเพิ่มความจงเกลียดจงชังในตัวคุณมากยิ่งขึ้น....คนกำลังตามืดตามัวเอาช้างมาฉุดคงไม่อยู่.....คิดว่าเป็นกรรมเก่า...หมั่นทำบุญตักบาตร...ฟังธรรมะ......ไม่ช้าจิตใจที่ว้าวุ่นของคุณจะค่อยๆพบทางสว่างแห่งชีวิต.....แล้วคุณจะรู้ว่า...ชีวิตนี้ไม่มีอะไรเป็นแก่นสารหรอก....ทุกคนเกิดมาเพื่อใช้กรรมเก่า......จงยึดหมั่นในความดีงาม.....กุศลผลบุญจะส่งให้คุณได้พบทางออกที่สงบร่มเย็น....เชื่อคนแก่เถอะ..ขอให้บุญบารมีที่คุณเคยกระทำจงนำทางให้คุณพบทางออกที่สุขสงบเถิด.....

ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เฒ่า วันที่ตอบ 2006-02-22 18:47:08 IP : 203.113.57.40


ความคิดเห็นที่ 4 (397300)

ถามต่อค่ะว่า...แม่ของเค้าแนะนำให้เค้าฟ้องหย่าดิฉันโดยให้เหตุผลว่าดิฉันไม่ทำหน้าที่ภรรยาจะได้ไหมค่ะ เพราะเค้าไม่กลับบ้านมาให้ดูแล และที่ทำงานก็ไม่ให้ไปทั้ง ๆ ที่บ้านพักคนอื่น ๆ ก็เห็นเค้าอยู่กันเป็นครอบครัวได้คือเอาภรรยาและลูกอยู่ในบ้านพักได้นะค่ะ แล้วก็ฟ้องหาว่าดิฉันมีหนี้สินล้นพ้นตัวและว่าส่วนใหญ่หนี้ที่เป็นพวกบัตรเครดิตแต่ละยอดของดิฉันมันไม่ถึงห้าพันบาทด้วยซ้ำไปแต่ถ้ารวม ๆ หนี้ที่มีทั้งหมดยังน้อยกว่าหนี้สินที่เค้า***้ทั้งในระบบและบัตรเครดิตนะค่ะ เรื่องฟ้องดิฉันไม่เคยคิดนะค่ะแต่ว่าแม่เค้าและตัวเค้าเป็นคนพูดขึ้นมาก่อนถ้าดิฉันคิดจะฟ้องร้องเค้าดิฉันคงไม่โง่ทำพินัยกรรมอำพรางให้เค้าตั้งแต่แรก.....ส่วนเรื่องที่ดิฉันจะแจ้งชื่อดิฉันเป็นเจ้าบ้านแทนพ่อได้ไหมค่ะ....แล้วข้าวของในบ้านถ้ายังไม่หย่ากันเค้ามีสิทธิ์ที่จะขนของใช้บางส่วนออกได้ไหมค่ะเพราะเค้าอ้างว่าเค้าซื้อแม่แต่หม้อหุงข้าวเค้ายังทยอยขนออกไปบ้างแล้วมีแต่ส่วนที่เหลือดิฉันจะทำอย่างไรไม่อยากได้แต่อยากให้ตกลงกันให้เรียบร้อยแล้วจะเอาอะไรที่เป็นของเขาไปดิฉันก็ไม่ว่านะค่ะ...

ผู้แสดงความคิดเห็น มรกต วันที่ตอบ 2006-02-23 09:17:47 IP : 203.113.51.73


ความคิดเห็นที่ 5 (399705)

---คงถือเป็นเหตุฟ้องหย่าไม่ได้  เพราะเขาทิ้งคุณไปเอง......

-ปัญหาของคุณ...เป็นปัญหาโลกแตก....คงยากที่จะแก้ไขให้ลุล่วงในเวลาอันสั้น.....แต่โปรดทำใจเถอะ....ปัญหาของคุณเป็นปัญหาสาธารณะ...คือคนเป็นจำนวนมากก็มักเจอปัญหานี้ไม่มากก็น้อย...ก็แล้วแต่ใครจะมีเทคนิควิธีการเอาตัวรอดไปได้......-

--เรื่องเข้าของเครื่องใช้ถ้ามันเป็นของเล็กๆน้อย...แนะนำว่าปล่อยไปเถอะถ้าไปยึดติดเกินไปจะทุกข์มากยิ่งขึ้น...

-----แนะนำว่าลองอดทนนิ่งเฉยไปก่อน.....แต่ถ้าเห็นว่าไม่มีทางที่จะปรองดองประนีประนอมกันได้ต่อไป....ก็หย่าให้รู้แล้วรู้รอดไป.....ควรหาคนที่วางใจได้ปรึกษาเรื่องทรัพย์สิน...สำนักงานคุณปมุขน่าจะช่วยคุณได้ถ้าคุณได้ตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว....ก็คงแล้วแต่ใจของคุณครับ...

ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เฒ่า วันที่ตอบ 2006-02-25 14:52:49 IP : 203.113.57.40



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.