กรณีของคุณ ไม่ใช่เรื่องนิติกรรมอำพรางครับ  เป็นนิติกรรมธรรมดาครับ เพราะ คุณ ก็เจตนาซื้อที่ดินจากบิดา เมื่อได้สิทธิในที่ดินแล้วก็นำเอาที่ดินไปเป็นหลักประกันเงิน***้ ของ กบข. ตามสิทธิ  (นิติกรรมอำพราง คือ การเจตนาที่จะทำนิติกรรมอันหนึ่ง และทำนิติกรรมอันหนึ่งเพื่ออำพรางนิติกรรม ที่แท้จริงไว้ เช่น ต้องการทำสัญญาซื้อขายที่ดินกัน แต่ ไม่สามารถโอนกันได้ เลยทำเป็นสัญญาเช่า ที่ดินกันไว้ แบบนี้ สัญญาเช่า เป็นนิติกรรมอำพรางการซื้อขายครับ ) 

กรณีของ คุณ เป็นกรณที่เรื่องของการจัดการสินสมรสครับ ที่ดิน ที่คุณได้มาระหว่างสมรส ถือว่า เป็นสินสมรส และหนี้ที่ก่อให้เกิดระหว่างสมรส ก็เป็นหนี้ ระหว่างสมรส ซึ่ง ทั้งสองฝ่าย มีสิทธิในทรัพย์สิน และมีหน้าที่ต้องชำระหนี้ ร่วมกันครับ  ดังนั้น กรณีของคุณนี้ ถ้าหากอยากจะได้ทรัพย์สินซึ่งเป็นที่ดินคืน ก็ต้องมีการชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ก่อนครับ แต่ปัญหาของคุณ ก็คือ การผ่อนชำระหนี้ ในระยะยาว (๒๕ปี )ซึ่งจะเอาแน่เอา นอนในอนาคต และปัญหา ก็จะเกิดตามมาอีกครับ ถ้าหาก เค้าเกิดไปมีบุตร กับ ผู้หญิงคนอื่น อีก จะทำให้การแก้ปัญหาในที่ดินแปลงนี้มีปัญหาในระยะยาวครับ  และทีสำคัญก็คือ ถ้าหาก ฝ่ายชายผิดนัดไม่ชำระหนี้ตามกำหนด ตามสัญญา หรือมีเหตุอื่นใด ที่ทำให้ไม่สามารถชำระหนี้ดังกล่าวได้ตามสัญญา เช่น  ถูกออกจากราชการก่อนกำหนด ปัญหาในที่ดินแปลงนี้ ก็จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอนครับ

ดังนั้น ทางแก้ปัญหา หรือ ทางแก้ไขปัญหาในระยะยาว ควร จะต้องมี สัญญาระหว่างกัน (สามี-ภรรยา) ที่สามารถบังคับได้ทันที และมีผลในอนาคตได้ เช่น อาจจะมีการฟ้องหย่ากันในศาล และไปตกลงกันทำสัญญากันไว้ ว่า ฝ่ายชายจะเป็นผุ้ชำระหนี้ ให้แก่ผู้รับจำนอง และเมื่อมีการชำระหนี้เสร็จแล้ว จะโอนที่ดินให้แก่ฝ่ายหญิง และหากไม่ไปโอน ให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนา หรือ หากฝ่ายชายไม่ชำระหนี้ตามกำหนด ให้ฝ่ายหญิงจ่ายไปก่อนแล้วไปยึดทรัพย์ของฝ่ายชาย มาให้ฝ่ายหญิงตามจำนวนหนี้ที่ได้ชำระไป ฯลฯ 

ตอบคำถามนะครับ

1. ดิฉันไม่หย่าจนกว่าเค้าจะมาปิดหนี้สินทั้งหมด 5 แสนบาทและให้เค้าผ่อนไปเรื่อย 25 ปี จะมีผลอย่างไรกับดิฉันในกรณีที่พ่อเสียไป (พ่อแก่แล้วค่ะ 70 กว่าแล้ว)

ตอบ กรณีหย่า หรือไม่หย่า ก็ไม่มีผล กับที่ดิน และกรณีที่บิดาคุณเสียไป  ครับ เพราะเรื่องดังกล่าวนี้ เป็นเรื่องในระยะยาว กว่าจะถึง ๒๕ ปี อาจจะเกิดเหตุการต่างๆ ขึ้นได้ครับ

2. ถ้าเค้าปิดแล้วเค้าสามารถที่จะขอแบ่งที่ดินและบ้านได้ไหมค่ะโดยอ้างว่าเป็นสินสมรสและเค้าเป็นคนส่ง ทั้ง ๆ ที่เจตนาของพ่อไม่ได้ซื้อขายในเชิงธุรกิจ ดิฉันจะทำอย่างไร แก้ไขอย่างไรกับปัญหานี้

ตอบ ได้ครับ , เพราะกรณีดังกล่าวเป็นสินสมรสอยู่แล้วครับ การแก้ปัญหา ก็คือเจรจา และทำเป็นบันทึกข้อตกลงกันไว้เป็นหลักฐานครับ

3. สัญญา***้ได้ถูกแบ่งเป็น 2 ฉบับเป็น กบข.3 แสนกว่าบาทและอีก 2 แสนกว่าบาทเป็น***้ปกติ ถ้าเค้าปิด กบข. แล้วอีก 2 แสนกว่าเค้าไม่ส่งต่อโดยให้ดิฉันส่งเอง ถ้าดิฉันไม่ส่งจะมีผลอย่างไรเพราะเค้าเป็นคน***้ที่ 1 และคน***้ที่ 2 แล้วดิฉันจะมีวิธีแก้ไขหรือป้องกันอย่างไร

ตอบ กรณีเป็นการ***้ร่วมกันครับ ถ้าหาก ลูกหนี้คนใดผิดนัด ก็ถือว่าผิดนัดทั้งคู่ครับ เจ้าหนรี้ สามารถเรียกให้ลูกหนี้ร่วมกันชำระหนี้ได้ครับ

ขอบคุณมากค่ะ